กรมชลฯเดินหน้าโครงการบรรเทาอุทกภัย"บางสะพาน" แก้ปัญหาครบวงจร เร่งขุดขยายคลองระบายน้ำ-คลองผันน้ำ พร้อมก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเพิ่มอีก2แห่งในพื้นที่ต้นน้ำ มั่นใจแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้อีกกว่า15,000ไร่
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2563 นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า โครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอบางสะพาน นับว่าโครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาด้านน้ำอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำตามสภาพภูมิประเทศของ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน โดยพื้นที่ต้นน้ำจะมีความลาดชันสูง ในขณะที่พื้นที่ปลายน้ำเป็นที่ราบสลับที่ดอน เมื่อเกิดภาวะฝนตกหนักและต่อเนื่องหลายวัน น้ำจะหลากเข้าท่วมพื้นที่ตอนล่างซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนอ.บางสะพานอย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาวบางสะพานมาเป็นเวลามากกว่าสิบปีแล้ว กรมชลประทาน จึงเข้าดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอบางสะพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ทั้งยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้กว่า 15,000 ไร่ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำในอนาคต และยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรให้ดีขึ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการภายในปี 2568
สำหรับการดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอบางสะพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ต้นน้ำบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี จะทำการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำบ้านไทรทอง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างพร้อมกับระบบส่งน้ำ สามารถเก็บกักน้ำได้ 13.36 ล้าน ลบ.ม.คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2566 และอ่างเก็บน้ำคลองลอยตอนล่าง มีแผนดำเนินการในปี 2565 สามารถเก็บกักน้ำได้ 17.46 ล้าน ลบ.ม.คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 หากทั้ง 2 โครงการแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้กว่า 30 ล้าน ลบ.ม.สามารถส่งน้ำให้พื้นที่การเกษตรกว่า 6,000 ไร่ และมีประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้กว่า 480 ครัวเรือน นอกจากนี้จะทำการปรับปรุงอ่างเก็บน้ำเดิมที่มีอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบ้านโป่งสามสิบ อ่างเก็บน้ำคลองลอย อ่างเก็บน้ำวังน้ำเขียว พร้อมปรับปรุงฝายทดน้ำห้วยลึกอันเนื่องมาจากพระราชดำริอีก 1 แห่ง เพื่อให้สามารถใช้งานได้เต็มศักยภาพ
ส่วนพื้นที่กลางน้ำและปลายน้ำ กรมชลประทาน จะดำเนินการขุดขยายคลองระบายน้ำจำนวน 4 สาย เพื่อรับมวลน้ำที่หลากมาจากเทือกเขาตะนาวศรีฝั่งตะวันตกได้มากขึ้น พร้อมงานขุดคลองผันน้ำอีกจำนวน 3 สายเพื่อตัดยอดน้ำที่ไหลบ่าผ่านตัวเมือง พร้อมทั้งเร่งผลักออกสู่ทะเลในเวลาอันรวดเร็ว โดยจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำได้ประมาณ 1,025 ลบ.ม.ต่อวินาที มากกว่าอัตรารับน้ำของคลองเดิมกว่าเท่าตัว
ขณะที่การขุดขยายคลองสายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น คลองแม่รำพึง คลองปัตตามัง คลองเขาม้าร้อง คลองผันน้ำแม่รำพึง-อ่าวบ่อทองหลาง และคลองผันน้ำคลองเขาม้าร้อง-อ่าวบางสะพาน จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป พร้อมทั้งจะดำเนินการสร้างอาคารบังคับน้ำตามลำคลองเป็นระยะ จำนวน 9 แห่ง เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งจะได้น้ำต้นทุนเพิ่มอีกประมาณ 5.5 ล้าน ลบ.ม.มีพื้นที่การเกษตรได้รับประโยชน์กว่า 10,000 ไร่ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งคลองมีรายได้ที่ดีขึ้น และสร้างความมั่นคงให้กับชุนชนอย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี