จนท.น่านสนธิกำลังตรวจยึดไม้ยาง ลอบตัดจากป่าสงวนแห่งชาติ
30 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.น่าน ว่า เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 คณะเจ้าหน้าที่สนธิกำลังภายใต้การอำนวยการของ นายจีระ ทรงพุฒิ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ ร่วมกันตรวจค้นตามหมายค้นศาลจังหวัดน่าน โดยมอบหมายให้นายภูริทัศน์ แมดเมือง หัวหน้าหน่วยฯ นน.4 (ท่าวังผา) เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 7 ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน ของนางนงเยาว์ (สงวนนามสกุล) สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2563 คณะเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.4(ท่าวังผา) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาตินันทบุรีและเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าขุนน้ำยม ตรวจพบว่ามีการตัดโค่นต้นไม้ยาง 1 ต้น ที่บริเวณป่าขุนห้วยปุ๊ ท้องที่บ้านสบขุ่น และแปรรูปด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ถูกตัดทอนเป็น 2 ท่อน ถูกแปรรูปไปแล้ว จำนวน 1 ท่อน ไม้ที่ถูกแปรรูปแล้วส่วนใหญ่ถูกนำเคลื่อนที่ออกจากจุดเกิดเหตุแล้ว เหลือเพียงเศษไม้และปีกไม้บางส่วน
คณะเจ้าหน้าที่ได้ติดตามร่องรอยการชักลากไม้ดังกล่าวมาจนพบว่า มีไม้ยางแปรรูป จำนวน 2 แผ่น/เหลี่ยม กองซุกซ่อน และพบไม้ยางแปรรูป จำนวน 5 แผ่น/เหลี่ยมกองซุกซ่อนอยู่ โดยที่คณะเจ้าหน้าที่ได้สอบถามนายสมบูรณ์ นามวงค์ ผู้ใหญ่บ้านสบขุ่น แล้วได้รับแจ้งว่าบริเวณที่ตรวจพบไม้ยางแปรรูปดังกล่าวอยู่ในเขตที่ดินในการครอบครองของนางนงเยาว์ ทางนายภูริทัศน์ แมดเมือง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.4 (ท่าวังผา) จึงได้ดำเนินการขอหมายค้นจากศาลจังหวัดน่าน เพื่อเข้าทำการตรวจค้นบริเวณบ้านหลังดังกล่าว
คณะเจ้าหน้าที่ได้เริ่มทำการตรวจค้น เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 เวลา 17.50 น. ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 เวลา 16.00 น. โดยมีนายสนั่น บิดาของนางนงเยาว์ ผู้นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นทั่วบริเวณบ้าน โดยมีนายสมบูรณ์ นามวงค์ ผู้ใหญ่บ้านสบขุ่น และนายเด็จ ดาใหญ่ เป็นพยานในการตรวจค้น ผลการตรวจค้นตรวจพบและยึดสิ่งของที่ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ ซึ่งมีไว้ในความผิด หรือได้มาโดยผิดกฎหมาย ดังนี้ 1.ไม้ยางแปรรูป จำนวน 7 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.48 ลบ.ม. 2.ไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 9 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 3.10 ลบ.ม. 3.ไม้ประดู่ท่อน จำนวน 5 ท่อน ปริมาตรา 1.05 ลบ.ม.
4.ไม้ประดู่ท่อน จำนวน 4 ท่อน ปริมาตรา 0.60 ลบ.ม. (ประกอบเป็นโครงสร้างยังไม่มุงหลังคา) 5.ไม้ตุ้มเต๋นแปรรูป จำนวน 2 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.14 ลบ.ม. 6.ไม้ตุ้มเต๋นแปรรูป จำนวน 110 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 2.69 ลบ.ม. (ลักษณะตีตะปูแปะเป็นฝาบ้านลักษณะพราง) 7.ไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 28 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร ลบ.ม. (ลักษณะตีตะปูแปะเป็นฝาบ้านลักษณะพราง)
นายสนั่น ให้การว่า ไม่ทราบว่าไม้ดังกล่าวได้มาอย่างไร เนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นบ้านของนางนงเยาว์ แต่นางนงเยาว์ มีอาชีพค้าขายไม่ค่อยได้อยู่กับบ้าน นานครั้งจะกลับมาโดยปกติแล้วลูกชายของนายสนั่นเป็นผู้อยู่อาศัยประจำ ส่วนไม้ทั้งหมดจะมีหลักฐานใดหรือไม่ตนไม่ทราบ
จากตรวจสอบของคณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบไม้ทั้งหมดแล้วเป็นไม้มีลักษณะใหม่มีร่องรอยถูกแปรรูปด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ ไม่ปรากฏร่องรอยว่าได้ผ่านการใช้ประกอบเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้มาก่อน ที่หัวและท้ายของไม้ทั้งหมดไม่มีรูปรอยดวงตราใดๆ ของทางราชการตีประทับไว้แต่อย่างใด ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม 1. ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ฐาน”ทำไม้ในเขตป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต”
2. ตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐาน “ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต”, มาตรา 48 ฐาน”ทำการแปรรูปไม้ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต” , และฐาน มีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลบ.ม. โดยไม่ได้รับอนุญาต” , มาตรา 69 ฐาน “มีไม้หวงห้ามอันยังไม่ได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต”
จึงได้ทำการตรวจยึดไม้ทั้งหมด โดยใช้ดวงตา ต.8937 ย.1903 ปีย่อ 63 ตีประทับหน้าตัดหัวและท้ายของไม้ทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน และได้จัดทำบันทึกการตรวจค้น/ตรวจยึด พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำส่งร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนท่าวังผา ขอให้ทำการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี