นายกฯยกระดับ
เข้มจว.ท่องเที่ยว
พบลอบวางบึ้ม
หาดสุรินทร์2จุด
นายกฯ ถก ผบ.ตร.หลังจากเกิดเหตุวางระเบิดป่วนแหล่งท่องเที่ยวภาคใต้ ย้ำรัฐบาลไม่ประมาท ส่วน สมช.ยกระดับการทำงานเข้ม ด้าน “ภูมิธรรม”ขออย่าด่วนสรุปโยงเหตุไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ขณะที่เจ้าหน้าที่พบวัตถุต้องสงสัยเพิ่ม ที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต หลังจากคนร้ายสารภาพวางไว้อีก 2 จุด
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ทางสื่อสังคมออนไลน์ มีใจความว่า จากสถานการณ์ที่มีความพยายามวางระเบิดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต-พังงา ได้เชิญ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร ผบ.ตร.ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และท่านปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้รับรายงานจากทุกภาคส่วน ว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวายในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความไม่สงบ ได้ย้ำทุกภาคส่วนให้มีการสืบสวนติดตามสถานการณ์โดยตลอด
ที่ผ่านมาได้ดำเนินทุกมาตรการความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดแก่พี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะไม่ประมาท ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะดำเนินการติดตามและยกระดับการทำงานอย่างเข้มงวด โดยช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง และเร่งออกมาตรการที่เด็ดขาดต่อไป
ในนามของรัฐบาล ขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนมั่นใจว่าทุกหน่วยงานจะดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ทำหน้าที่นี้ด้วยความตั้งใจ เสียสละ อดทน เพื่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่มั่นใจและใช้ชีวิตอย่างปกติสุข รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว ขอให้มีความมั่นใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัยแน่นอน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม กล่าวถึงเหตุลอบวางระเบิดที่สนามบินจังหวัดภูเก็ตนั้น ได้รับรายงานเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเชื่อมโยงกับการก่อเหตุ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะไม่มีนัยยะทางการเมืองแต่อย่างใด แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้น หน่วยที่รับผิดชอบก็ต้องดูแล และยังไม่ได้สรุปว่าเกี่ยวอะไรกับการท่องเที่ยวหรือไม่ แต่ที่เราไปขยายความ เป็นการทำลายประเทศเราเอง ตนว่าต้องช่วยกันประคับประคองเพราะวันนี้ทุกคนเห็นว่ามีการพยายามสร้างเงื่อนไขให้ประเทศอ่อนแอ เพื่อผลทางการเมืองของทุกฝ่าย จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องนี้ด้วย
เมื่อถามว่าเหตุใดจึงเกิดในพื้นที่ท่องเที่ยว รมว.กลาโหม กล่าวว่า ยังไม่รู้เลยว่าเป็นอย่างไร ต่อข้อถามว่าจะใช้เวลานานหรือไม่ในการวิเคราะห์ข้อมูล นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขึ้นอยู่ที่กระบวนการของตำรวจ ส่วนจะนำประเด็นดังกล่าวไปหารือในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ด้วยหรือไม่ คงต้องรอดูทางเลขาฯ สมช.หากเห็นว่าสิ่งไหนสำคัญและจำเป็น ก็ต้องนำเข้าที่ประชุม
วันเดียวกัน ที่ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวถึงกรณีการจับกุมนายสุไลมาน และนายมูหามะ 2 ผู้ต้องหา พร้อมวัตถุระเบิดภายในรถยนต์ส่วนบุคคล ในท้องที่ สภ.เมืองพังงา เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีการสอบปากคำ และตรวจสอบหลักฐานกล้องวงจรปิด ยืนยันผู้ก่อเหตุมีความเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายเดียวกับที่เคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกับกล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนที่แจ้งเบาะแสจนนำมาสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุ และมีความสงสัยเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับกรณีตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขยายผลตรวจค้นพื้นที่ จ.ปัตตานี 4 จุด เข้าจับกุมผู้ร่วมขบวนการขนวัตถุระเบิดป่วน จ.ภูเก็ต กระบี่ และพังงา ได้เพิ่มอีก 3 คน จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่าได้รับการสั่งการจากแกนนำกลุ่มขบวนการ หวังสร้างสถานการณ์ ลดทอนความเชื่อมั่นต่อเขตเศรษฐกิจ แหล่งท่องเที่ยว จ.พังงา ภูเก็ต และกระบี่
ส่วนวัตถุระเบิดที่ตรวจพบ ไม่ใช่ระเบิดทำลายหรือระเบิดสังหาร แต่เป็นเพียงระเบิดสร้างสถานการณ์ให้เกิดความหวาดกลัวต่อประชาชนหรือนักท่องเที่ยวเท่านั้น ขอชื่นชมการทำงานที่มีความพร้อมปฏิบัติอยู่เสมอของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8-9 ที่บูรณาการอย่างประสานสอดคล้อง ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ซึ่งทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ยืนยันทุกภาคส่วนยกระดับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่เข้มงวด ควบคู่กับการเฝ้าระวังกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อาจจะไปก่อเหตุสร้างสถานการณ์นอกพื้นที่มากขึ้น สิ่งสำคัญคือเครือข่ายภาคประชาชนต้องร่วมกันเฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น หากพบบุคคลต้องสงสัย ขอให้แจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ทันที” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
อีกด้านหนึ่งเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี ตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจ บก.สส.ภ.8 และตำรวจ บก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ร่วมกับตำรวจ สภ.เชิงทะเล และฝ่ายปกครอง อ.ถลาง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย เครื่องตรวจจับโลหะ หลังจากผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ รับสารภาพเพิ่มเติมว่า ได้วางวัตถุต้องสงสัยอีก 2 จุด บริเวณหาดสุรินทร์ ใกล้สถานที่ก่อสร้าง กระทั่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ภายหลังตรวจพบ ทางหน่วยอีโอดี จึงเข้าทำลาย นอกจากนี้ยังต้องกันพื้นที่โดยรอบเพื่อตรวจหาวัตถุต้องสงสัย เนื่องจากยังไม่พบอีก 1 จุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี