23 สิงหาคม 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน นายออน  อุ่นทวีทรัพย์ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว, พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผบ.ชค.กรม.ทพ.12(ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12) และ พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จว.สระแก้ว บูรณาการกำลังร่วมกันออกตรวจป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา และการลักลอบนำสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เข้ามาซุกซ่อนในตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามนโยบายของรัฐบาล  

ต่อมาขณะ จนท.นำกำลังชุดปฏิบัติการร่วมฯออกตรวจดูแลความสงบเรียบร้อยภายในตลาดโรงเกลือฯซึ่งยังไม่เปิดทำการค้าอย่างเป็นทางการ ตามมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาถึงบริเวณหน้าอาคารค้าขาย ล็อก จ.4 ภายในตลาดโรงเกลือ ม. 7 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบบริเวณหน้าห้องค้าขาย ไม่มีเลขที่ ภายในล็อก จ.4 มีกรรมกรชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งกำลังขนถ่ายสินค้าบรรจุกระสอบเข้า ออก ห้องค้าขาย จนท.จึงแสดงตัวขอตรวจสอบแต่กรรมกรชาวกัมพูชา เมื่อเห็น จนท.ต่างแยกย้ายกันวิ่งหลบหนีหายเข้าไปในตลาดโรงเกลือฯ จนท.จึงร่วมกันเข้าตรวจสอบพบภายในห้องค้าขายพบมีการลักลอบเก็บสินค้าบรรจุกระสอบเรียงซ้อนกันอยู่เป็นจำนวนมากคล้ายเป็นโกดังเก็บสินค้าชั่วคราว  เมื่อตรวจสอบภายในกระสอบสินค้าพบว่าภายในกระสอบบรรจุสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ แบรนด์ดังต่างประเทศ จำพวกชุดกีฬา เสื้อยืด กางเกง รองเท้าผ้าใบ ชุดผ้าปูที่นอน ผ้าห่มนวม และกระเป๋า จำนวนมาก จึงร่วมกันทำการตรวจยึดสินค้าทั้งหมด กว่า 50 กระสอบ รวมกว่า 5 หมื่นชิ้น มาทำการตรวจสอบที่ สำนักงานด่านศุลกากรอรัญประเทศ บ้านคลองลึก ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว  

ซึ่งจากการตรวจสอบของ จนท.พบว่าสินค้าทั้งหมดกว่า50 กระสอบ มีทั้งสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์แบรนด์ดังต่างประเทศ สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และมีสินค้าบางส่วนเป็นสินค้าใหม่ไม่มีลิขสิทธิ์ แต่เป็นสินค้าที่หลีกเลี่ยงการเสียภาษีนำเข้า โดยสินค้าทั้งหมดมีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ ไม่ต่ำกว่า 5   ล้านบาท ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าเจ้าของร้านดังกล่าวเป็นพ่อค้าชาวกัมพูชา ในระหว่างตรวจค้นไม่พบตัวเจ้าของร้านคาดว่าหลบหนีไประหว่าง จนท.เข้าตรวจค้น 

จากนั้น จนท.จึงร่วมกันตรวจยึดและนำส่ง จนท.ฝ่ายกฎหมายด่านศุลกากรอรัญประเทศฯดำเนินการตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พร้อมทั้งเร่งสืบสวนติดตามเจ้าของสินค้าดังกล่าวซึ่งเป็นพ่อค้าชาวกัมพูชา มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป