25 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหนังสือประกาศจากสำนักงานปศุสัตว์อำเภอหนองหาน เรื่อง กำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราวโรดเฮโมรายิกเชปกิซีเมียในกระบือ หรือโรคคอบวม โดยแจ้งว่า ขณะนี้ในท้องที่ บ้านนิคมหนองตาล หมู่ 2 ต.โพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ได้ตรวจพบสัตกระบือ เกิดโรคระบาดของโรคโรดเฮโมรายิกเซปกิซีเมีย หรือโรคคอบวมซึ่งเป็น โรคระบาดตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และมีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดออกไปยังท้องที่ข้างเคียง หรือระบาดเข้ามาในท้องที่ได้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ปศุสัตว์อำเภอประจำท้องที่อำเภอหนองหานจึงออกประกาศไว้
ดังต่อไปนี้ให้ เขต ต.โพนงาม เป็นเขตโรคระบาดชั่วคราวโรดเฮโมรายิกเชพติซีเมียในกระบือ และห้ามมิให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายสัตว์ ชนิด กระบือ โค หรือซากของสัตว์ดังกล่าว เข้า ออก ผ่านหรือภายในเขตโรคระบาดชั่วคราว เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากสัตวแพทย์เท่านั้น ประกาศโดยนายวันชัย ธรรมา ปศุสัตว์อำเภอหนองหาน
ทั้งนี้มีรายงานว่าก่อนหน้านี้มีการระบาดของโรคคอบวมในโคและกระบือในพื้นที่ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี ต.ปะโค อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานีจนถึงมาถึงต.โพนงาม อ.หนองหานขณะนี้ จึงแจ้งเตือนชาวบ้านที่เลี้ยงโคกระบือ ช่วงนี้อย่าเคลื่อนย้ายสัตว์ไปในพื้นที่ของโรคระบาด ขณะเดียวกันมีรายงานว่าวันนี้ ที่ศาลากลางบ้านหัวบึง หมู่ที่ 3 บ้านหัวบึง ตำบลบ้านขาว อำเภอเมืองจังหวัดอุดรธานี นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ร่วมเปิดกิจกรรม kick off โครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคเฮโมรายิกเซพติกซีเมีย หรือ โรคคอบวม โดยมีนายดรณ์ สมิตะเกษตริน นายอำเภอเมืองอุดรธานี ผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปศุสัตว์อำเภอทั้ง 20 อำเภอ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี ร่วมกิจกรรม
นายพนธ์สมิทธิ์ กลางนภา ปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์โรคระบาดเฮโมรายิกเซพติกซีเมียหรือโรคคอบวมในกระบือหลายพื้นที่ของประเทศไทยและจ.อุดรธานีอีกหลายอำเภอ สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจกับเกษตรกรเจ้าของสัตว์เลี้ยง จังหวัดอุดรธานี จึงได้กำหนดจัด kick off รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคเฮโมรายิกเซพติกซีเมีย หรือโรคคอบวมเพื่อสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรจังหวัดอุดรธานีได้ทราบ และมีความรู้เรื่องโรคฯและให้ความสำคัญต่อการฉีดวัคซีนป้องกันโรคฯในสัตว์เลี้ยง ตลอดจนตื่นตัวในการสร้างภูมิคุ้มกันและลดอุบัติการณ์การเกิดโรคฯให้กับสัตว์เลี้ยงของตน ด้วยการฉีดวัคซีนก่อนรอบรณรงค์ฉีดวัคซีนปกติของกรมปศุสัตว์เดิม โดยจะส่งอาสาปศุสัตว์ออกฉีดวัคซีนให้แก่เกษตรกรที่เลี้ยงโคกระบือทุกตำบลทุกหมู่บ้าน
สำหรับ โรคเฮโมรายิกเซพติกซีเมีย หรือโรคคอบวม เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เป็นสาเหตุการตายของโคและกระบือ เนื่องจากโคและกระบือเป็นสัตว์ที่มีความไวต่อเชื้อ สัตว์ที่ป่วยแบบรุนแรงอาการจะเริ่มจากไข้สูงซึม และไม่อยากเคลื่อนไหว ต่อมาจะพบว่ามีน้ำลายน้ำมูก ไม่เคี้ยวเอื้อง มีการบวมแข็งร้อนบริเวณคอ หัว ไหล่ และบริเวณหน้าอก เยื่อเมือกคั่งเลือด มีอาการทางระบบหายใจคืออ้าปากหายใจ มีเสียงดังหอบลึกและถี่ ท้องอืดอุจจาระมีมูกเลือดปน สัตว์มักจะล้มและตายภายใน 6- 24 ชั่วโมง หลังจากสังเกตพบอาการ ซึ่งพบกระบือมีอัตราป่วยและตายสูงกว่าโค
โดยในช่วงนี้ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือ ชะลอการเคลื่อนย้ายสัตว์เข้า-ออก ในพื้นที่ที่มีการระบาดและดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้กับโคและกระบือที่มีอายุตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไปทุกตัว โดยเน้นพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่ที่มีการเลี้ยงโคกระบือหนาแน่น พื้นที่ใกล้ตลาดค้าสัตว์ และขอความร่วมมือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย สร้างการรับรู้แก่ประชาชน ในการเฝ้าระวังโรค หากพบการเกิดโรคแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เข้าไปควบคุมโรคทันที เพื่อลดความสูญเสียและการแพร่ระบาดของโรค พร้อมนี้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานียังได้จัดเจ้าหน้าที่จ้างเหมาช่วยงานสัตวแพทย์/อาสาสมัครปศุสัตว์ ดำเนินการเฝ้าระวังทางอาการและตรวจสอบการฉีดวัคซีนของเกษตรกรที่เลี้ยงโค-กระบือในพื้นที่ โดยให้ทำการเคาะประตูบ้านเอกซเรย์พื้นที่ที่มีการเลี้ยงโค-กระบือพร้อมรณรงค์ฉีดวัคซีน โรคเฮโมรายิกเซพติกซีเมียและโรคปากเท้าเปื่อยด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี