31 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า กรณีที่ นายอนุวัฒน์ กระแหน่ อายุ 23 ปี ชายชาวกระเหรี่ยง ในพื้นที่หมู่ 4 บ้านอีมาดอีทราย ตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ถูกคนร้ายยิงด้วยปืนลูกซองจนเสียชีวิต ก่อนถูกตัดศีรษะจนขาดออกจากตัว อยู่บริเวณกลางไร่ที่ปลูกพืชผลทางการเกษตร โดยคนร้ายได้นำศีรษะของผู้ตายไปโยนทิ้งไว้ไม่ไกลจากจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้ที่ลงมือฆ่า คือ พี่ชายแท้ๆ ของผู้ตาย คือ นายอนุชา กระแหน่ อายุ 29 ปี ถือเป็นเหตุที่สร้างความสะเทือนขวัญให้กับครอบครัว รวมไปถึงชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากขณะนี้ ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ได้ โดยคาดว่าคนร้ายนั้น น่าจะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในภูเขาในพื้นที่
ล่าสุดวันนี้ (31 สิงหาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายศาลจังหวัดอุทัยธานี เพื่อทำการจับกุมตัว นายอนุชา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน พกพาอาวุธปืนในเมืองหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน จำนวน 2 ชุด ได้แก่ ชุดสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านไร่ และ ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทีมเจ้าหน้าที่ทหารจาก ร.4 พร้อมชาวบ้านที่เชี่ยวชาญป่าในพื้นที่ รวมไปถึงกำนัน ตำบลแก่นมะกรูด และญาติของคนร้าย ร่วมลงพื้นที่ค้นหาตัวในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากนายอนุชามีอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนครบมือ และยังมีความชำนาญในการเดินป่า เนื่องจากเป็นพรานป่าอีกด้วย
โดยแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด พร้อมอาวุธครบมือ เดินเท้าเข้าไปยังภายในภูเขาในพื้นที่อีกครั้งเป็นวันที่ 3 ซึ่งคาดว่าคนร้ายนั้นจะใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวอยู่ โดยวางแผนเดินทางในรูปแบบการกระจายกำลังปิดล้อม เพื่อหวังที่จะได้ตัวคนร้ายให้ได้ในวันนี้ 6 ชั่วโมง แต่สุดท้ายก็ยังคงไม่พบตัวของนายอนุชา พบแต่เพียงร่องลอยการเข้าพักอาศัยที่กระท่อมริมไร่ในทางเข้าภูเขา ที่คาดว่าอาจจะเป็นนายอนุชา เข้ามาหลบพักอาศัย เท่านั้น
ด้าน นายตาเวีย องค์พระ ซึ่งเป็นน้าที่เอาของใช้รวมไปถึงอาหารไปให้คนร้ายที่ในเขา ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตนได้นำเสบียง ซึ่งมีข้าวสวยอาหาร รวมไปถึงอาหารแห้งขึ้นไปให้นายอนุชา พร้อมกับโทรศัพท์มือถือที่ทางกำนันให้นำไปมอบให้กับ นายอนุชาด้วยอีก 1 เครื่อง เพื่อหวังไว้ใช้ในการโทรสื่อสารเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยให้นายอนุชานั้น ยอมมอบตัวรับโทษแต่โดยดี
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวน ไล่ล่า กดดัน และจับกุม ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ มาดำเนินตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี ต้องทำงานกันอย่างระมัดระวังให้มาก เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน หากมีการต่อสู้ขัดขืนและประสงค์ถึงชีวิตเจ้าหน้าที่ ก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด โดยยึดหลักยุทธวิธี ระดับการใช้กำลัง พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน ในการนำตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย อีกด้วย
หลังจากนั้นช่วงเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่จึงได้ทยอยถอนกำลังกลับ โดยได้ทยอยเดินกันออกมาจากป่าในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ได้นั่งพักใกล้ห้างพักของนายอนุชา พบหมาของอนุชาวิ่งออกมาจากป่า จึงรีบเข้าที่ซุ้ม เห็นนายอนุชา เดินมาที่ห้างพักของตนเอง จึงซุ้มดูและนายอนุชากำลังจะลงไปอาบน้ำในสระน้ำหน้าห้าง จึงได้เข้าจุบกุมคาสระน้ำ ซึ่งเบื้องนายอนุชาผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า แค้นฝังใจน้องมานานแล้วจึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวนายอนุชา ผู้ต้องหามายัง สภ.บ้านไร่ เพื่อทำการสอบสวนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี