ขู่ย้าย‘ผบช.น.’

‘บิ๊กแป๊ะ’ให้3วันล่ามือถล่มบ่อน

รู้ชื่อจริง‘เฮียตี้’/พบ4พยานเด็ด

“บิ๊กแป๊ะ”ให้เวลาผบช.น. 3 วัน หากจับคนร้ายยิงกันตายในบ่อนย่านพระราม 3 ไม่ได้ จะให้มาช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ด้าน “กมธ.ตำรวจ” เผยข้อมูลใหม่ มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย ลั่นเป็นกุญแจสำคัญไขคดี ผบช.น.เผยรู้ชื่อจริง“เฮียตี้”แล้ว รอหลักฐานชัดเจน ก่อนจะเรียกมาสอบปากคำ ขณะที่กลุ่มชายฉกรรจ์มือถอดกล้องวงจรปิด3ติดต่อตำรวจขอเข้ามอบตัวแล้ว

ความคืบหน้าเหตุยิงกันเสียชีวิตในอาคารพาณิชย์ เลขที่ 501/237 พระราม 3 ซอย 66 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ประกอบด้วย พ.ต.ต.วัทธเศรษฐ์ สำเนียงประเสริฐ หรือสารวัตรแม็กซ์ อายุ 32 ปี สว.(สอบสวน)สน.แสมดำ, นายถาวร สีสด อายุ 51 ปี, น.ส.พีรญา นุ่มละมูล อายุ 44 ปี และนางเมา สะแลเปา อายุ 29 ปี ชาวกัมพูชา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)เปิดเผย ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ขีดเส้นให้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ระดมทีมสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ภายใน 3 วันหากพ้นวันที่ 10 สิงหาคม จะมีการพิจารณาให้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ มาช่วยราชการที่ ศปก.ตร.ต่อไป

กมธ.ตำรวจสรุป4ประเด็น

ที่รัฐสภา นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุม กมธ. โดยได้เชิญผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) , พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผบช.น., พล.ต.ต.สามารถ ศรีศิริวิบูลย์ ผบก.น.5 และ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ พร้อมคณะ รวม 5 ราย มาชี้แจงกรณีเหตุยิงกันภายในบ่อนพระราม 3 ว่า จากการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เราได้เชิญมาให้ข้อมูล สรุปได้ 4 ประเด็น ภายหลังเกิดเหตุ คือ 1.ระยะเวลาในการรับแจ้งเหตุเวลา 22.30 น. 2.เจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุเวลา 22.45 น. 3.หลักฐานบันทึกการแจ้งเหตุที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ 4.มีการแจ้งเหตุผ่าน 191 เวลา 23.00 น. ซึ่งถือเป็นจุดไฮไลท์ทำให้ประชาชนสงสัยว่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีการกระทำความผิด หรือปกปิดหรือไม่

มีบาดเจ็บ4เป็นพยานสำคัญ

ประเด็นต่อมาคือกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ได้ดำเนินการพิสูจน์ทราบผู้เป็นเจ้าของบ่อน เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวเป็นของบริษัท บุญรัตน์ จำกัด ให้บริษัท ร่ำรวย เช่าต่อ จากนั้นบริษัท ร่ำรวยได้ให้บุคคลชื่อนายวสันต์ เช่าช่วงต่อเป็นคนสุดท้าย สำหรับลักษณะอาคารเป็นอาคาร 5 ชั้น เปิดเป็นบ่อนชั้นล่างสุด ขณะที่ชั้น 2-5 เปิดเป็นที่พักให้เช่า มีทางออกแยกจากกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุพบว่า อุปกรณ์เล่นการพนัน โต๊ะ 1 ตัว ไพ่ และชิพ รวมถึงอาวุธปืน 1 กระบอก พบร่องรอยรื้อถอนอุปกรณ์ และมีบุคคลเคลื่อนย้ายอุปกรณ์

“ในเหตุการณ์นี้นอกจากจะมีผู้เสียชีวิตรวม 4 รายแล้ว ยังมีผู้บาดเจ็บจากการถูกลูกหลงในเหตุการณ์อีก 4 ราย ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญที่จะนำไปสู่การคลี่คลายคดี และเก็บข้อมูลสำนวน” นายณัฏฐ์ชนน กล่าว

แบ่งเป็น4เรื่อง-ไม่ไว้หน้าคนผิด

นอกจากนี้ทาง บช.น. ยังได้แบ่งเรื่องดังกล่าวออกเป็น 4 เรื่อง คือ 1.ใครเป็นเจ้าของบ่อนตัวจริงอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบ 2.คดีฆาตกรรมในเบื้องต้นจากการสอบสวนพบว่า มีผู้กระทำความผิดมากกว่า 1 คน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ติดตามคนร้าย 3.ดำเนินคดีกับบุคคลที่มีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ หรือทำลายพยานหลักฐาน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และติดตามบุคคลที่ปรากฏเป็นภาพข่าวจากสื่อ 4.ดำเนินการลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องต่อหน้าที่ ขณะที่ บช.น.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดบกพร่อง จะดำเนินการทั้งทางวินัย และอาญา

“ผลสรุปจาก กมธ. คือเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับว่ามีการลักลอบเล่นการพนันจริง แต่ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไร เชื่อมั่นว่ามีการทำลายหลักฐานและพอจะทราบบุคคลกลุ่มนี้แล้ว รวมถึงมีการเคลื่อนย้ายสิ่งของ คาดว่า 1-2 วันนี้จะได้ตัวผู้ต้องสงสัย ฉะนั้นประเด็นที่ประชาชนสงสัย กมธ. ได้วางหลักไว้ คือ 1.ใครเป็นเจ้าของบ่อน 2.ผู้เสียชีวิต 4 รายใครเป็นคนฆาตกรรม ทั้ง 2 ประเด็นนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องคลี่คลายคดี” นายณัฏฐ์ชนน กล่าว

ผบช.น.เผยคนร้ายมีมากกว่า1

ที่รัฐสภา พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร นานกว่า 2 ชั่วโมง กรณีเหตุการยิงกันในบ่อนพระราม 3 ว่า จากการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยอมรับว่า สถานที่เกิดเหตุเป็นบ่อนการพนันจริง ซึ่งเปิดมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว และเจ้าหน้าตำรวจจะพยายามสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นเจ้าของ และจัดให้มีการเล่นการพนัน

สำหรับกรณีเรื่องการทำลายหลักฐาน และซ่อนเร้นหลักฐาน ที่มีการช่วยเหลือนั้น ก็มีการกระทำผิดจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดหลังจากนี้ ดังนั้น ขอเวลานิดหนึ่ง ส่วนประเด็นเรื่องของการฆาตกรรม เราได้เบาะแสมา ก็จะพยายามเร่งรัดจับกุมผู้ต้องหา เบื้องต้นเชื่อว่า มีคนร้ายมากกว่า 1 คน และตอนนี้ได้เบาะแสแล้ว 1 คน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน

คนร้ายไม่ได้เป็นตำรวจ ส่วนกรณีชายฉกรรจ์ ที่เข้าไปทำลายหลักฐานกล้องวงจรปิด เราสืบทราบและสามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้จำนวนหนึ่ง และกำลังติดตามตัวมาดำเนินคดี

ผบช.น.เผยรู้ชื่อ-นามสกุลเฮียตี้แล้ว

ต่อมา ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ แถลงว่าคดีนี้ดำเนินการใน 3 แนวทาง คือ การพนัน ทำลายหลักฐานในบ่อน และฆาตกรรม 4 ศพ โดยผู้ต้องหาอาจมีทั้งที่ถูกดำเนินคดีการพนัน และฆาตกรรม 4 ศพ พร้อมยืนยันว่าจากข้อมูลที่มีในมือขณะนี้ชัดเจนว่าจุดเกิดเหตุเป็นบ่อนการพนันที่ลักลอบเปิดมาแล้วระยะหนึ่ง แต่ไม่ลงลึกว่าเปิดมาตั้งแต่เมื่อไร

ในส่วนเจ้าของบ่อนยังไม่ชัดเจนว่าเป็นบุคคลเดียวกับเจ้าของอาคารหรือไม่ แต่จากข้อมูลเชื่อว่าเจ้าของบ่อนคือเฮียตี้ ซึ่งตำรวจรู้ชื่อจริงและนามสกุลแล้ว รอหลักฐานชัดเจนจะเรียกตัวมาสอบสวน ส่วนอาคาร จากข้อมูลเป็นของเอกชนที่ปล่อยให้เช่า และมีการให้เช่าช่วง จนสุดท้ายมาเป็นบ่อน ส่วนเหตุยิงกันตาย 4 ศพ ในบ่อน ชี้แจงเฉพาะในส่วนของสารวัตรแม็กซ์ ว่ารู้จักกับนายถาวร โดยมีการกู้ยืมเงินกัน และมาพบกันในบ่อน แต่ไม่อธิบายว่าพบกันแล้วเกิดเหตุยิงกันด้วยสาเหตุใด ส่วนอีก 2 ศพ เสียชีวิตอย่างไร การแถลงวันนี้ยังไม่มีความชัดเจน

ตำรวจแยกคดียิงกันตาย-บ่อน

ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย ปฏิบัติราชการรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) เรียกพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว โดย พล.ต.ต.สหรัฐ กล่าวว่า พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) สั่งให้ดูแลการสอบสวนโดยให้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด พร้อมไปสอบปากคำพยานที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล อีกทั้งตำรวจจะตรวจสอบในทุกประเด็นที่สังคมสงสัย เช่น กรณีที่มีผู้ถอดกล้องวงจรปิดและขนย้ายสิ่งของหลบหนีออกไปก่อนตำรวจจะไปถึงที่เกิดเหตุ ขณะนี้ได้ประสานฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่รวบรวมหลักฐานให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะต้องแยกคดีที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน เช่น มีการเปิดบ่อนพนันหรือไม่ และคดีมีการยิงปืนเสียชีวิต ทั้งนี้ ไม่รู้สึกหนักใจที่มี พ.ต.ท.อักษรย่อ “ซอโซ่” เข้ามาพัวพันกับบ่อนพนันดังกล่าว

วันเดียวกัน ครอบครัวนายถาวร ได้นิมนต์พระ 1 รูป มาเชิญดวงวิญญาญที่ประตูทางเข้าบ่อน โดยญาติปฎิเสธขอไม่พูดคุยกับสื่อมวลชน ทั้งนี้ภายในตรอกของอาคาร มีชายฉกรรจ์ขี่จยย.มาบอกว่าสถานที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปภายในเด็ดขาดและได้จอดจยย.ขวางตรอกไว้.

กลุ่มถอดกล้อง-มือยิงติดต่อมอบตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 3 ชายฉกรรจ์ที่เข้าไปถอดกล้องวงจรปิดในบ่อนช่วงเกิดเหตุออกก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว และมีรายงานข่าวว่า “บอย บ้านครัว” มือยิงนายถาวรก็ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่เช่นกัน โดย “บอย บ้านครัว” เป็นฉายาในวงการพนัน จากหลักฐานพยานพบว่าเป็นคนก่อเหตุยิง นายถาวร เสียชีวิต โดยเป็นการยิงป้องกันตัวจากนายถาวร เพราะตอนเกิดเหตุนายถาวร ยิงปืนส่ายไปมา หากไม่ยิงสกัดอาจทำให้มีคนเสียชีวิตมากกว่านี้สอดคล้องกับการตรวจสอบวิถีกระสุนของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พบว่าการก่อเหตุนั้นมีลักษณะการยิงแบบสะเปะสะปะ

เผยระบบรปภ.ของบ่อนสุดรัดกุม

มีรายงานข่าวแจ้งว่า ที่เกิดเหตุเป็นของเฮีย “จ” โดยมี“เฮียตี้”เป็นผู้เช่าในการเปิดบ่อน โดยเฮียตี้ เป็นผู้กว้างขวางเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในกลุ่มของนักพนันเพราะอยู่ในวงการนี้มาอย่างยาวนาน สำหรับบ่อนแห่งนี้จะมีกล้องวงจรปิดไม่ต่ำกว่า 200 ตัว ติดตั้งแต่ไว้ทางเข้าหมู่บ้านไปจนถึงจุดรับรถ และจะมีผู้ดูแลภายนอกจุดละ 5 คน มีทั้งหมด 5 จุด เมื่อนักพนันมาถึงก็จอดรถเทียบหน้าประตูจากนั้นจะมีเด็กรับรถขับนำไปจอดที่ลานจอดรถ พอนักพนันเล่นเสร็จ เด็กรับรถก็จะใช้วิทยุสื่อสาร ว. หากันเพื่อนำรถมาคืนนักพนันเหมือนในคาสิโนต่างประเทศ ส่วนที่หน้าประตูทางเข้า จะมีเครื่องสแกนอาวุธ เป็นอุปกรณ์ที่พบเห็นในห้างสรรพสินค้าและเทียบเท่ากับอุปกรณ์ที่ใช้ในสนามบิน โดยคนดูแลหรือการ์ดบ่อน จะเป็นเจ้าหน้าที่ทหารนอกราชการหรือไม่ก็เป็นพลเมือง ไม่มีตำรวจ กลุ่มการ์ดเหล่านี้อยู่ในความดูแลของ เสธ.รายหนึ่ง โดยบ่อนแห่งนี้จะมีการ์ดทั้งหมด 6 คน หมุนเวียนดูแลผลัดละ 12 ชั่วโมง รายได้วันละ 1,200-2,000 บาท