เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2563  พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร พ.ต.อ.เกียรติภูมิ สุวรรณไตรย์ ผกก.สภ.เมืองมุกดาหาร พอ.ยุทธนา  มหาวัน รอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 1 กกล.สุรศักดิ์มนตรี(ร.3) ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 3,555,000 เม็ด ที่หน้ากองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร

ทั้งนี้ หลังจาก พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ  ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร พ.ต.อ.เกียรติภูมิ  สุวรรณไตรย์ ผกก.สภ.เมืองมุกดาหาร ได้รับรายงานจากสายว่าจะมีขบวนการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เกียรติภูมิ  สุวรรณไตรย์   ผกก.สภ.เมืองมุกดาหาร  พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองมุกดาหาร และได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหารพราน 2107 ออกตรวจกวดขันผู้ลักลอบขนยาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ

ในวันที่เกิดเหตุ ได้สืบสวนทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจากเขตตำบลนาสีนวน อ.เมือง จ.มุกดาหารโดยใช้รถยนต์กระบะ จะมีการขนส่งทีละเป็นจำนวนมาก ทำการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน  จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุม โดยซุ่มอยู่ตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าน่าจะลำเลียงผ่าน

จนกระทั่งเวลาประมาณ  02.30 น.ของวันที่  12  กันยายน 2563 ได้พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ  สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ-2853  ยโสธร วิ่งผ่านมาตามถนนมุกดาหาร -ดอนตาล ขาเข้าตัวเมืองมุกดาหาร บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านบุ่งอุทัย ต.นาสีนวน อ.เมือง  จ.มุกดาหาร โดยมีแผ่นผ้าใบสีดำคลุมอยู่ที่กระบะลักษณะน่าจะเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมให้สัญญาณเรียกให้หยุดรถ เมื่อผู้ขับขี่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ที่ขับขี่ได้หยุดรถแล้วเปิดประตูรถด้านคนขับ วิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างถนน โดยอาศัยความมืดหลบหนีเจ้าหน้าที่ไป

จากนั้นจึงได้ทำการตรวจค้นภายในรถ บริเวณเบาะนั่งข้างคนขับ พบนายเจษฎา จันทรโคตร อายุ 20 ปี ที่อยู่  124  หมู่ที่  6 บ้านคำเม็ก  ต.คำอาฮวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร พร้อมมีกระสอบถุงปุ๋ยสีขาววางอยู่เบาะหลังภายในรถ  และได้พบกระสอบปุ๋ยดังกล่าวอีกบางส่วนอยู่ที่ท้ายกระบะ ทำการตรวจสอบ ข้างในถุงพบว่าเป็นยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงินแบบเปิดปิดได้ ห่อด้วยกระดาษสีเหลืองพันด้วยเทบกาวสีขาว ลักษณะเป็นมัด บรรจุในถุง จำนวน 15 ถุงปุ๋ย รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ  3,555,000  เม็ด  ส่วนผู้ที่หลบหนีอยู่ระหว่างทำการสืบสวน ขยายผลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป