วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ซอกแซกอาเซียน : 13 สิงหาคม 2563

ซอกแซกอาเซียน : 13 สิงหาคม 2563

วันพฤหัสบดี ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag : ซอกแซกอาเซียน
  •  

จากฉบับก่อนหน้านี้ จะเห็นว่าปริมาณการช่วยเหลือนั้นแสนจะน้อยนิด เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละปี แต่กระนั้นก็อย่าเพิ่งรีบตัดสินนะครับว่า กลไกของแอปเตอร์ดูจะไม่ค่อยสนองตอบอย่างพอเพียงต่อสภาพปัญหาขาดแคลนอาหารของประชาชนอาเซียน เพราะที่จริงแล้ว การที่ประเทศสมาชิกจะร้องขอรับบริจาคข้าวนั้น คงไม่ไช่เรื่องที่กระทำกันง่ายๆ โดยปราศจากการพินิจพิจารณาให้ดูเหมาะดูควร เพราะมันเกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐบาลของแต่ละประเทศที่ต้องใคร่ครวญอย่างละเอียด โดยต้องไม่ลืมที่จะคำนึงถึงเกียรติยศและศักดิ์ศรีของเขาด้วย แม้บางทีประเทศอาจขาดแคลนอาหาร เพราะไม่สามารถเพาะปลูกเองได้อย่างพอเพียง หรือประชากรยากจนไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ แต่รัฐบาลก็อาจจะพยายามกำหนดและสร้างยุทธวิธีเพื่อจัดการกับอุปสรรคดังกล่าวโดยไม่จำเป็นต้องร้องขอจากความช่วยเหลือจากต่างประเทศอยู่ร่ำไป

ตัวอย่างเช่น ประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่ผมมาเป็นจีเอ็มของแอปเตอร์ ทั้งๆ ที่ทราบว่าประเทศนี้อัตราการผลิตข้าวภายในยังไม่เป็นที่พอเพียงต่อการบริโภคของประชากร อีกทั้งมักประสบปัญหาภัยธรรมชาติพอๆ กับประเทศฟิลิปปินส์ แต่ทว่าผมไม่เคยได้รับการร้องขอด้านข้าวช่วยเหลือจากประเทศอินโดนีเซียเลยสักครั้งเดียว เท่าที่ทราบ เป็นเพราะนโยบายของท่านประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ที่ไม่ต้องการรับความช่วยเหลือจากนอกประเทศถ้าไม่จำเป็นจริงๆ รวมทั้งไม่ต้องการนำเข้าข้าวด้วย ท่านประธานาธิบดีต้องการที่จะผลักดันการผลิตข้าวให้พอเพียงภายในประเทศ อันที่จริงนโยบาย self-sufficiency นี้มีมานานมาก สำหรับประเทศที่ขาดแคลนข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศอินโดนีเซียและประเทศฟิลิปปินส์ ที่มีพื้นที่ปลูกข้าวจำกัด เนื่องจากส่วนมากเป็นพื้นที่ภูเขา มีที่ราบลุ่มเหมาะแก่การเพาะปลูกข้าวน้อย แต่เขาก็กำหนดเป็นนโยบายมาโดยตลอดที่จะผลิตให้พอเพียงให้จงได้ ข่าวล่าสุดทางประเทศอินโดนีเซียกำลังเปิดพื้นทเพาะปลูกข้าวใหม่ในเกาะกาลิมันตัน หรือที่มาเลเซียเรียกว่าเกาะบอร์เนียว เพื่อขยายพื้นที่ข้าวของประเทศ เกือบล้านไร่ คงจะได้ใกล้บรรลุวัตถุประสงค์ในอีกไม่นานนะครับ


ส่วนประเทศฟิลิปปินส์ก็เช่นกัน แต่ด้วยพื้นที่ปลูกจำกัดมาก ขยายไม่ได้เหมือนอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์จึงเน้นไปที่การเพิ่มปริมาณผลผลิตต่อหน่วยพื้นที่ ก็ลองทำทุกวิถีทางตั้งแต่ใช้พันธุ์ข้าวผลิตสูงที่ออกโดยสถาบันวิจัยข้าวระหว่างชาติ ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศตัวเอง จนมากระทั่งปัจจุบันใช้วิธีเอาพันธุ์ข้าว hybrid หรือข้าวลูกผสมที่ให้ผลผลิตสูงมากไปให้ชาวนาปลูก แต่กระนั้นก็ยังคงต้องนำเข้าข้าวจากภายนอกอีก คงถึงที่สุดก็ไม่เพียงพอ เนื่องจากพลเมืองฟิลิปปินส์มีเยอะมาก เพราะเกือบทั้งหมดเป็นคาทอลิกซึ่งไม่มีการคุมกำเนิดเลย แถมยังเกิดภัยธรรมชาติข้าวปลาเสียหายแต่ละปีจำนวนมหาศาล จึงยากจะสู้ไหว จนท่านประธานาธิบดีคนปัจจุบัน พูดตรงๆ ออกมา ให้ฟิลิปปินส์ยอมรับเสียเถอะว่าคงไม่มีวันเป็นประเทศที่ผลิตข้าวได้พอเพียงอย่างแน่นอน ก็ดีครับจะได้จัดระบบภายในเพื่อรองรับนโยบายนำเข้าข้าวอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

ประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ที่อยู่เป็นเกาะหรือชายขอบทะเล เช่น มาเลเซียก็ผลิตข้าวไม่พอกินภายในประเทศเช่นเดียวกัน แต่มาเลเซียไม่กังวล เพราะมีสตางค์ ปลูกพืชอย่างอื่นได้เงินเยอะกว่าแล้วเอาเงินไปซื้อข้าวสารจากเพื่อนบ้านกิน เช่นเดียวกับเศรษฐีบรูไนและสิงคโปร์ที่แทบจะไม่มีพื้นที่ปลูกข้าวเลย แต่พวกเขากลับมีเงินร่ำรวยมากเหลือล้นจนสามารถซื้อข้าวดีๆ จากประเทศส่งออกไปกินได้ ทำอย่างอื่นได้เงินมากกว่า แล้วซื้อข้าวกิน

แนวคิดข้างต้นที่ว่าทำอย่างอื่นดีกว่าแล้วเอาเงินไปซื้อข้าวกินนี้ ยุคหนึ่งบ้านเราก็มีเทคโนแครตบางคนมีความคิดเห็นเช่นเดียวกัน คือ คงเห็นชาวนาไทยทำนามาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายนับร้อยนับพันปี แต่ฐานะก็ยังคงยากจนอยู่ เลยเกิดความเห็นใจว่า ทำไมทนปลูกข้าวกันแบบจนๆ กันอยู่ได้ ควรเลิกและไปทำอย่างอื่นเถอะ มีเงินแล้วซื้อข้าวกินดีกว่า แนวคิดนี้ฟังเผินๆ ก็ดูเข้าท่าดี เป็นความคิดทันสมัยที่ประเทศเจริญแล้วเขาพยายามที่จะเป็นกัน แต่ถ้าถามว่า แล้วชาวนาบ้านเรา หากเลิกปลูกข้าวจะไปทำอะไรดีล่ะที่ทำแล้วได้เงินมากกว่า หรือที่ทำแล้วรวย อันนี้คือคำถามที่คนวางแนวคิดน่าจะบอกให้จบนะครับ

ชาญพิทยา ฉิมพาลี

chanpithya@apterr.org

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'พีระพันธุ์'ยันไม่ร่วมรัฐบาลที่ใช้ 'ดีลการเมือง' แลกผลประโยชน์ พร้อมนำทัพ'รทสช.'สู้ศึกเลือกตั้ง

'พัฒนเดช'โพสต์ถึง'เจ๊ปอง อัญชะลี'เป็นคนจริงใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พร้อมยืนเคียงข้างเสมอ

โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศตำรวจชั้นสัญญาบัตร 22,280 ราย ผู้มีความสามารถ มีความประพฤติดี

'ณัฐวุฒิ'ชี้เกมอำนาจ 'อนุรักษ์นิยม' อยู่เบื้องหลังรัฐบาลภูมิใจไทย ชี้ 'MOA' ไร้ความหมาย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved