กรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ ร่วม จังหวัดพังงา จัดสัมมนา “แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน” พร้อมรับฟังปัญหาทางเกษตร
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2563 ที่ศูนย์ศึกษาวิจัยศิลปกรรมวัฒนธรรมและประเพณีแห่งอันดามัน บ้านท่าด่าน ต.เกาะปันหยี อ.เมืองพังงา จ.พังงา นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ส่วนราชการ และเกษตรกรจากทุกสาขา เข้าร่วมสัมมนา จำนวน 340 คน ภายใต้การจัดงานการสัมมนาเรื่อง “แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน” มีการเสวนาในประเด็นต่างๆ เช่น การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สวนยางอย่างยั่งยืน แนวทางการเพิ่มรายได้จากการทำสวนปาล์มน้ำมัน แนวทางการเลี้ยงแพะเสริมในสวนปาล์มและสวนยางพารา และแนวทางการสนับสนุนการปลูกพืชทางเลือกในจังหวัดพังงา พร้อมกับแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกร
สำหรับจังหวัดพังงา มีพื้นที่ทางการเกษตรคิดเป็นร้อยละ 44.30 ของพื้นที่ทั้งหมด พื้นที่ส่วนใหญ่ร้อยละ 90 เป็นพื้นที่ปลูกไม้ยืนต้นและไม้ผล เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มังคุด ทุเรียน เงาะ และลองกอง มูลค่ามวลรวมเมื่อปี 2561 มีมูลค่า 16,498 ล้านบาท ซึ่งมาจากภาคการเกษตร และมี GDP เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี
เวทีสัมมนาในครั้งนี้ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎรร่วมกับจังหวัดพังงาได้จัดขึ้น เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนให้กับเกษตรกร เกษตรกรเองได้ทำการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร ที่สำคัญคือ คณะกรรมาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบปัญหาและอุปสรรค ตลอดจนข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดพังงา เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนและส่งเสริมด้านภาคการเกษตรสู่ความยั่งยืน
โดย นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สำหรับวัตถุประสงค์การจัดเสวนาแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน และ ศึกษาดูงานการเกษตรในสวนยางพารา และ สวนปาล์มน้ำมัน ซึ่งพบว่า เกษตรกรไม่สามารถจะทำเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนได้ในบางอาชีพ เช่น การทำสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน ทำให้มีการส่งเสริมเกษตรกรรมทางเลือก ให้เกษตรกรปลูกพืช หรือ ทำการเลี้ยงสัตว์ ทำการประมง ในสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน เพื่อต้องการให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนการส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถดำเนินการเกษตรอย่างยั่งยืนได้มีขั้นตอน ครั้งนี้เป็นขั้นตอนแรกที่ส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เกษตรกรได้มีทางเลือกอื่นนอกจากพืชเศรษฐกิจของภาคใต้ โดยไม่จำเป็นต้องโค่นล้มต้นยางพารา หรือ ต้นปาล์มน้ำมัน เมื่อเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ขั้นตอนดำเนินการให้เกษตรกรรมยั่งยืนมีการดำเนินการ น้ำดี ดินดี มีการบริหารจัดการน้ำ จากนั้น มีการสนับสนุนการแปรรูป ซึ่งกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงพื้นที่เพื่อต้องการรับฟังปัญหา อุปสรรค เพื่อนำเสนอทาง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการพัฒนาเกษตรกร ให้มีความมั่นคงในอาชีพการเกษตรต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี