วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
รายงานพิเศษ : สทนช.เดินเครื่องจัดทำผังน้ำ 8 ลุ่มน้ำสำคัญ แก้ปัญหาน้ำในทุกมิติ คาดแล้วเสร็จทุกลุ่มน้ำทั่วประเทศภายในปี’66

รายงานพิเศษ : สทนช.เดินเครื่องจัดทำผังน้ำ 8 ลุ่มน้ำสำคัญ แก้ปัญหาน้ำในทุกมิติ คาดแล้วเสร็จทุกลุ่มน้ำทั่วประเทศภายในปี’66

วันเสาร์ ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag : รายงานพิเศษ
  •  

สทนช. เดินเครื่องจัดทำผังน้ำ 8 ลุ่มน้ำสำคัญ ได้แก่ ลุ่มน้ำชี มูล บางปะกง แม่กลองสะแกกรัง ป่าสัก เจ้าพระยา และท่าจีนหลังประสบความสำเร็จจากผังน้ำต้นแบบที่ลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำจันทบุรี เตรียมใช้เป็นเครื่องมือบริหารจัดการน้ำยุคใหม่ มั่นใจช่วยแก้ไขปัญหาด้านน้ำในทุกมิติอย่างยั่งยืน พร้อมขยายผลให้ครบทั้ง 22 ลุ่มน้ำทั่วประเทศภายในปี’66

ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการแถลงข่าวและเปิดการสัมมนา หัวข้อ “เดินเครื่อง 8 ลุ่มน้ำจัดทำผังน้ำ เครื่องมือบริหารน้ำยุคใหม่”ณ ห้องสุทธิดา ชั้น 2 โรงแรมเอบีน่าเฮ้าส์ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ว่า สทนช.เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการจัดทำผังน้ำตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 โดยเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมาได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศึกษาโครงการจัดทำแผนหลักการจัดทำผังน้ำ เพื่อกำหนดกรอบแนวทาง วิธีการศึกษาการจัดทำผังน้ำที่เหมาะสม กำหนดรูปแบบ แผนที่ผังน้ำให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับและใช้ประโยชน์ได้ และได้คัดเลือกลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำจันทบุรี ศึกษาจัดทำผังน้ำเป็นพื้นที่ต้นแบบให้กับการจัดทำผังน้ำ ทั้ง 22 ลุ่มน้ำต่อไป และในปีนี้สทนช. ได้ขยายผลต่อยอดการดำเนินการโดยคัดเลือกพื้นที่ลุ่มน้ำที่มีความสำคัญและจำเป็นเร่งด่วน จำนวน 8 ลุ่มน้ำได้แก่ ลุ่มน้ำชี ลุ่มน้ำมูล ลุ่มน้ำบางปะกงลุ่มน้ำแม่กลอง ลุ่มน้ำสะแกกรัง ลุ่มน้ำป่าสัก ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำท่าจีน มาดำเนินการศึกษาก่อนและจะทยอยดำเนินการให้ครอบคลุม 22 ลุ่มน้ำภายในปี 2566


สำหรับกระบวนการในการดำเนินการศึกษานั้น จะต้องมีการศึกษาและทบทวนกายภาพของพื้นที่ การใช้ประโยชน์ที่ดินในอดีตถึงปัจจุบัน ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามผังเมือง การพัฒนาเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน การรวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลจากแผนที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ 1.แผนที่แสดงโครงข่ายระบบระบายน้ำในปัจจุบัน ทิศทางการไหลของน้ำ วิเคราะห์สภาพและสาเหตุของการเกิดอุทกภัยและภัยแล้ง 2.แผนที่แสดงระบบป้องกันน้ำท่วมและการบรรเทาอุทกภัย การบริหารจัดการอุทกภัย มูลค่าความเสียหายและวิเคราะห์การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา 3.แผนที่แสดงจุดประกาศภัยแล้ง การบริหารจัดการภัยแล้ง มูลค่าความเสียหายและวิเคราะห์การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา จากหน่วยงานต่างๆ จัดทำแผนที่แสดงสิ่งปลูกสร้างและโครงสร้างพื้นฐานที่กีดขวางทางน้ำ ตลอดจนการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านเพื่อนำมากำหนดขอบเขตผังน้ำ โดยใช้แบบจำลองในกรณีศึกษา อย่างน้อย 5 กรณี ดังนี้

กรณีที่ 1 กำหนดขอบเขตผังน้ำจากสภาพพื้นที่และระบบสาธารณูปโภค (โครงข่ายถนน และช่องเปิดต่างๆ) ในสภาพปัจจุบัน กรณีที่ 2 กำหนดขอบเขตผังน้ำโดยมีการปรับปรุงโครงข่ายถนนและช่องเปิดต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ผังน้ำไม่ให้เกิดการกีดขวางทางน้ำ กรณีที่ 3 กำหนดขอบเขตผังน้ำโดยมีการพัฒนาโครงการที่อยู่ในแผนของหน่วยงานต่างๆ ที่มีความชัดเจนในการดำเนินการ กรณีที่ 4 กำหนดขอบเขตผังน้ำโดยมีการปรับปรุงโครงข่ายถนนและช่องเปิดต่างๆ ในพื้นที่ผังน้ำร่วมกับการพัฒนาโครงการที่อยู่ในแผนของหน่วยงานต่างๆ และการเสนอเพิ่มเติมโดยผู้ศึกษา กรณีที่ 5 กำหนดขอบเขตผังน้ำโดยมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ การพัฒนาเมืองหรือพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญในลุ่มน้ำ ที่อาจจะส่งผลกระทบในพื้นที่ผังน้ำร่วมกับการพัฒนาโครงการที่อยู่ในแผนของหน่วยงานต่างๆ และการเสนอเพิ่มเติมโดยที่ปรึกษา

ทั้งนี้ในการศึกษาของทุกลุ่มน้ำจะต้องจัดทำแผนปรับปรุง ฟื้นฟูทางน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติที่เชื่อมโยงกับทางน้ำสายหลัก และในกรณีที่เป็นสิ่งกีดขวางทางน้ำจะต้องเสนอแนะขนาดของช่องเปิดของอาคารในลำน้ำ รวมทั้งดำเนินการศึกษาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการอุทกภัยและภัยแล้ง ซึ่งแสดงรายละเอียดข้อมูลของผังน้ำ ประกอบด้วย ขอบเขตพื้นที่น้ำท่วมถึงตลอดทั้งสองฝั่งลำน้ำ ขอบเขตพื้นที่ผังน้ำ ขอบเขตโซนพื้นที่ในผังน้ำ (พื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมระดับสูง กลาง ต่ำระดับต่างๆ) และรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ประกอบในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยมีเป้าหมายในการลดความเสี่ยงต่อการดำรงชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งในกรณีที่ได้รับอนุญาตให้มีการพัฒนาในพื้นที่ผังน้ำ จะมีหลักเกณฑ์ในการพัฒนาและการก่อสร้างเพื่อลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินจากน้ำท่วมและความเสี่ยงจากการก่อสร้างสิ่งกีดขวางทางน้ำที่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำในพื้นที่ด้วย

“การศึกษาของทั้ง 8 ลุ่มน้ำในครั้งนี้ มีระยะเวลาดำเนินการ16 เดือน เริ่มวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 และจะศึกษาแล้วเสร็จในวันที่ 20 กันยายน 2564 โดยจะมีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชน คณะกรรมการลุ่มน้ำ คณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จำนวน 4 ครั้งต่อลุ่มน้ำ เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันพิจารณา พร้อมสะท้อนปัญหาและความต้องการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้อย่างตรงจุด เพื่อให้หน่วยงานสามารถนำผังน้ำไปใช้สนับสนุนแผนงานการป้องกันแก้ไขภัยแล้งและอุทกภัย รวมทั้งการบริหารจัดการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในเขตลุ่มน้ำได้อีกด้วย” เลขาธิการ สทนช. กล่าวในตอนท้าย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รายงานพิเศษ : \'เฉลิมชัย\' เปิดงานมหกรรมผลไม้-ของดีป่าละอู ครั้งที่ 12 เน้นย้ำเกษตรกรรักษาคุณภาพชื่อเสียงทุเรียนไทย รายงานพิเศษ : 'เฉลิมชัย' เปิดงานมหกรรมผลไม้-ของดีป่าละอู ครั้งที่ 12 เน้นย้ำเกษตรกรรักษาคุณภาพชื่อเสียงทุเรียนไทย
  • รายงานพิเศษ : ‘ตำรวจไม่ทิ้งกัน’ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.นำคณะเยี่ยม  ผู้เสียสละจากเหตุปะทะในยะลา ปี 2550 รายงานพิเศษ : ‘ตำรวจไม่ทิ้งกัน’ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.นำคณะเยี่ยม ผู้เสียสละจากเหตุปะทะในยะลา ปี 2550
  • รายงานพิเศษ : ชาวผักไห่แห่ชมโขน‘พิพิธโขนวัดย่านฯพินิจภูษาจุฬาพัสตร์’ลานวัฒนธรรม-ยลศิลป์วัดย่านฯ-ยลภูษาจุฬาพัสตร์ปี2568 รายงานพิเศษ : ชาวผักไห่แห่ชมโขน‘พิพิธโขนวัดย่านฯพินิจภูษาจุฬาพัสตร์’ลานวัฒนธรรม-ยลศิลป์วัดย่านฯ-ยลภูษาจุฬาพัสตร์ปี2568
  • รายงานพิเศษ : มข.ร่วมขับเคลื่อนอนาคตดิจิทัลลุ่มน้ำโขง  นำเสนอผลงานนวัตกรรมใน Lao Digital Week 2025 รายงานพิเศษ : มข.ร่วมขับเคลื่อนอนาคตดิจิทัลลุ่มน้ำโขง นำเสนอผลงานนวัตกรรมใน Lao Digital Week 2025
  • รายงานพิเศษ : บ้านโคกสูง จ.ขอนแก่น สานแหจับปลาขาย  สร้างรายได้เดือนละ 50,000 บาท ทั้งหมู่บ้าน รายงานพิเศษ : บ้านโคกสูง จ.ขอนแก่น สานแหจับปลาขาย สร้างรายได้เดือนละ 50,000 บาท ทั้งหมู่บ้าน
  • รายงานพิเศษ : มข.ผนึกกำลังวิชาการ-ท้องถิ่น สร้างเกษตรยั่งยืน  มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจฐานรากคนอีสาน รายงานพิเศษ : มข.ผนึกกำลังวิชาการ-ท้องถิ่น สร้างเกษตรยั่งยืน มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจฐานรากคนอีสาน
  •  

Breaking News

'เขมรนิวส์'ยกย่องหญิงเขมรจุดชนวน กล้าโต้ทหารไทย ชาวบ้านฝั่งไทยไม่หวั่นพร้อมรับมือ100%

ลุ้นไทยจบตรงไหน!‘กอบศักดิ์’ยกตัวอย่าง‘อินโดฯ-เวียดนาม’ดีลลด‘ภาษีทรัมป์’สำเร็จ

แนวหน้าวิเคราะห์ : ศึก'แดง-น้ำเงิน'เดือดพลั่ก ชิงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 5 รักษาเก้าอี้‘รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ’?

‘อดีตผู้พิพากษา’ยกฎีกาคดีเลือกสมาชิกวุฒิสภา ชี้ช่องถอดถอน 138 สว.

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved