วันที่ 25 กรกฎาคม 2563 เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวแนวหน้าประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 112 ม.6 บ้านแต้ ต.ธาตุ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของ ด.ต.มังกร ราชสะอาด ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป) สภ.ดอนแรด ที่ได้รับคำสั่งย้ายอย่างเร่งด่วน จาก ผบก.จว.สุรินทร์ ให้เดินทางไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภ.จว.สุรินทร์ มีกำหนดเป็นเวลา 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.2563 เป็นต้นไป หลังทราบเรื่องทาง ด.ต.มังกร ราชสะอาด จึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อผู้สื่อข่าว ว่าตนถูกกลั้นแกล้งและไม่ได้รับความเป็นธรรมที่ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติกับตน ที่สำคัญไม่ทราบว่าการสั่งย้ายครั้งนี้มาจากสาเหตุใด
ขณะผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงบ้านได้พบเห็น ด.ต.มังกร กับภรรยากำลังช่วยกันล้างถ้วยล้างจาน เลี้ยงไก่พื้นบ้านเป็นอาชีพเสริม จากนั้นได้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมว่าการร้องทุกข์ครั้งนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชาจากสาเหตุใด ซึ่ง ด.ต.มังกร เล่าว่าน่าจะมาจากเรื่องที่ตนเป็นพยานสำคัญ กรณีที่หลานตนเองชื่อ ด.ญ.จ๋า (นามสมมติ) อายุเพียง 13 ปี เคยถูก ร.ต.อ.คนหนึ่ง มีตำแหน่งเป็นถึง รอง สว. (สอบสวน) สังกัด สภ.ดอนแรด จ.สุรินทร์ “กระทำชำเรา เหตุเกิดบริเวณรีสอร์ทแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ ต.อีเซ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ ช่วงเดือนสิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ภายหลังญาติ ๆ ทราบเรื่อง ตนพร้อมด้วยนางรัตนนา มูลคำ แม่ของ ด.ญ.จ๋า (นามสมติ) ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ ทั้งนี้ก่อนที่ ด.ญ.จ๋า (นามสมมติ) จะถูกนายตำรวจคนดังกล่าวกระทำชำเรานั้น ด.ญ.จ๋า (นามสมมติ) ได้เคยเป็นคู่หมั้นกับนายณัฐพล ทาทอง ลูกชายนางมะลิวัลย์ เพชรหงษ์ อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 61 ม.10 ต.ธาตุ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ครั้งนั้นญาติพี่น้องทั้ง 2 ฝ่ายได้ทำบันทึกสัญญาข้อตกลงการหมั้นเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2560 โดยฝ่ายญาติ ด.ญ.จ๋า (นามสมมติ) ได้เรียกสินสอด เป็นเงินสด สามแสนห้าหมื่นบาท และทองหนัก 3 บาท ซึ่งในสัญญาระบุว่า การหมั้นครั้งนั้นฝ่ายชายได้วางเงินหมั้นไว้ก่อน หนึ่งแสนบาท คงเหลือ สองแสนห้าหมื่นบาทพร้อมทองหนัก 3 บาท และให้นำเงินสินสอดที่เหลือมาให้ครบภายใน 30 มิถุนายน 2560 และจะมีกำหนดการแต่งงานเมื่อ ด.ญ.จ๋าเรียนจบชั้น ม.3 ก่อน
ระหว่างการหาเงินที่เหลือมาเพิ่มเติมนั้น นายณัฐพล ทาทอง ได้ไปทำงานรับจ้างที่ กทม. ขณะที่เมื่อครบกำหนดตามสัญญา ไม่สามารถหาเงินมาวางได้ทัน จึงทำให้นางรัตนา คูคำ ซึ่งเป็นแม่ของ ด.ญ.จ๋า ได้โทรศัพท์ทวงถามกับนางมะลิวัลย์ เพชรหงษ์ แต่นางมะลิวัลย์ ได้ขอเลื่อนไปอีก 1 เดือนเพราะหาเงินยังได้ไม่ครบ จากนั้นเวลาผ่านไป 1 เดือน นางรัตนา คูคำ ได้ไปแจ้งความที่ สภ.ดอนแรด จนทำให้มีการดำเนินคดี กระทั้งศาลมีคำสั่งจำคุกนายณัฐพล ทาทอง 77 ปี แต่นายณัฐพล ทาทองให้การยอมรับ ศาลจึงลดโทษให้จำคุก 35 ปี ซึ่งตอนนี้ยังถูกจองจำอยู่ที่เรือนจำคลองไผ่ นครราชสีมา
ด.ต.มังกร กล่าวอีกว่าเรื่องที่ ด.ญ.จ๋า (นามสมมติ) หลานของตนอายุไม่ถึง 13 ปี ที่ถูกนายตำรวจคนดังกล่าว กระทำชำเรานั้น ทำให้นางมะลิวัลย์ เพชรหงษ์ แม่ของนายณัฐพล ทาทองรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม จึงได้ทำหนังสือร้องต่อ ตำรวจภาค 3 เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2562 ซึ่งครั้งนั้น ทางตำรวจภูธรภาค 3 กรรมการสอบสวนและมีหนังสือแจ้งมาว่า ผลการสอบข้อเท็จจริงและคำให้การของนางรัตนา คูคำ และ ด.ญ.จ๋า (นามสมมติ) ไม่ปรากฏว่า ร.ต.อ.คนดังกล่าวว่ามีพฤติกรรมว่ามีการกระทำชำเราแต่อย่างใด กระทั้งนางมะลิวัลย์ เพชรหงษ์ เห็นว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงทำหนังสือร้องถึงจเรตำรวจแห่งชาติ ให้มีการสอบสวนเรื่องนี้ใหม่ เพราะพบหลักฐานสำคัญที่ สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ ว่ามีการส่งตัว ด.ญ.จ๋า (นามสมมติ) ไปให้แพทย์ตรวจ และพบหลักฐานสำคัญ ที่ ตกลงยินยอมจ่ายเงินให้ร.ต.อ.คนดังกล่าวกับนางรัตนา คูคำ แม่ของ ด.ญ.จ๋า (นามสมมติ) เป็นเงินสด จำนวน ห้าหมื่นบาท จากที่เคยตกลงยินยอมค่าเสียหายเป็นเงิน สองแสนห้า หลังมีการร้องเรียนขึ้นมาอีกครั้งทำให้สารวัตรใหญ่ สภ.ดอนแรดพยายามเรียกตนเข้าพบและให้ช่วยเหลือ ร.ต.อ.คนดังกล่าวเรื่อยมา แต่ตนไม่ยอมเพราะคิดว่า จะเป็นการช่วยเหลือ คนผิด จึงถูกกล่าวหาว่าตนเป็นคนสร้างความแตกแยกในโรงพัก และกล่าวหาว่าตนลักลอบเล่นการพนันในโรงพัก อาจเป็นสาเหตุการถูกสั่งย้ายในครั้งนี้
อย่างไรก็ตามในวันเดียวกันนายประสิทธิ์ อาจหาญ อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านแต้ ม.6 ต.ธาตุ อ.รัตนบุรีกล่าวว่า ตนพึ่งรู้ข่าวว่าสารวัตรใหญ่ได้ย้าย ดาบมังกรไปช่วยราชการที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งตนเห็นว่าครอบครัวเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่าที่ควร เขาต้องเดินทางไกลกว่าเดิมไปกลับร่วมกว่า 200 กิโลเมตร ไหนต้องช่วยภรรยาประกอบอาชีพ ส่งลูกไปโรงเรียน และดูแลแม่ที่ป่วยหนักอยู่คนเดียว ตนจึงอยากวิงวอนขอความเป็นธรรมให้ดาบคนนี้ด้วย
ด้านนายทองฮวย อาจหาญ อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 65 ม.6 ชาวบ้านในบ้านแต้กล่าวว่า นายดาบเป็นคนที่ชอบช่วยเหลืองานสังคมในหมู่บ้านและช่วยดูแลความสงบในหมู่บ้านด้วย จึงไม่คิดว่านาดาบจะเป็นคนสร้างความแตกแยกในหมู่คณะได้
ขณะที่นางธนะวรรณ ไชยเซษฐ ภรรยาของ ด.ต.มังกร ราชสะอาดกล่าวว่า หลังได้รับทราบคำสั่งตนและครอบครัวมีความเครียดมาก หลังข่าวการย้ายพ่อแพร่กระจายออกไปทำให้ลูกสาวตนไม่อยากไปโรงเรียน ตอนนี้รู้สึกสงสารลูกมาก นอกจากนี้ตนและสามีต้องดูแลแม่ที่ป่วยผ่าตัดต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่ครอบครัวก็ต้องประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัว การย้ายครั้งนี้เหมือนถูกกลั่นแกล้งตนอยากขอความเป็นธรรมให้สามีครั้งนี้ด้วย อยากถามถึงสารวัตรใหญ่ สภ.ดอนแรด ว่าคนทีทำผิดทำไมไม่ย้ายแต่มาย้ายสามีตนซึ่งเป็นพยานในเรื่องการ ร.ต.อ.ที่กระทำชำเราหลานเขา ตนจะร้องเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี