สลด! จนท.ชุดลาดตระเวนอุทยานแห่งชาติเขาแหลมว่ายน้ำข้ามฝั่งนำเชือกไปผูกให้เพื่อนข้ามสะดวกสุดท้ายเจอกระแสน้ำวนดูดร่างจมดับต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน ด้านปลัด ทส.และอธิบดีกรม อช.สั่งดูแลครอบครัวเต็มที่
เมื่อเวลา 14.40 น.วันที่ 6 ส.ค.63 นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.คืนวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตกว่าเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมถูกน้ำป่าพัดร่างจมน้ำเสียชีวิต ขณะกำลังข้ามลำห้วยรันตี บริเวณใกล้เคียงกับหน่วยสกัดพะบุ่ง ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ที่ไปด้วยกันสามารถค้นหาและนำร่างขึ้นมาได้ แต่ปรากฏพบเสียชีวิตแล้ว
หลังจากได้รับแจ้งตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ประชุมวางแผนร่วมกับกำนันตำบลไล่โว่ เพื่อหาทางเข้าไปนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากดึกมากแล้ว ประกอบกับน้ำป่าไหลหลากและไหลเชี่ยวอย่างรุนแรงทำให้ไม่สามารถนำเรือออกไปยังจุดเกิดเหตุได้ จึงมีความเห็นพร้อมกันว่าจะออกเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุรุ่งเช้าวันนี้ (6 ส.ค.)โดยให้เจ้าหน้าที่ไปพักค้างคืนที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไล่โว่
พร้อมกับวางแผนแบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด ชุดที่ 1 นำโดยนายศรัญภูมิ ป้องสา นายชาติตระการ บุญชู ผู้ช่วยกำนันตำบลไล่โว่ และชาวบ้านบ้านกองม่องทะ จำนวน 3 คน เดินทางโดยเรือเข้าพื้นที่ เพื่อนำร่างผู้ประสบเหตุ และเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออกจากพื้นที่
ชุดที่ 2 นำโดยว่าที่ ร.ต.หญิงชดาพรรณ ปันทา และ เจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัย จำนวน 6 นายเตรียมนำรถมารับร่างผู้ประสบเหตุ บริเวณจุดใกล้เคียง เพื่อนำส่งโรงพยาบาลสังขละบุรี และชุดที่ 3 นำโดยว่าที่ ร.ต.วิชิต อุปวัน นางสาวนุชจรี บุญพา นายพรรักษ์ กระสินธุ์ยั่งยืน และนายวีระพงษ์ บุญเลิศผาใจรักษ์ สแตนบายรอ ณ ที่ทำการกำนัน ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เพื่อประสานและนัดหมายในการรับเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออกจากพื้นที่ จนกระทั่งเวลา 11.22 น.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จึงสามารถนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาได้และขณะนี้อยู่ที่โรงพยาบาลสังขละบุรี
สำหรับผู้เสียชีวิต คือ นายภูวดล ป้องสา อายุ 27 ปี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ (ค่าตอบแทน)อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/1 หมู่ 2 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
สำหรับนายภูวดล ป้องสา ผู้เสียชีวิต ได้ออกลาดตระเวนกับเพื่อนร่วมงานอีก 5 นายคือ 1.นายทวัชชัย เงินแก้ว 2.นายเอกชัย แสนใจดี 3.นายอัจฉริยะ บุญสมยา 4.นายพรชัย ไทรสังขกุลพร 5.นายวิจิตร ณ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ทั้งหมดนอกจะเดินลาดตระเวนแล้ว ยังมีหน้าที่ติดกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าด้วย โดยเจ้าหน้าที่ทั้ง 6 นาย ออกลาดตระเวนระหว่างวันที่ 1-6 ส.ค.63
