ผู้บัญชาการทหารเรือให้โอวาททหาร สอ.รฝ.ปลุกจิตสำนึกให้ยึดมั่นในประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน "สิ่งใดทุกข์ยาก ลำเค็ญ จงทำ จงเหนื่อย ความสบาย เมื่อไหร่ก็หาได้ แต่สบายมากมันก็จะเฉา"
พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.)ได้เดินทางมาที่หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมและให้โอวาทกำลังพล หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและชายฝั่ง ในวาระเยี่ยมอำลาหน่วยกองทัพเรือในพื้นที่ภาคตะวันออก ในโอกาสเกษียณอายุราชการ เมื่อวันที่ 27 ส.ค.63 ที่ผ่านมา โดยมี พลเรือตรี อุทัย ชีวะสุทธิ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ตลอดจนผู้บังคับบัญชา และข้าราชการเข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธี
ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวให้โอวาทแก่กำลังพล สอ.รฝ.ว่า "หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เกิดขึ้นมาเพียง 3 ทศวรรษ หากเป็นคน ก็เหมือนคนฉกรรจ์ มีเรี่ยวแรง มีพลังกายที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะเผชิญ ความทุกข์ยากทุกข์เข็ญ ทั้งหมดทั้งปวง อย่างไรก็ดี ด้วยหน่วยนี้ มิเคยปรากฏในสารระบบของกองทัพไทยมาก่อน ประชาชนทั่วไป มักไม่เคยทราบว่าหน่วยนี้ทำอะไรบ้าง แต่นับวัน หน่วยนี้ได้เป็นที่ชื่นชมของประชาชน ขึ้นมาโดยลำดับ เป็นที่รู้จักมากขึ้นตามกาลเวลา
สิ่งที่เห็นปรากฏ นอกจากทหารปกติทำแล้วก็คือ การช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง ทุกครั้งที่มีภัยพิบัติ อุบัติภัย หน่วยนี้เป็นหน่วยแรกเสมอ ที่เข้าแก้ไขสถานการณ์ ขอจงภาคภูมิใจในส่วนนี้ อีกประการหนึ่งคือ หน่วยนี้เป็นหน่วยกำลังรบหลัก ที่อยู่ทั้งกำลังทางบกและเรือ เป็นทหารที่มีวินัย เข้มข้น ไม่แพ้ หน่วยอื่น โดยในส่วนของหน่วยเรือ ผมได้ส่งเสริมสนับสนุนหน่วยปฏิบัติการต่างๆ ตามแนวชายแดน ตามเกาะแก่ง ต้องใช้คนที่มีความรู้ความสามารถและคนเป็นเลิศ จึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาเชื่อมโยงระหว่างบกและเรือได้อย่างสอดคล้องกลมกลืน นี่คือทหาร สอ.รฝ. นี่คือต้องภาคภูมิใจ
วันนี้ ผมมาเยี่ยมอีกครั้งหนึ่ง ไม่ได้มาเยี่ยมปกติแต่มาอำลาด้วยความรัก ระลึกถึง ชีวิตใน สอ.รฝ.ของผมมีเพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้น แต่ระยะเวลาจะยาวจะสั้นไม่สำคัญ นักรบเพียงอยู่แค่สามวันก็รู้ว่าเป็นเช่นไร มองตากันรู้ว่าต้องปฏิบัติเช่นไร เฉกเช่นเดียวกับทหาร สอ.รฝ.อยู่ 1 ปี ผมต้องการอะไร กองทัพเรือต้องการอะไร ย่อมทราบดีอยู่แล้วว่า ต้องเป็นเช่นไร ผมไม่เคยทำเพื่อตัวเอง ทุกครั้งที่ทำงาน ต้องคิดเสมอว่า ส่วนรวมได้อะไร จึงทำสิ่งนั้น มิได้เห็นแก่พวกพ้องที่หลายคน หลายพวก มักทำกัน ที่คิดเห็นแก่พวกพ้องก่อนเห็นแก่ส่วนรวม ถ้าทำเช่นนั้น ประเทศชาติจะล่มสลายในที่สุด จึงคิดว่าต้องปรับเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ หวังว่าพวกเราจะสืบทอดเจตนารมณ์ จิตวิญญาณ ของทหาร สอ.รฝ
ทุกครั้งที่มีภัยพิบัติ หนึ่งกองพันสามารถเคลื่อนพลได้ ณ ที่หมาย ภายในแค่ 2 ชั่วโมง ไม่มีหน่วยไหนทำได้ นอกจากทหาร สอ.รฝ.เท่านั้นถึงจะทำได้ อนาคตเราไม่รู้ ถึงไม่รู้ก็ต้องเดินไป จะกลัวไปใย มันก็ร่วงไปตามกาลเวลา ตามที่เสด็จเตี่ยของเราได้ให้คำขวัญเป็นเชิงเพลงไว้ นี้จงตราตรึง
ผู้บัญชาการไม่เคยคิด ไม่เคยฝันว่า ทุกคนต้องจำ จารึก ตราบนานเท่านาน เพราะอีก 300 ปี คนก็ลืม ฝากไว้กับความดีให้กับแผ่นดิน แหงนหน้า ไม่อายฟ้า ก้มหน้า ไม่อายดิน เป็นทหารของ สอ.รฝ.ที่เรายึดมั่นและปฏิบัติมา ก็หวังเพียงว่าทหาร สอ.รฝ. จะเดินตามรอยผู้บัญชาการ สิ่งใดทุกข์ยาก ลำเค็ญ จงทำ จงเหนื่อย ความสบาย เมื่อไหร่ก็หาได้ แต่สบายมากมันก็จะเฉา นี่คือข้อเท็จจริง"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี