ฉบับที่แล้วเกือบจะพูดถึงกิจกรรมแอปเตอร์ในปีงบประมาณ 2020 แต่ไพล่ไปพูดถึงความคิดความเห็นในแนวทางแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงทางอาหาร เพราะกำลังเป็นประเด็นร้อนของโลก เนื่องมาจากความกังวล
เกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโควิค-19 ก็ว่ากันไปครับ เพราะถ้าไม่พูดถึงเลย ก็จะกลายเป็นตกเทรนด์สำคัญไปแต่กระนั้น ผมในฐานะที่พอมีประสบการณ์ในเรื่องความมั่นคงทางอาหารอยู่บ้าง ทราบดีว่า เรื่องนี้แม้จะมีความสำคัญมากต่อการดำรงชีวิตของพลโลก และหลายๆ ประเทศ รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศก็ให้ความสำคัญ หากแต่ในทางปฏิบัติเพื่อการจัดการให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการนั้น ไม่ง่ายเลยครับ จะเห็นได้จาก ประเทศที่ขาดแคลน ก็ยังคงขาดแคลนอยู่เหมือนเดิม มันจึงยังเป็นเรื่องที่สำคัญที่ต้องพูดถึงกันอย่างไม่จบสิ้นครับ
สำหรับปี 2020 นี้ นอกเหนือจากข้าวสำรองแบบ earmarked ที่นอนรอในโกดังประเทศใครประเทศมัน จำนวน 787,000 ตันแล้ว แอปเตอร์มีข้าวเตรียมบริจาคในเทียร์ 3 หรือแบบให้เปล่า จำนวน 1,600 ตัน โดยเป็นของประเทศญี่ปุ่น จำนวน 600 ตัน และของประเทศเกาหลีใต้ จำนวน 1,000 ตัน แต่ทั้งนี้ไม่รวมปริมาณข้าวที่ได้ส่งช่วยเหลือภัยฉุกเฉินของเกาหลีใต้ที่ให้แก่ฟิลิปปินส์ กรณีเกิดแผ่นดินไหวบนเกาะมินดาเนา และภูเขาไฟชื่อ ตาอัน ระเบิด อีกพันกว่าตัน นอกจากปริมาณข้าวสารข้างต้น ปีนี้แอปเตอร์เรามีรูปแบบการบริจาคใหม่ที่ทางประเทศญี่ปุ่นภูมิใจนำเสนอ คือ เป็นข้าวหุงสุกสำเร็จรูปบรรจุในถุงพลาสติกพร้อมบริโภค จำนวน 40,000 ถุง ซึ่งหลายฝ่ายช่วยกันพิจารณาแล้วเห็นว่าน่าจะดีและเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ภัยพิบัติมาก เนื่องจากข้าวสำเร็จรูปชนิดนี้สามารถเอาไปบริโภคได้ทันทีเพียงแต่ต้มน้ำร้อนเติมเข้าไป รอเพียงแป๊บเดียวก็ใช้ช้อนตักกินจากถุงได้เลย อันนี้ต่างจากการบริจาคเป็นข้าวสารซึ่งต้องนำไปหุงต้มอีกครั้งหนึ่ง ยุ่งยากกว่าแบบสำเร็จรูป และที่พิเศษสุดกว่านั้น คือ ข้าวสำเร็จรูปของญี่ปุ่นแบบใหม่นี้เขามีการผสมกับเครื่องปรุงมาแล้ว รสชาติอร่อยมาก มีหลายรสให้เลือกกินได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องไปหากับข้าวมาเสริม (แต่ถ้าจะเสริมก็ได้ ไม่ห้าม)
โดยก่อนที่จะนำเอาข้าวสำเร็จแบบใหม่มาใช้เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัตินี้ ทางผู้แทนญี่ปุ่นได้นำเอาตัวอย่างไปทดลองให้คณะมนตรีแอปเตอร์กินดูแล้ว ในคราวประชุมที่ประเทศมาเลเซียเมื่อต้นปีก่อน ปรากฎว่ารสชาติเป็นที่ถูกใจผู้ชิมเป็นอย่างยิ่ง มีให้เลือก เช่น รสแกงกะหรี่ที่คนญี่ปุ่นนิยมกินทั้งเมือง รสมิโสะ และรสอื่นๆ อีก อันนี้ขอบอกว่าแตกต่างจากสมัยที่ผมเคยชิมในอดีตตอนที่ไปอบรมทุนไจก้าที่โตเกียวเมื่อยี่สิบกว่าปีมาแล้ว ตอนนั้นจำได้ว่าเคยไปร้านเกี่ยวกับแคมปิ้งหรือพวกเดินป่าค้างแรม และได้ซื้อข้าวสำเร็จแบบเดียวกันมาทดลองกิน เทคนิกคล้ายๆ กัน คือ ต้องต้มน้ำร้อนเทใส่ถุงข้าวรอสักพักแล้วกิน ส่วนที่ต่างกันคือข้าวสำเร็จสมัยนั้น มันเป็นแต่ข้าวขาวเฉยๆ ไม่มีการปรุงรสเลย เวลากินต้องหากับข้าวมากินด้วย แต่กระนั้น ผมก็ไม่ยืนยันนะครับ อาจเป็นเพราะผมมีเงินน้อยเลยเลือกซื้อของราคาถูกที่มีแต่ข้าวเฉยๆ ความจริงเขาอาจจะมีแบบปรุงรสอยู่แล้วก็เป็นได้
การแบ่งสันปันส่วนข้าวช่วยเหลือตามโปรแกรมแอปเตอร์ปีนี้ ก็เป็นไปตามที่สมาชิกร้องขอแสดงความจำนง อย่างที่บอกไปแล้วว่า เรามีผู้เสนอตัวขอรับข้าวบริจาคอยู่ 3 ประเทศ คือ กัมพูชา เมียนมา และฟิลิปปินส์ เฉพาะสองประเทศหลังที่ต้องการข้าวสำเร็จรูป เราเลยหารือกับทางเจ้าของข้าว คือ ประเทศญี่ปุ่น ตกลงจัดสรรให้ทั้งคู่เท่าๆ กัน คือประเทศละ 20,000 ถุง แหมน่าอิจฉาเชียว สำหรับประชาชนผู้ที่จะได้รับบริจาคข้าวแบบนี้เพราะคงอร่อยเพลินไปเลยปีนี้ ส่วนข้าวสารธรรมดา แอปเตอร์ก็ได้จัดสรรให้ทั้งสามประเทศ โดยกัมพูชาได้ไป 300 ตัน เมียนมาได้ 900 ตัน ที่เหลือเป็นของฟิลิปปินส์ จำนวน 400 ตัน
ข้าวสำเร็จรูปและข้าวสารที่จัดสรรข้างต้น เมื่อขนส่ง (ทางเรือ) ไปถึงแต่ละประเทศแล้วไม่ได้หมายความว่าจะเอาไปแจกชาวบ้านทันทีเลยนะครับ เพราะระบบนี้เป็นระบบที่เรียกว่า prepositioned กล่าวคือต้องเอาไปเก็บรักษาไว้ในโกดังก่อนประมาณ 1 ปี รอการเกิดภัยธรรมชาติ เมื่อเกิดภัยแล้วจึงจะขออนุมัตินำออกไปแจกจ่ายอีกชั้นหนึ่งครับ
ชาญพิทยา ฉิมพาลี
chanpithya@apterr.org
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี