วันที่ 25 สิงหาคม 2563 ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความชื่อดัง แถลงข่าวคดี "บอส วรยุทธ" ที่ขับรถเฟอร์รารีชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อปี 2555 ว่า ตนมาในฐานะของนักวิชาการมองว่ากรณี นายเนตร ทองสุข รอง อสส.สั่งไม่ฟ้องเป็นตามอำนาจหน้าที่และชอบด้วยกฎหมาย โดยคดีถือว่าสิ้นสุดเด็ดขาดและคณะกรรมการมีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ว่า นายเนตร สั่งคดีโดยชอบ การรื้อคดีใหม่ในชั้นสอบสวนไม่มีแต่อาศัยตาม ป.วิอาญา 47 มาใช้เทียบเคียงกันว่า หากมีพยานหลักฐานใหม่สามารถทำได้เพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษ โดยให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้ดำเนินการ แต่ต้องเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ได้อยู่ในสำนวนมาก่อน แต่การรื้อคดีใหม่ยังไม่เห็นว่ามีพยานหลักฐานใหม่แต่อย่างใด
ส่วนข้อหาขับรถด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนดที่ไม่อยู่ในสำนวน มองว่าเป็นหลักฐานใหม่นั้นอันที่จริงปรากฎในสำนวน โดยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และ การเปรียบเทียบร่องรอยการชน จากเจ้าหน้าที่ พฐ.มีความน่าเชื่อถือ สรุปความเห็นว่าความเร็วที่ขับมานั้นไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนที่สังคมตั้งข้อสังเกตความเร็วรถเกินกว่า 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นที่ทราบกันดีว่าโครงรถเบาบางและฉีกง่าย ชนไปแค่นิดเดียวรถก็อาจจะบุบได้
สำหรับกรณีดังกล่าวที่มีรื้อคดีขึ้นมาใหม่ ส่วนตัวมองว่ามันไม่สามารถรื้อได้อยู่แล้ว แต่การตั้งคณะทำงานและตั้งคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ขึ้นมา เป็นเพียงการตั้งขึ้นมาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเท่านั้น แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ โดยเหตุที่รื้อมาเพราะว่าความเห็นของประชาชน จึงอยากฝากบอกว่าอย่าเอาเสียงของประชาชน มาทำลายกระบวนการยุติธรรม
ดร.สุกิจ กล่าวต่อว่า คดีนี้เป็นคดีการเมืองเพราะมีคนสั่งให้พูดหรือไม่พูดบ้าง สั่งไม่ฟ้องแล้วแต่มารื้อคดีกลับใหม่ ตนมองว่าการรื้อฟื้นคดีใหม่ทำไม่ได้ ส่วนใครอยู่เบื้องหลังนั้นก็ทราบกันอยู่ ส่วนการถอนพาสปอร์ตทำให้ บอส เหมือนถูกกลั่นแกล้งไม่ให้สามารถกลับมาประเทศไทยได้ แต่เขาอยากกลับมาประเทศไทย โดยหลักฐานใหม่เป็นกระแสสังคม แต่ไม่สามารถรื้อฟื้นคดีใหม่ทำไม่ได้ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงอยากขอความเป็นธรรมให้ บอส อย่ารังแกกัน นอกจากนี้ ได้เยียวยาญาติผู้เสียหาย ทำบุญสร้างโบสถ์และการบริจาคมูลนิธิต่างๆ จำนวนเงิน 3 ล้านบาท จนเป็นที่พอใจของญาติผู้เสียชีวิต
"มองว่าคดีนี้ตั้งแต่ต้นมาจนถึงตอนที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง มันเป็นการทำงานแบบโปร่งใสหรือไม่ผมก็ไม่รู้ แต่ที่ผ่านมาทำตามพยานหลักฐานตลอด ศาลทำตามขั้นตอนศาลไม่สามารถจะออกหมายจับใครได้ง่ายๆ ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ส่วนการพยายามรื้อสำนวนเพื่อส่งฟ้องใหม่ โดยใช้พยานหลักฐานเก่าในประเด็นสารเสพติดนั้น หากเป็นการเสพต้องนำตัวไปบำบัดและมีอยู่ในหลักฐานเก่าจึงไม่ฟ้องการรื้อคดีใหม่ในชั้นคดีสอบสวนไม่สามารถทำได้" ทนายสุกิจ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี