17 สิงหาคม 2563 จากเหตุการณ์เรือเฟอร์รี่ราชา 4 ของบริษัทท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด(มหาชน) ได้บรรทุกรถพ่วง 18 ล้อ จำนวน 3 คัน ที่บรรทุกขยะกว่า 120 ตัน และรถกระบะ 1 คัน เดินทางออกจากท่าเทียบเรือเกาะสมุย มุ่งหน้าไปท่าเทียบเรือดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี บนเรือมีผู้โดยสารและลูกเรือ รวม16 คน ได้เกิดล่มบริเวณเกาะสี่ เกาะห้า ห่างจากเกาะสมุยประมาณ 5 ไมล์ทะเล เมื่อเวลาประมาณ 22.30น. ของวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา และหลังเกิดเหตุมีผู้รอดชีวิต 11 ราย เสียชีวิต 3 ราย และสูญหาย 2 ราย คือนายทิวากรณ์ วัชรฤทธิ์ (กะลาสี) และนายไชยชาญ เหล่าทรัพย์ (คนขับรถพ่วง 18 ล้อ)
หลังเกิดเหตุหน่วยงานจากหลายฝ่ายได้ร่วมปฏิบัติภารกิจค้นหาร่างผู้สูญหาย ทั้งตามเกาะแก่งต่างๆ และภายในซากเรือเฟอร์รี่ลำที่เกิดเหตุ โดยมีหน่วยซีล 10 นาย ร่วมกับทีมอาสาสมัครกู้ภัยทางทะเล 26 นาย จากทีมกู้ภัยสุราษฎร์ธานี และทีมนักประดาน้ำจากเกาะเต่า ที่นำทีมโดยนายอีวาน คาราดซิก (IVAN KARADZIC) ชาวแคนนาดา ซึ่งเป็น 1 ในทีมนักดำน้ำกู้ภัยที่เข้าช่วยเหลือ 13 หมูป่า ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง อุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตามที่นำเสนอข่าวไปนั้น
จากนั้น ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ กรณีเรือล่ม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ติดตามการปฏิบัติการค้นหา การกู้เรือ โดยทางบริษัทท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ได้ว่าจ้าง บริษัท เอ็ม.เอส.เซอร์วิส จำกัด กู้ซากเรือราชา 4 เริ่มดำเนินการสำรวจ เก็บข้อมูล บันทึกภาพ จัดทำแผนที่ ในระหว่างวันที่ 16 -18 สิงหาคม 2563 คาดว่าจะเริ่มกู้ซากเรือ วันที่ 28 สิงหาคม 2563 แล้วเสร็จประมาณ 22 กันยายน 2563
ล่าสุดวันนี้ นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย ได้สั่งการให้นายสุทธิพงษ์ ทองเรือง ปลัดอำเภอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำเกาะสมุย ทหารเรือสถานีเรือสมุย เจ้าท่าสมุย ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สุราษฎณ์ธานี และกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย โดยได้รับการสนับสนุนเรือตรวจการณ์ 433 จากตำรวจน้ำเกาะสมุเดินทางไปตรวงจสอบยังจุดที่ได้รับแจ้่ง หลังได้รับแจ้งจากบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ว่าบริษัทผู้รับจ้างกู้ซากเรือได้ส่งนักดำน้ำเข้าสำรวจซากเรือ
และเมื่อดำไปถึงบริเวณท้ายเรือได้พบร่างผู้สูญหาย 2 ราย คาดว่าจะเป็นนายทิวากรณ์ วัชรฤทธิ์ (กะลาสี) และนายไชยชาญ เหล่าทรัพย์ (คนขับรถพ่วง 18 ล้อ) ลักษณะถูกรถพ่วงทับร่างติดกับตัวเรือ สภาพเริ่มเน่าเปื่อย แต่ยังไม่สามารถนำร่างขึ้นมาได้เนื่องจากกระแสน้ำใต้ทะเลแรง อาจเป็นอันตรายได้ จึงได้ปรับแผนใหม่เพื่อนำร่างทั้งสองขึ้นในวันพรุ่งนี้ (18 ส.ค.) เวลา 07.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี