ศบค.รายงานไทยไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มในที่กักตัวของรัฐ รวมถึงในการตรวจค้นหาเชิงรุกในประเทศ รวมติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,351 ราย หายป่วยกลับบ้านอีก 9 สธ.ย้ำระบาดรอบ 2 มาแน่ จับตาเวียดนามบทเรียน ชี้ไทยเสี่ยงสูง
กำชับรพ.ทั่วประเทศตรวจเข้มค้นหา 3 กลุ่ม “ป่วยปอดอักเสบ–บุคลากรการแพทย์-ป่วยทางเดินหายใจเป็นกลุ่ม” เฝ้าระวังโควิดเล็ดรอด ชี้อัตราป่วยทั่วโลกตัวเลขอาจน้อยกว่าตัวเลขป่วยจริงถึง 10 เท่า เพราะบางคนไม่แสดงอาการ ลุ้น 1 ใน 7 วัคซีนสำเร็จได้ใช้ภายใน 6 เดือน
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19)หรือ ศบค. รายงานถึงสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยว่า วันนี้ไทยไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ ไม่มีผู้ป่วยมีประวัติเสี่ยงจากการไปหรือทำงานในสถานที่ชุมชน ไม่มีผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุกใดๆ ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,351 ราย หายป่วยเพิ่ม 9 ราย รวมหายป่วยทั้งหมด 3,160 ราย โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 133 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 58 ราย
สธ.ชี้ไทยเสี่ยงสูงระบาดรอบใหม่
ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงมาตรการรับมือการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (2019) โควิด-19 ระลอก 2 ว่า เชื่อว่าการระบาดระลอก 2 เกิดขึ้นแน่นอน แต่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่ามาเมื่อใด วันนี้เราไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ แต่ยังพบคนเดินทางกลับจากต่างประเทศติดเชื้อเฉลี่ย 5-6 คน ขึ้นอยู่กับว่ามาจากประเทศไหน ดังนั้น ประเทศไทยยังถือว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดระลอกใหม่อยู่ และมีโอกาสค่อนข้างสูง ทุกคนจึงต้องทบทวนบทบาทตัวเองป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดกว้างขวาง โดยมีบทเรียนที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนามที่มีการระบาดระลอก 2 ทั้งที่ไม่มีผู้ป่วยมานานกว่า 90 วัน จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถสอบสวนหาสาเหตุได้ แต่คาดว่าเกิดจากมีผู้ป่วยหลงเหลือในประเทศ กับการนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศจากการลักลอบเข้าเมือง หรือการหละหลวมของสถานที่กักกัน
จับตาเวียดนามบทเรียนระบาดใหม่
นพ.ธนรักษ์กล่าวต่อว่า จากการติดตามสถานการณ์ระบาดในต่างประเทศพบว่า ยังคงมีผู้ป่วยต่อเนื่อง โดยทุก 5 วัน จะพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มเฉลี่ย 1 ล้านคน และในต่างประเทศที่น่าห่วง เพราะพบผู้ป่วยจำนวนมาก ได้แก่ สหรัฐ บราซิล ส่วนในเอเซีย อินเดีย มีผู้ป่วยจำนวนมากเมื่อวานนี้ถึง 62,000 คน เชื่อตัวเลขที่แสดงผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เกิดขึ้นในทั่วโลก ยังต่ำกว่าตัวเลขผู้ป่วยป่วยจริงถึง 10 เท่า หมายความ การรายงานพบผู้ป่วย. 47,000 คน ใน ความเป็นจริงอาจพบผู้ป่วย 470,000 คน ทั้งนี้ สาเหตุที่คาดว่าผู้ป่วยแท้จริงจะมีมาก10 เท่า เพราะมีผู้ป่วยบางส่วนมีอาการเล็กน้อยจนถึงไม่แสดงอาการ จึงไม่ได้ไปหาหมอ ทำให้ยอดผู้ป่วยใหม่ต่ำกว่าตัวเลขที่อาจเป็นจริง
“ขณะนี้ไทยกำลังจับตาดูการระบาดระลอก 2 ในเวียดนามใกล้ชิด เนื่องจากยังไม่รู้สาเหตุแน่ชัดว่าเกิดจากติดเชื้อในประเทศ หรือติดจากผู้ป่วยที่กลับจากต่างประเทศที่เข้าไป จากแรงงานที่เดินทางเข้าไปในประเทศ”นพ.ธนรักษ์กล่าว และว่า จากบทเรียนของเวียดนามทำให้ไทย ต้องเร่งวางมาตรการรับมือให้ดี แม้ทั่วโลกยกย่องไทย ให้เป็น 1 ใน 7 ประเทศ ที่มีการระบาดโควิดต่ำ แต่เพราะการเดินทางเข้ามาของแรงงานจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสถานประกอบการ และหน่วยงานใด ยื่นขออนุญาตจัดตั้งสถานที่กักกั้นเฉพาะองค์กร Organization Quarantine เพื่อใช้กักตัวแรงงานที่ต้องการเดินทางมาทำงานเข้าไทย
สั่งรพ.ทั่วปท.ตรวจเข้มผู้ป่วย3กลุ่ม
นพ.ธนรักษ์ยังขอความร่วมมือสถานพยาบาล โรงพยาบาลทั่วประเทศเร่งตรวจโควิด -19 ในกลุ่มผู้ป่วยทั่วไปที่มีอาการดังนั้น 1.ผู้ที่มีปอดอักเสบ 2. ตรวจในกลุ่มบุคลากร 3. ตรวจในกลุ่มผู้ป่วยที่ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจแบบเป็นกลุ่มก้อน เพื่อช่วยเฝ้าระวังผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่อาจหลุดรอดไปได้ ยิ่งเฝ้าระวังก็จะเจอผู้ป่วยเร็ว และ ควบคุมโรคได้
ลุ้นวิจัย1ใน7วัคซีนสำเร็จได้ใช้ใน6เดือน
สำหรับความคืบหน้าการศึกษาพัฒนาวัคซีนป้องกันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นพ.ธนรักษ์กล่าวว่า จนถึงขณะนี้มีวัคซีนที่อยู่ระหว่างพัฒนากว่า 180 ชนิด ในจำนวนนี้มี 135 ชนิดที่เข้าขั้นตอนทดสอบในมนุษย์ โดยทดสอบในคนระยะที่ 1 แล้ว 18 ชนิด ทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 2 แล้ว 12 ชนิด และทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 3 เพื่อดูประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการป้องกันโรค รวมถึงพิสูจน์ความปลอดภัย แล้ว 7 ชนิด ในการทดลองระยะนี้ตั้งเป้าว่าวัคซีนจะสามารถป้องกันโรคได้ 50% นาน 6 เดือน หลังรับวัคซีน โดยวัคซีนทั้ง 7 ตัวนี้ มีทั้งวัคซีนชนิดเชื้อตายและวัคซีนขนิด mRNA คาดว่าจะมีวัคซีนตัวใดตัวหนึ่งใน 7 ตัวนี้สำเร็จ ออกมาใช้ในวงกว้างได้เร็วที่สุดคือ 6 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ มีวัคซีน 1 ชนิดของจีนที่ได้รับอนุญาตฉีดในคน คือ ในกองทัพแล้ว ทั้งที่ยังไม่ผ่านการทดลองในคนระยะที่ 3 แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขไทยพยายามเต็มในการจัดหาวัคซีนมาใช้ให้ได้มากที่สุด ระหว่างนี้เราควรทำคือ เตรียมความพร้อมระดับบุคคล องค์กร โดยสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ คนป่วยไม่ควรออกจากบ้าน โดยเฉพาะช่วงนี้หน้าฝน เป็นฤดูที่ไข้หวัดใหญ่ระบาด ดังนั้น การคัดกรองเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะพื้นที่ปิดมีโอกาสแพร่เชื้อได้มากกว่าพื้นที่เปิดถึง 19 เท่า ขอให้ช่วยกันคนละนิดคนละหน่อย
นายกฯห่วงจนท.ไทยติดโควิดย้ำดูแลเต็มที่
ด้านน.ส. ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ห่วงใย และสั่งการกระทรวงการต่างประเทศดูแลข้าราชการไทยในสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่ติดเชื้อโควิด-19 เป็นอย่างดี ทราบว่าขณะนี้ข้าราชการดังกล่าวเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลและมีแพทย์ดูแลใกล้ชิดแล้ว ทั้งนี้ นายกฯขอส่งกำลังใจถึงเจ้าหน้าที่ไทยทุกคน ทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศ ขอให้ดูแลรักษาสุขภาพ และให้ปลอดภัย เข้าใจดีว่าทุกคนทำหน้าที่อย่างทุ่มเทและเสียสละ เป็นตัวแทนประเทศไทยเพื่อดูแลความเป็นอยู่ ให้คำแนะนำ ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้ชาวไทยในต่างประเทศ พร้อมชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ส่งผลให้ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์โควิด 19 เจ้าหน้าที่ไทยมีส่วนช่วยนำชาวไทยกลับมาจากต่างประเทศกว่า 6 หมื่นคนแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี