เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้ร่วมสอบปากคำนายราเมศ มหิสนันท์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188/1 หมู่ 7 ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองอุดรธานี ผู้ต้องหาลักทรัพย์ ในเคหะสถาน พร้อมของกลางจำนวนหลายรายการ อาทิ โทรทัศน์สี เสื้อวอร์ม รองเท้า นาฬิกา เสื้อยกทรง

พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ผู้เสียงหาย ( น.ส.ปิยะนาถ ใจบุญ ) อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.12 ต.สุมเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีคนร้ายงัดหอพักแล้วขโมยโทรทัศน์ และชุดชั้นในไปและว่าจะได้รับอันตราย ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามจับคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมาย

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ฯ ได้เข้าตรวจสอบเบื้องต้นได้เก็บหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดในช่วงวันเวลาเกิดเหตุโดยเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายมี 1 คน เป็นชาย ตำรวจจึงได้ออกสอบถามกับคนบริเวณแถวนั้น โดยพยานรายหนึ่งยืนยันว่าคนร้ายชื่อ กบ พักอาศัยไม่ไกลจากหอพักดังกล่าวชอบเดินผ่านหอพักและไปกดน้ำดื่มที่ต้อยตู้หยอดเหรียญเป็นประจำ เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้เข้าตรวจสอบบ้านพักของนายกบ แต่ไม่พบตัว

ล่าสุดเช้าวันนี้เวลาประมาณ 06:00 น ตำรวจเข้าตรวจสอบอีกครั้งพบนาย กบ นั่งอยู่หน้าบ้านสอบสวนรับสารภาพว่า ตนเป็นคนเข้าไปในหอพักจริง ช่วงแรกวันที่ 13 กรกฎาคม เวลาประมาณ 23:00 น เข้าไปเอาขนมเครื่องดื่ม รอบที่ 2 เวลาประมาณ 23:00 น เข้ามาอีกครั้งขโมยเอาโทรทัศน์สี ทำมาประมาณ 2-3 ครั้ง และจากการตรวจสอบในบ้านยังพบของกลางที่เป็นยกทรงของผู้เสียหายซึ่งหายไปก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 เมษายน ตำรวจจึงควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายกบ หรือราเมศ มหิสนันท์ รับสารภาพว่า ก่อนนี้ตนมีอาชีพเป็นพนักงานส่งอาหาร หลังโควิด-19 ระบาดร้านที่ตนทำงานก็ปิดกิจการ จึงออกตระเวรลักทรัพย์ สำหรับชุดชั้นในที่เอามานั้นเอามาเก็บไว้ บ้างครั้งทำเอามาสำเร็จความใคร่วันละ 1 ครั้งเพื่อความสุขทางอารมณ์นั่นเอง