นายเทวินทร์ เปิดเผยต่อว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนหนุ่มที่ตั้งใจทำงาน เมื่อได้รับการมอบหมายงานจะทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าชุดลาดตระเวนในเส้นทางสันหนอกวัว-กองม่องทะ ตนรู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียบุคลากรที่มีคุณภาพและต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวที่ต้องมาเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป โดยนายภูวพล มีภรรยาแล้วและมีลูกด้วยกัน 2 คน คนสุดท้องพึ่งอายุได้ประมาณ 2 เดือน ภายหลังทราบข่าวตนได้รายงานผู้บังคับบัญชา โดยท่านอธิบดีกรมอุทยานฯได้สั่งการให้ตนดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต และเรื่องการจัดงานศพอย่างสมเกียรติ พร้อมให้ความช่วยเหลือในเรื่องเงินเยียวยาที่จะได้รับอย่างเต็มที่ตามระเบียบของทางราชการอย่างเต็มที่
ด้านนายอัจฉริยะ บุญยมยา เพื่อนในทีมผู้เสียชีวิต เล่าเหตุการณที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ชุดลาดตระเวนที่มีนายภูวพล ป้องสา เป็นหัวหน้าชุด เริ่มออกลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบพร้อมเก็บกล้องที่ตั้งเอาไว้สำหรับดักถ่ายสัตว์ป่า ในเส้นทางสันหนอกวัว-บ้านกองม่องทะ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ โดยออกปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเช้าของวันที่ 1 ส.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่ฝนกำลังเริ่มตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับอุทยานแห่งชาติเขาแหลม โดยชุดลาดตระเวนที่มาด้วยกัน 6 นายมามาถึงริมแม่น้ำรันตี ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดสะกัดพ่าบุ่ง ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ในช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.ขณะนั้นท้องฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว
โดยทุกคนตั้งจะข้ามไปนอนพักค้างคืนที่หน่วยพ่าบุ่ง ซึ่งอยู่คนละฝั่งแม่น้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่เคยทำกันเป็นประจำและขณะนั้นมวลน้ำในแม่น้ำรันตี เริ่มมีระดับน้ำสูงขึ้นและไหลเชี่ยว โดยนายภูวดล ที่เป็นหัวหน้าชุดลาดตระเวนได้อาสาเป็นคนว่ายน้ำข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามด้วยการใช้เชือกผูกที่เอว หวังว่าเมื่อไปถึงฝั่งจะได้นำเชือกไปผูกกับต้นไม้ เพื่อให้ทุกคนอาศัยเชือกข้ามไป ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยทำอยู่เป็นประจำเช่นกัน
แต่ครั้งนี้ด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ขณะที่นายภูดล กำลังว่ายน้ำไปถึงกลางแม่น้ำ ปรากฏเกิดกระแสน้ำไหลวนอย่างรุนแรงทำให้กระแสน้ำดูดเอาร่างของนายภูวดล จมลงไปใต้ท้องน้ำอย่างรวดเร็ว เมื่อทุกคนเห็นต่างก็รู้สึกตกใจ พร้อมกับตะโกนเรียกชื่อและได้พยายามดึงเชือกที่ผูกเอาไว้กับเอวของนายภูวดลขึ้นมาบนฝั่ง แต่กว่าจะดึงขึ้นมาได้ต้องใช้เวลานานพอสมควร เมื่อนำขึ้นมาได้ทุกคนต่างช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการทำ CPR นานกว่า 1 ชั่วโมงก็ยังไม่ฟื้น และเสียชีวิตในที่สุด จากนั้นจึงได้ขอความช่วยเหลือไปยังให้เจ้าหน้าที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่หน่วยสกัด พ่าบุ่ง ให้วิทยุแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ
"ผมรู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียผู้ร่วมงานที่เป็นที่รักในทีมและเป็นผู้ที่ทำงานด้วยความทุ่มเทและเสียสละมาตลอด หลังเกิดเหตุการณ์ทุกคนต่างขวัญเสีย แต่ก็ต้องนอนเฝ้าร่างของเพื่อนตลอดทั้งคืน จนมีการเข้าไปช่วยเหลือได้ในวันนี้" นายอัจฉริยะ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี