นายนิรันดร์ ประดิษฐ์กุล ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเพิ่มรายได้ของกรุงเทพมหานคร ว่า จากที่ฝ่ายบริหารได้เสนองบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2564 จำนวน 75,500 ล้านบาท ซึ่งมาจากประมาณการรายรับของกรุงเทพมหานครในปี 2564 ที่ลดลงไปมาก เนื่องจากการจัดเก็บรายได้น้อยลงนอกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 แล้ว ยังมีรายได้ส่วนที่กรุงเทพมหานครยังไม่สามารถจัดเก็บได้ เช่น ค่าธรรมเนียมที่พักโรงแรม ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้พักโรงแรม ตามมาตรา 65 พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 ซึ่งตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพ.ศ.2542 มาตรา 25 กำหนดให้ กรุงเทพมหานคร อาจมีรายได้จากภาษี อากร ค่าธรรมเนียมและเงินรายได้ต่างๆ ซึ่งกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวต้องการมาเยือนและพักแรมมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก ในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 64 ล้านคน ผู้เข้าพักโรงแรมกว่า 35 ล้านคน ซึ่งน่าจะเก็บรายได้จากตรงนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีภาษียาสูบ รวมถึงภาษีน้ำมันที่ควรจะเก็บเพิ่มให้เท่ากับ อบจ. ซึ่งหากแก้ไขเพิ่มเติมใน 3 ส่วนนี้ จะทำให้กรุงเทพมหานครมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณปีละ 2,000 ล้านบาท
ด้านนายธรรมรัตน์ มุกมีค่า กล่าวว่า การแก้ไขร่างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 ในส่วนของการจัดเก็บรายได้ของกรุงเทพมหานคร 3 ประเภท ขณะนี้เรื่องยังอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยรอนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีให้สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบเพื่อแก้ไขพระราชบัญญัติฯ ส่วนการจัดเก็บรายได้จากภาษีและค่าธรรมเนียม 3 ประเภท ประกอบด้วย 1.ภาษีบำรุงกรุงเทพมหานครสำหรับน้ำมันฯ ปรับเพิ่มจากปัจจุบันจัดเก็บในอัตราลิตรละ 5 สตางค์ เป็นอัตราไม่เกินลิตรละ 10 สตางค์ โดยข้อบัญญัติฯเดิม เริ่มดำเนินการเก็บมาตั้งแต่ปี 2558 ผู้เสียภาษีมีหน้าที่เสียภาษีตามปริมาณการจําหน่าย
นํ้ามันเบนซินและนํ้ามันที่คล้ายกันนํ้ามันดีเซลและนํ้ามันที่คล้ายกัน และก๊าซปิโตรเลียมที่จําหน่ายได้ในแต่ละเดือนในอัตราลิตรละ 5 สตางค์ ทุกวันที่ 15 ของเดือน ในปี 2562 ที่ผ่านมาจัดเก็บภาษีน้ำมันฯ ได้ 134.07 ล้านบาท จากประมาณการไว้ 240 ล้านบาท เก็บได้ต่ำกว่า 105.93 ล้านบาทหากเพิ่มอัตราภาษีใหม่คาดว่าจะเก็บได้ 400-500 ล้านบาท/ปี
2.ภาษีบำรุงกรุงเทพมหานครสำหรับยาสูบ กำหนดอัตราภาษีไม่เกินมวนละ 10 สตางค์ เช่นเดียวกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดต่างๆ ซึ่งมีการเก็บมานานหลาย 10 ปีแล้ว คาดว่าจะสามารถเก็บได้ไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท/ปี และ 3.ค่าธรรมเนียมบำรุงกรุงเทพมหานครจากผู้พักในโรงแรม กำหนดให้ผู้พักในโรงแรมเสียค่าธรรมเนียมในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 ของค่าเช่าห้องพัก เช่นเดียวกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดต่างๆ คาดว่าจะสามารถเก็บได้ไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท/ปี รวม 3 ประเภทจะเพิ่มรายได้ให้กรุงเทพมหานครได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 2,000 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี