ถอดบทเรียนช่วย‘หมูป่า’! เชียงรายระดมกำลังกู้เรือล่ม ลุ้นวันนี้ดึงขึ้นฝั่งได้
10 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า จากกรณีเรือแม่โขงเดลต้า ซึ่งเป็นเรือท่องเที่ยวแม่น้ำโขง สัญชาติไทยลำแรกในแม่น้ำโขง ขนาด 107 ตันกรอส ยาว 40 เมตร กว้าง 5.50 เมตร บรรทุกผู้โดยสารได้120 ที่นั่ง จมลงในแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว บริเวณหมู่ 3 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมานั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เร่งกู้เรือท่องเที่ยวแม่น้ำโขงล่ม!! เหตุฝนตกชุกเชือกขาด)
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆได้พยายามชักลากขึ้นฝั่ง แต่ยังไม่สามารถทำได้ เพราะแม่น้ำโขงไหลเชี่ยว และเรือมีน้ำหนักมาก ทำได้เพียงลากให้มาเกยตื้นอยู่ที่ริมฝั่งให้มากที่สุด และเตรียมใช้รถยกเครนทำการยกมาไว้ริมฝั่ง
ทั้งนี้ ตลอดทั้งวันนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย (ผวจ.เชียงราย) ได้ระดมกำลังทุกฝ่าย ทั้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย ฝ่ายปกครอง และประสานหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงราย ทหารกองกำลังผาเมือง ตำรวจน้ำ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน การท่าเรือแห่งประเทศไทย ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) 32 ฯลฯ ทำการชักลากทั้งกำลังพลและเรือทั้งบนฝั่งและในน้ำ
ขณะที่ช่วงค่ำวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา พบว่า เรือยนต์ของ นรข.เขตเชียงราย ลำหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ได้นำไปสนับสนุนการชักลากเรือกาสะลองคำ ได้ประสบเหตุล่ม และคว่ำลงในแม่น้ำโขง หลังจากเจ้าหน้าที่ทหารเรือ 4 นาย พยายามควบคุมเรือและใช้เชือกลากเรือขนาดใหญ่ร่วมกับเรือและอุปกรณ์อื่นๆ แต่ถูกกระแสน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลเชี่ยวพัดขณะขวางลำจนคว่ำลง แต่ทางเจ้าหน้าที่ทหารเรือใช้ความชำนาญว่ายน้ำเข้าฝั่งไปได้ รวมทั้งสามารถนำเรือยนต์ขึ้นฝั่งได้สำเร็จ พบว่า เครื่องไม่ได้รับความเสียหายมากนัก สามารถซ่อมแซมได้
ด้านระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังเพิ่มสูงขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา เขื่อนจิ่งหง ในเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ซึ่งอยู่ห่างขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 300 กิโลเมตร ได้ระบายน้ำจากเขื่อนลงมาในอัตรา 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก่อนที่จะลดลงในวันที่ 9 สิงหาคม ในอัตรา 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่มวลน้ำที่ปล่อยมาช่วงวันก่อนได้ไหลลงถึง อ.เชียงแสน ภายใน 2-3 วัน ทำให้ล่าสุดเช้าวันที่ 10 สิงหาคม ระดับน้ำหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน ลึกประมาณ 4.44 เมตร ซึ่งถือว่าลึกที่สุดในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา
นายปกรณ์ สุริวรรณ นายอำเภอเชียงแสน กล่าวว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้วางแผนจะใช้เครนดึงเรือขึ้นมาให้พ้นน้ำก่อน จากนั้นจะทำการสูบน้ำออก เพื่อให้มีน้ำหนักเบาและชักลากไปไว้ตรงจุดที่จัดเตรียมเอาไว้ คาดว่าเย็นวันที่ 10 สิงหาคม นี้ จะสามารถทำได้สำเร็จเพราะได้ระดมกำลังทุกฝ่ายเข้าปฏิบัติการ
ส่วน น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และกรรมการผู้จัดการบริษัทแม่โขงเดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด เจ้าของเรือ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการถอดบทเรียนคล้ายกรณีเหตุการณ์ช่วยเหลือเยาวชนหมูป่าที่ถ้ำหลวง อ.แม่สาย เพราะทุกฝ่ายได้กลับมาช่วยเหลือกันอีกครั้ง และเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตรงชายแดนไทยด้านนี้
“เนื่องจากเรือมีน้ำหนักมากทำให้ต้องซักซ้อมกันแต่ละหน่วย กระทั่งสามารถทำงานเข้ากันได้ดีแล้ว และล่าสุดทาง ผวจ.เชียงราย ได้อนุเคราะห์อนุมัติให้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไปสนับสนุนคาดว่าจะนำเรือขึ้นมาตรวจสอบได้ในวันเดียวกันนี้ และหากไม่ได้ผลก็มีแผนการถัดไป คือ จะใช้เรือกาสะลอง 1 และเรือกาสะลอง 2 ที่มีขนาด 2 เครื่องยนต์ความแรงกว่า 670 แรงม้าทำการดันร่วมกับเครน และกำลังพลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆต่อไป” น.ส.ผกายมาศ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี