วันที่ 7 ส.ค.63 ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต กลุ่มประชาชนจากหลายหลากอาชีพ ซึ่งมีทั้งเจ้าของกิจการขนาดเล็ก,ลูกจ้างและผู้ประกอบอาชีพอิสระ อาทิ พนักงานโรงแรม, มัคคุเทศก์, รถแท็กซี่, รถตู้, รถบัสรับส่งนักท่องเที่ยว, นวดชายหาด, ร้านนวด, เสริมสวย, บ้านเช่า, รถเช่า เป็นต้น จำนวนประมาณ 500 คน ซึ่งต่างได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากขาดรายได้จากการว่างงานและไม่มีงานทำ ได้เดินทางมาลงชื่อและยื่นหนังสือเพื่อขอความช่วยเหลือจากทางหน่วยงานภาครัฐ โดยมีนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด, ปลัดจังหวัด, นายอำเภอ, หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง, ผู้แทน ส.ส.ภูเก็ตทั้งสองเขตเลือกตั้ง และนายเรวัต อารีรอบ ผู้ช่วยเลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมรับรับฟังการสะท้อนปัญหาของผู้เดือดร้อน เพื่อนำไปเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับพื้นที่และส่วนกลางต่อไป

อย่างไรก็ตามในส่วนของการนำเสนอปัญหาความเดือดร้อนในครั้งนี้ สรุปในภาพรวมได้ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนชาวภูเก็ตมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก เมื่อมีการปิดเมืองและไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงทำให้สถานประกอบการต่างๆ ต้องปิดตัวลงชั่วคราว และยังไม่มีกำหนดว่าจะเปิดให้บริการได้เมื่อใด จึงทำให้เกิดภาวการณ์ตกงาน ว่างงานและขาดรายได้จุนเจือครอบครัว รวมถึงการชำระหนี้สินต่างๆ ทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบาก 

จึงขอความอนุเคราะห์และความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัด ช่วยประสานงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสถาบันการเงินภายใต้การกำกับกับภาครัฐและไม่ใช่ภาครัฐ ในเรื่องการพักชำระหนี้ โดยให้ยืดเวลาออกไปจนถึงสิ้นปี เนื่องจากขณะนี้ครบระยะเวลาในการชำระหนี้แล้ว และถูกทวงถามอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ยังขอให้มีการจัดสรรงบประมาณ เพื่อช่วยเหลือและเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีโอกาสกู้ยืมเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือจุนเจือในครอบครัว สามารถนำไปต่อยอดประกอบธุรกิจเพื่อช่วยเหลือตัวเองและครอบครัวโดยไม่จำกัดคุณสมบัติจนเกินไป และแบ่งเบาการช่วยเหลือเป็นสองประเภท คือ กลุ่มที่มีงานประจำและกลุ่มที่ตกงานหรือว่างงานจากผลกระทบโควิด-19 ขณะเดียวกันยังมีผู้เดือดร้อนบางส่วนที่ได้รับผลกระทบในเรื่องของข้อกฎหมายในการยื่นขอกู้จากสถานบันการเงินในการนำมาต่อยอดหรือปรับปรุงกิจการ

นอกจากนี้ในส่วนของผู้ที่เช่าอาคารในการประกอบธุรกิจ เช่น นวด ร้านเสริมสวย เป็นต้น ต้องการให้ทางจังหวัดประสานกับผู้ให้เช่าหรือเจ้าของอาคาร เพื่อขอลดหย่อนค่าเช่าเนื่องจากขณะนี้ไม่มีรายได้เกิดขึ้น เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ และประเด็นการต่อวีซ่าของชาวต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัยอยู่มานานก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งมองว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังในการจ่ายอยู่ แต่ติดขัดเรื่องขอกฎหมาย ซึ่งอยากให้มีการหารือกับตรวจคนเข้าเมืองในการอยู่ต่อ เพราะบางคนอยู่มานานเป็น 10 ปี รวมไปถึงกลุ่มที่มีภรรยาหรือสามีเป็นคนต่างชาติแต่ติดอยู่ต่างประเทศไม่สามารถกลับมาได้

นายณรงค์ กล่าวภายหลังรับฟังปัญหาความเดือดร้อนว่า เป็นกำลังใจให้กับทุกคนและทางจังหวัดเองก็รับทราบปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นของพี่น้องประชาชนทุกคน ในส่วนใดที่สามารถแก้ไขในระดับจังหวัดได้ก็จะเร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทันที แต่ประเด็นใดที่เกินขีดความสามารถของทางจังหวัดก็จะได้มีการนำเสนอปัญหาไปยังส่วนกลางโดยเร่งด่วน เพื่อให้สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้ได้โดยเร็วที่สุด