‘ณัฏฐพล’ยันไม่ต้องห่วง ระยองปิดรร.ชี้ปรับแผนรอไว้ล่วงหน้าแล้ว แจ้งครูกลุ่มเสี่ยงกักตัว
14 กรกฎาคม 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้นโยบายกับทุกกระทรวงว่าให้เข้มงวดในการใช้งบประมาณ ปี 2563 และงบฯ 2564 โดยให้ดูโครงการต่างๆส่งผลประโยชน์ถึงประชาชน และให้ปรับแนวคิดการทำงานของระบบราชการ โยงไปถึงเรื่องการประเมินผู้บริหารระดับสูงที่จำเป็นจะต้องมีผลงานเด่น และชัดเจนในแต่ละสาขาวิชางาน ตนจึงรับนโยบายมา และจะดูว่า ศธ.จะสามารถทำอย่างไรให้การประเมินภายในกระทรวงศึกษาธิการทั้งหมดมีมาตรฐานที่ตรงกับเนื้องานโดยตรง ซึ่งตรงนี้ ศธ.มีแนวทางอยู่แล้วจึงไม่น่ามีปัญหา
นอกจากนี้ เรื่องของการจ้างงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกกระทรวงได้รับไปขับเคลื่อน เพราะในภาวะวิกฤติโควิด-19 จะมีผลกระทบมากสำหรับผู้ที่ไม่มีงานทำ ในขณะเดียวกันสำหรับนักศึกษา หรือผู้ที่จบใหม่ ที่ไปทำงานในพื้นที่ทั่วประเทศไทย ก็อยากให้ทำความเข้าใจในบริบทของพื้นที่นั้นๆด้วย เพราะบางทีสิ่งที่เราอยากทำอาจจะทำไม่ได้ง่ายๆ ถ้าเราไม่มีความเข้าใจบริบทของพื้นที่นั้น จึงต้องมีการผสมผสานความคิดกันเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาแต่ละพื้นที่
นายณัฏฐพล กล่าวถึงกรณีพบชาวต่างชาติติดเชื้อโควิด-19 อยู่ใน จ.ระยอง ทำให้มีโรงเรียนและวิทยาลัยอาชีวศึกษาหลายแห่งปิดการเรียนที่โรงเรียน ว่า ตนอยากให้มองอีกมุมว่าเราต้องมีวันนี้ไม่วันใดก็วันหนึ่งอยู่แล้ว จึงขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของเราว่าเป็นอย่างไร ซึ่งตนอยากให้กำลังใจคนทำงานทุกคน เราร่วมมือกันมาจึงทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยไม่เพิ่มขึ้น และถึงวันนี้ก็ยังไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ หรือจากเหตุการณ์นี้ จึงโชว์ให้เห็นความพร้อมของท่านผู้ว่าฯ หรือผู้บริหารของจังหวัดนั้นๆที่สามารถติดตาม บริหารจัดการ หาข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นขบวนการที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนี้ไป นี่คือ new normal ของโลก และถ้ามีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นจริง ก็ต้องดูว่ากระทรวงสาธารณสุขเราจะสามารถรองรับได้หรือไม่
รมว.ศธ. กล่าวด้วยว่า สำหรับโรงเรียนและวิทยาลัยอาชีวะในพื้นที่ จ.ระยอง ขณะนี้ได้มีการปรับการเรียนการสอนที่โรงเรียน หรือที่วิทยาลัย มาเป็นเรียนที่บ้านผ่านทางออนแอร์ และออนไลน์ หรือผ่านแบบฝึกหัดแล้ว ซึ่งกระทรวงศึกษาฯได้เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์นี้มาก่อนแล้ว หากมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น ตนอยากให้ทุกคนมองถึงการขับเคลื่อนไปข้างหน้า และร่วมมือกันเหมือนในช่วงที่มีโควิด-19 ระบาดหนักๆ ที่เราสามารถฟันฝ่าตรงนั้นมาได้ วันนี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเล็กๆน้อยๆเราก็ต้องร่วมฟันฝ่า อย่าตกใจ
ทั้งนี้ ตนเคยพูดไว้แล้วในช่วงก่อนเปิดเทอมวันที่ 1 กรกฎาคม ว่าไม่ว่าสถานการณ์จะเกิดอะไรขึ้น โรงเรียนสามารถจัดการเรียนการสอนได้ในทุกรูปแบบ เพราะเด็กขาดการเรียนการสอนไม่ได้ ส่วนความเข้มข้นและความเหมาะสมจะเป็นอย่างไรนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนการที่โรงเรียนหยุดเรียนที่โรงเรียน แล้วทำการเรียนผ่านทางออนไลน์ ออนแอร์ และแบบฝึกหัด ก็จะไม่ทำให้การเรียนของเด็กขาดความต่อเนื่อง เพราะโรงเรียนได้มีการทดลองการสอนผ่านระบบนี้มาระยะหนึ่งแล้ว แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาเรียนมากขึ้นเพื่อให้ครบหลักสูตร
“ในแต่ละจังหวัดมีผู้ว่าฯเป็นผู้อำนวยการศูนย์โควิด-19 ของแต่ละจังหวัด ดังนั้น หากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกิดขึ้น ทางโรงเรียนก็ต้องประสานกับศึกษาธิการจังหวัดและศึกษาธิการจังหวัด ก็หารือกับผู้ว่าฯเป็นขั้นตอนการดูแลในพื้นที่ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาศึกษาธิการจังหวัดระยอง ก็ได้รายงานให้ผมทราบแล้ว ผมจึงทราบข้อมูลอยู่ตลอดเวลา และผมก็ได้สั่งงานไปว่า การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่ผู้ว่าฯ เพราะเราต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ผมมีตัวเลขของโรงเรียน และวิทยาลัยต่างๆ มากกว่าที่หยุดการเรียนการสอนที่โรงเรียน และทำการสอนออนไลน์ ออนแอร์ และส่งแบบฝึกหัดแล้ว แต่ต้องรอการตรวจสอบภาพว่าผู้ติดเชื้อเดินทางไปที่ใดบ้าง หลังจากนั้นจึงจะสรุปภาพรวมได้ว่ามีโรงเรียนในพื้นที่ใดปิดการเรียนที่โรงเรียนบ้าง” รมว.ศธ. กล่าว
รมว.ศธ. กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีครูโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) จ.ระยอง ไปใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ตนจึงขอให้มีการกักตัวและเพิ่มความระมัดระวัง เพราะโรงเรียนเป็นสถานที่ที่แพร่ระบาดได้ง่าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี