ไฟไหม้‘บ้านทรงไทย’วอด 5 หลังติด ยายทวดวัย 91 ปี-เหลน3คนหนีทัน

16 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อ่างทอง ว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สุทธิ เถื่อนใหญ่ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ป่าโมก รับแจ้งเหตุเพลิงลุกไหม้บ้านไม้ทรงไทยจำนวน 5หลังคาเรือนบริเวณริมถนนป่าโมก-บางบาลสายใน หมู่ 5 ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง จึงประสานรถน้ำดับเพลิงองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงจำนวน 7 คัน รุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลโผงเผง และเจ้าหน้าที่กู้ภัย

ในที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านไม้ทรงไทยที่ปลูกอยู่ติดกันจำนวน 5 หลังคาเรือน มีชาวบ้านในพื้นที่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองช่วยกันขนของออกมาได้บางส่วน และรถน้ำดับเพลิงช่วยกันระดมฉีดน้ำควบคุมเพลิงอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบลง พบว่า มีบ้านไม้ทรงไทยถูกเพลิงไหม้วอดเสียหายเหลือเพียงเสาปูนจำนวน 4 หลังคาเรือน ส่วนอีก 1 หลังคาเรือนถูกเพลิงลุกไหม้เสียหายประมาณครึ่งหลัง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเชือกมากั้นห้ามบุคลเข้าไปใกล้หวั่นพังทลายลงมา

จาการสอบถามนายสถาพร ฉัตรชัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 เล่าให้ฟังว่า เพลิงได้ลุกไหม้บ้านไม้ทรงไทยเก่าแก่เสียหาย 5 หลังคาเรือน มีผู้ได้รับผลกระทบไร้ที่อยู่จำนวน 17 คน มีบ้านเลขที่ 35 ของนางศิริพร หอมบุปผา อายุ 54 ปี , บ้านเลขที่ 35/1ของนายพนา หอมกระแจะ อายุ 52 ปี , บ้านเลขที่ 35/2 ของนายพิเชษฐ์ ผ่องโอภาส อายุ 46 ปี และอีก 2 หลังคาเรือน ที่ยังไม่ได้ขอบ้านเลขที่ เป็นบ้านของนายอำนาจ วงษ์ชมพู และบ้านของนายมนัส วงษ์ชมพู ซึ่งทั้ง 5 หลังนั้นเป็นญาติพี่น้องกันทั้งหมด เพราะคนสมัยก่อนจะปลูกบ้านญาติพี่น้องอยู่รวมติดกัน เบื้องต้นได้รายงานไปยังทางอำเภอและจังหวัดเพื่อขอความช่วยเหลือเบื้องต้นอย่างเร่งด่วนแล้ว

ด้านนายพิเชษฐ์ ผ่องโอภาส อายุ 46 ปี เล่าให้ฟังว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่บ้าน เมื่อทราบข่าวกลับมาดูพบว่าไฟไหม้วอดเสียหายหมดทั้งหลัง  มีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์บอกว่ามีแสงไฟที่บริเวณบ้านของตนเองก่อนลุกลามขยายวงกว้าง

ส่วนนางเล็ก ชมวงษ์ อายุ 91 ปี เล่าให้ฟังว่า ตนเองอยู่บ้านกับเหลนตัวเล็กๆ 2 คน โดยอยู่ใต้ถุนบ้าน เมื่อมีแสงไฟลุกขึ้นมาจึงวิ่งหนีออกมาจากบ้าน และมีชาวบ้านเข้าไปช่วยเหลือขนของออกมาได้บางส่วน แต่ยังโชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจเพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป