กลุ่มนักเรียนบุกศธ.ยื่น4ข้อเรียกร้องต่อ"รมว.ศธ."ให้ขจัดความไม่เท่าเทียมทางเพศและเรื่องทรงผม
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กลุ่มนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ กว่า 50 คน มารวมตัวชูป้ายข้อความ ว่า #เราไม่ใช่ตัวประหลาด , การแต่งกายนักเรียนไม่ควรถูกแบ่งแยกตามเพศกำเนิด , สิทธินักเรียน LGBTIQANs+ คือ สิทธิมนุษยชน , ตัวของหนูทำไมครูมีปัญหา เป็นต้น และเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนเรื่อง ข้อร้องเรียนจากกลุ่มนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ ต่อ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยมี นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัด ศธ.ในฐานะโฆษก ศธ.รับเรื่องแทน
ทั้งนี้ กลุ่มนักเรียนได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เช่น การตัดผมของตน การเปลี่ยนชุดจากนักเรียนชายแต่งเป็นชุดนักเรียนหญิง หรือการฉีกหนังสือสุขศึกษาที่เขียนเนื้อหาสร้างความเข้าใจผิด เรื่องของความหลากหลายทางเพศ
โดยตัวแทนนักเรียน กล่าวว่า ปัจจุบันสิทธิของนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ ไม่ได้มีการคุ้มครองอย่างชัดเจนไว้ในกฎหมายใดๆ จึงทำให้นักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศจำนวนมากถูกปฏิบัติด้วยความไม่เข้าใจในเพศวิถีของนักเรียน บางคนถูกปฏิบัติอย่างเพศชาย บางคนถูกปฏิบัติอย่างเพศหญิง โดยใช้เพศกำเนิดที่มีแค่ 2 เพศ มาเป็นตัวตัดสินเพศของนักเรียนว่าจะเป็นชายหรือหญิง และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่เข้าใจในเพศที่หลากหลายของนักเรียน ทางองค์กรนักเรียนเลว จึงขอยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ต่อ ศธ.เพื่อขจัดความไม่เท่าเทียมทางเพศให้กับนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ ดังนี้
1.กระทรวงศึกษาฯต้องปรับปรุงและแก้ไขระเบียบว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 โดยต้องระบุให้นักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศได้มีสิทธิในการเลือกทรงผมตามเพศวิถีของตนเอง
2.นักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศต้องมีสิทธิเลือกที่จะใส่ชุดนักเรียนตามเพศวิถีของตนเองและ ศธ.ต้องออกแบบชุดนักเรียนเพิ่มเติมสำหรับนักเรียนที่มีความลื่นไหลทางเพศ หรือยกเลิกการบังคับแต่งเครื่องแบบนักเรียน เพื่อให้นักเรียนทุกคนมีสิทธิที่จะแต่งกายได้ตามเพศของตนเอง
3.ตรวจสอบ เรียกคืน และยุติการจัดจำหน่ายหนังสือเรียนที่พูดถึงความหลากหลายทางเพศในมุมมองที่ไม่ถูกต้อง รวมทั้งให้ยกเลิกแบบประเมินและกฎระเบียบของโรงเรียนต่างๆ ที่ยังมีการเหยียดเพศ หรือลดทอนศักดิ์ศรีความป็นมนุษย์ของนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ
4.ขอให้ ศธ.กำชับครูและบุคลากรทางการคึกษาให้ปฏิบัติต่อนักเรียนทุก ๆ เพศอย่างเท่าเทียมกัน และห้ามดูถูก ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือกลั่นแกล้งนักเรียนด้วยเรื่องเพศ
ด้าน นายประเสริฐ กล่าวว่า ข้อเรียกร้องทั้ง 4 เรื่อง ที่นักเรียนเสนอในวันนี้ ศธ.จะรับไว้และตั้งคณะกรรมการพิจารณาว่าข้อไหนสามารถปรับแก้ หรือดำเนินการให้ทุกคนอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข เพราะเข้าใจดีว่าปัจจุบันสังคมเจริญก้าวหน้า เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หลายเรื่องจะยึดติดวัฒนธรรมเดิมคงไม่ได้ แต่ ศธ.ก็ได้ไม่ได้กำหนดวิถีชีวิตเพียงกระทรวงเดียว การจะปรับแก้กฏระเบียบใดจะต้องได้รับความเห็นชอบจากหลายๆกระทรวง โดยเฉพาะการเปลี่ยนระเบียบทรงผมปี 2518 แก้ไขว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียนในปี 2563 ที่ผ่านมา ก็เป็นการเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่เมื่อเปลี่ยนแล้วนักเรียนคิดว่ายังไม่สมบูรณ์ ศธ.ก็พร้อมจะนำข้อเรียกร้องไปประชุมหารือกับหลายฝ่ายและกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความรอบครอบและนักเรียนมีความสบายใจ ทั้งนี้ ตนจะนำเรื่องนี้รายงานให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.และรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.ได้รับทราบต่อไป คาดว่าเรื่องดังกล่าวจะแก้ไขให้เสร็จภายใน 2 - 3 เดือน ข้อให้นักเรียนมั่นใจ
ที่ผ่านมาการออกระเบียบว่าด้วยทรงผม 2563 แตกต่างจากปี 2518 เพียงข้อ 5 นักเรียนต้องห้ามปฏิบัติตน ดังนี้ (1) ดัดผม (2) ย้อมสีผมให้ผิตไปจากเดิม (3) ไว้หนวดหรือเครา (4) การกระทำอื่นใดซึ่งไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน เช่น การตัดแต่งทรงผมเป็นรูปทรงสัญลักษณ์หรือเป็นลวดลาย และเพิ่มข้อ 7 ให้สถานศึกษา รับฟังความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา หรือคณะกรรมการบริหารโรงเรียนวางระเบียบเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียน การตำเนินการตามวรรคหนึ่งให้ยึดถือหลักความเหมาะสมในการพัฒนาบุคลิกภาพที่ดีของนักเรียน และการมีส่วนร่วมของนักเรียน สถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชนท้องถิ่น ส่วนข้ออื่นๆ ก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกลุ่มนักเรียนยื่นข้อร้องเรียนแล้ว นักเรียนได้สักถาม ต่อคำถามเรื่องระเบียบว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียนปี 2563 ฉบับใหม่ว่า การเปลี่ยนแปลงได้รับฟังความคิดเห็นของนักเรียนหรือไม่ และการออกระเบียบนี้ได้เคารพรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 หรือไม่ ซึ่งนายประเสริฐ ก็ได้ตอบข้อซักถามว่า ตนเคารพรัฐธรรมนูญ แต่ตนเป็นข้าราชการประจำ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบที่วางไว้ และคงจะรับปากหรือให้คำสาบานตามที่นักเรียนร้องขอไม่ได้ ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องพักไป ทำให้กลุ่มนักเรียนไม่พอใจ และต่อว่าผู้ใหญ่ใน ศธ.ไม่รับฟังข้อเรียกร้องจากพวกตน และประกาศจะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
ขณะที่ล่าสุด นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ปลัด ศธ.ยังไม่ได้รายงานเรื่องที่มีกลุ่มนักเรียนมาร้องเรียน เรื่องความไม่เท่าเทียมทางเพศในการแต่งกาย และเรื่องทรงผม แต่สำหรับเรื่องทรงผมนั้น ตนมีความชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องระเบียบวินัยในการแต่งกาย ตนขอให้ยึดระเบียบเดิมไว้ก่อน เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ ตนไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นในการขับเคลื่อนการศึกษาไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี