เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 ว่าที่ร้อยตรี ดร.ธนุ วงษ์จินดา ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวถีงการเปิดรับสมัครสอบบรรจุข้าราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วย ซึ่งจะเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 17 - 23 กรกฎาคม 2563 เอกสารสำคัญที่ต้องใช้ประกอบการสมัครสอบก็คือ "ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู" เป็นหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบวิชาชีพครูตามที่คุรุสภาออกให้ เพื่อปฏิบัติหน้าที่สอน จึงขอชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารดังกล่าว เพื่อความเข้าใจการนำไปใช้เป็นหลักฐานในการสอบบรรจุเป็นข้าราชการครู ดังนี้
1.ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หมายถึง หลักฐานซึ่งออกให้ผู้มีคุณสมบัติตามมาตรฐานความรู้และมาตรฐานประสบการณ์วิชาชีพที่คุรุสภารับรอง มีสิทธิประกอบวิชาชีพครู ซึ่งเป็นวิชาชีพควบคุมตามกฎหมาย
2.ใบอนุญาตปฏิบัติการสอน หมายถึง หลักฐานที่แสดงคุณสมบัติของผู้ถือว่ามีเฉพาะมาตรฐานความรู้วิชาชีพครูตามข้อบังคับคุรุสภา มีสิทธิประกอบวิชาชีพครู โดยอยู่ในความควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และเมื่อได้ปฏิบัติการสอนเป็นเวลาต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ปี ให้นำหลักฐานการผ่านการรับรองประสบการณ์การสอนจากสถานศึกษา ประกอบกับใบอนุญาตปฏิบัติการสอน มาขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้ ใบอนุญาตปฏิบัติการสอนนี้มีอายุ 2 ปี และสามารถขอรับใบอนุญาตปฏิบัติการสอนได้อีกครั้งหนึ่ง
โดยเอกสารทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว คือ หลักฐานที่ออกให้แก่ผู้ยื่นคำขอที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด เพื่อเป็นหลักฐานที่ใช้ในการสมัครสอบได้
กรณี ผู้มีหนังสืออนุญาตให้ประกอบวิชาชีพครู โดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ คุรุสภาถือว่าผู้ได้รับอนุญาตดังกล่าวยังไม่มีคุณสมบัติในการได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือใบอนุญาตปฏิบัติการสอน ดังกล่าว แต่สถานศึกษามีเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องการให้ผู้นั้นประกอบวิชาชีพครูในสถานศึกษาโดยไม่ผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 จึงขออนุญาตจากคุรุสภา ซึ่งเป็นการอนุญาตให้สถานศึกษารับเข้าประกอบวิชาชีพครู หากลาออกจากสถานศึกษาการอนุญาตดังกล่าวถือว่ายกเลิก หนังสืออนุญาตให้ประกอบวิชาชีพในสถานศึกษาที่อนุญาตให้เท่านั้น "มิได้เป็นหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบวิชาชีพครูได้ในสถานศึกษาอื่นๆ"
ผู้ที่ต้องการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ควรที่จะศึกษารายละเอียดในการประกาศรับสมัครอย่างรอบคอบว่าเอกสารหลักฐานที่ต้องนำไปในวันสมัคร ทั้งเอกสารแสดงวุฒิการศึกษา สาขาวิชาเอก รวมถึงเอกสารหลักฐานที่ทางคุรุสภาออกให้เพื่อแสดงสิทธิในการประกอบวิชาชีพครูให้เป็นไปตามที่หน่วยรับสมัครกำหนดให้เรียบร้อย
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา คุรุสภาได้ประกาศ เรื่อง มาตรการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยปรับเปลี่ยนกระบวนการให้บริการด้านใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ให้ยื่นผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ KSP e-Service (ระบบ KSP Self-Service กรณียื่นเป็นรายบุคคล และ KSP School กรณียื่นผ่านสถานศึกษา) ผ่านทางเว็บไซต์ของคุรุสภา www.ksp.or.th เท่านั้น ทั้งนี้ให้เข้าตรวจสอบข้อมูลว่าเอกสารหลักฐานครบถ้วนหรือไม่ ภายใน 7 - 15 วันทำการ และจะใช้เวลาดำเนินการอนุมัติใบอนุญาตประกอบวิชาชีพภายใน 30 วันทำการ เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้รับบริการให้สามารถดำเนินการด้านใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาทุกประเภทได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ระบบดังกล่าวยังสามารถพิมพ์สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ตามประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง การใช้สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้จะต้องเป็นสมาชิกของระบบ KSP Self-Service หรือ KSP School และต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพก่อน ถึงจะสามารถพิมพ์สำเนาฯ ได้ โดยสามารถตรวจสอบสถานะใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้ที่ http://www.ksp.or.th/service/license_search.php
สำหรับผู้ที่ต้องการติดต่อสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา สามารถติดต่อผ่านทาง Call center 0-2304-9899 หรือพนักงานเจ้าหน้าที่คุรุสภา ณ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดที่สมาชิกสังกัด หรือทางหน้าเว็บไซต์คุรุสภา ทางหน้าเว็บไซต์คุรุสภา หัวข้อ "ถาม - ตอบ งานใบอนุญาต" หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี