วันอังคาร ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เกรียนคีย์บอร์ดโดนแล้ว! ตม.แจ้งเอาผิดคนปล่อยข่าวมั่ว ต่างชาติเข้าไทยไม่กักตัว

เกรียนคีย์บอร์ดโดนแล้ว! ตม.แจ้งเอาผิดคนปล่อยข่าวมั่ว ต่างชาติเข้าไทยไม่กักตัว

วันอังคาร ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2563, 15.35 น.
Tag : กักตัว เกรียนคีย์บอร์ด โควิด ตม.
  •  

เกรียนคีย์บอร์ดโดนแล้ว! ตม.แจ้งเอาผิดคนปล่อยข่าวมั่ว ต่างชาติเข้าไทยไม่กักตัว

15 กันยายน 2563 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) แถลงผลการสกัดแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้านที่ยังรุนแรง ทำให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองยังต้องคุมเข้มชายแดนช่องทางธรรมชาติอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะชายแดนที่ติดกับประเทศเมียนมา และกัมพูชา จึงกำชับให้ตรวจคนเข้าเมืองประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจตราต่อเนื่อง มั่นใจสามารถสกัดกั้นการหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ แต่ต้องขอความร่วมมือประชาชน และผู้ประกอบการอย่าใช้แรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง เพราะจะมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19


ส่วนกรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา ระบุว่า ขณะไปรับเพื่อนที่สนามบินสุวรรณภูมิ พบผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย ขณะนี้มีชาวไทยเพียงร้อยละ 20 ส่วนอีกร้อยละ 80 เป็นชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาพบแพทย์ในไทย โดยไม่ผ่านการกักตัว ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และมอบหมายให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 (บก.ตม.2) แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 ในฐานะรองโฆษก สตม. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ปัจจุบันผู้ที่สามารถเดินทางเข้าราชอาณาจักรได้ คือ คนไทยที่เดินทางกลับประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศกำหนดโควต้าไว้วันละ 600 คน ตามความสามารถในการคัดกรองและการกักตัวในสถานที่ซึ่งรัฐจัดให้ (SQ) และคนต่างชาติที่ได้รับอนุญาต ซึ่งต้องเป็นผู้ที่ต้องจ่ายเงินค่ากักตัวเอง (ASQ , AHQ)

สำหรับกรณีคนต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าราชอาณาจักรได้ดังกล่าว จะต้องเป็นบุคคลที่อยู่ในกลุ่มประเภทที่อนุญาตตามข้อกำหนดซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กำหนด อาทิ คนต่างชาติที่มีใบอนุญาตทำงาน คนต่างชาติที่มีครอบครัวเป็นคนไทย คนต่างชาติที่มีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนผู้ที่มีความจำเป็นต้องเข้ามารักษาพยาบาล แต่ไม่ใช่การรักษาโควิด-19 เป็นต้น โดยคนต่างชาติที่เข้าเงื่อนไขซึ่งประสงค์จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ก่อนเดินทางจะต้องลงทะเบียนเพื่อยื่นขอหนังสือรับรองการอนุญาตให้เข้าประเทศ (COE) ต่อสถานทูตไทยในต่างประเทศ , ขอวีซ่าถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่จะเดินทางเข้ามา โดยต้องแสดงหลักฐานการจองสถานที่กักตัวต่อสถานทูต และต้องมีกรมธรรม์ประกันสุขภาพซึ่งมีวงเงินค่ารักษาไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐ ครอบคลุมตลอดระยะเวลาที่พำนักในราชอาณาจักร

อีกทั้งต้องมีหลักฐานรับรองว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 ซึ่งออกไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และเมื่อเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ จะยื่นเอกสารทั้งหมดและกรอกเอกสาร ต.8 ต่อเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เพื่อตรวจสอบเอกสารและระบุสถานที่กักตัว จากนั้นจึงจะมาตรวจอนุญาตเข้าประเทศตามสิทธิกับเจ้าหน้าที่ ตม. หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุวรรณภูมิ , เจ้าหน้าที่ทหาร และ เจ้าหน้าที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พาผู้โดยสารต่างชาติดังกล่าวไปรับกระเป๋าและกำหนดให้เดินเป็นแถวออกทางประตู 9 ของสนามบินเท่านั้น ซึ่งมีรถของโรงแรมหรือโรงพยาบาลมารับไปสถานที่กักตัว

ทั้งนี้ กระบวนการทุกขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้น ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการการปฏิบัติร่วมกันภายใต้การกำกับดูแลของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (EOC ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) ในการควบคุม คัดกรองคนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาตามความจำเป็นดังกล่าวให้เข้าสู่การกักตัวทุกราย รวมถึงคนต่างชาติที่จำเป็นต้องเข้ามารักษาพยาบาล ซึ่งในหนังสือรับรองการอนุญาตให้เดินทางเข้าราชอาณาจักรได้ (COE) ที่ออกโดยสถานทูตต้นทางจะระบุว่าให้กักตัวที่โรงพยาบาลใด ก็จะต้องมีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลนั้น มารับเพื่อไปกักตัวที่โรงพยาบาลไม่น้อยกว่า 14 วัน เช่นเดียวกัน

พ.ต.อ.เชิงรณ กล่าวอีกว่า ในปัจจุบัน นับตั้งแต่มีมาตรการกักตัวคนไทยที่เดินทางกลับ ตั้งแต่ 4 เม.ย.63 และนับตั้งแต่มีการผ่อนคลายให้คนต่างชาติที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร  มีสถิติคนไทย เดินทาง จำนวน 49,696 คน คิดเป็น 79.98% คนต่างชาติ จำนวน 12,441 คน  คิดเป็น 20.02% โดยคนต่างชาติดังกล่าวเป็นบุคคลที่มีความจำเป็นเพื่อเข้ามารักษาพยาบาล 367 คน และสำหรับวันที่ 10 ก.ย.63 มีคนไทยเดินทางเข้ามาทางสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน  690 คน ต่างชาติ จำนวน 479 คน  มีชาวต่างชาติเป็นผู้เข้ามารักษาพยาบาลจำนวน 10 คน ซึ่งทุกคนได้เข้ารับการกักตัวในโรงพยาบาลที่กำหนดไม่น้อยกว่า 14 วัน ทุกราย

“ขอเรียนว่า จากข้อมูลสถิติผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรปัจจุบัน ยังเป็นคนไทยมากกว่าคนต่างชาติ ซึ่งทุกคนต้องเข้ารับการกักตัวตามมาตรการที่กำหนดทุกราย เพื่อการควบคุม ป้องกัน การนำเชื้อไวรัสโควิด-19 จากต่างประเทศเข้ามาระบาดในประเทศไทยอย่างจริงจังตามนโยบายของรัฐบาล เชื่อว่าการโพสต์ข้อความลักษณะนั้นอาจเกิดจากความไม่เข้าใจ หรือความคึกคะนอง แต่เนื่องจากข้อความสร้างความตื่นตระหนกและสร้างความเสียหาย ทำให้สังคมเกิดความไม่เชื่อมั่นในระบบสาธารณสุข จึงต้องมีการแจ้งความดำเนินคดี” พ.ต.อ.เชิงรณ กล่าว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'อว.-สตม.\'คลอด 5 มาตรการเข้มสวม\'วีซ่านักเรียน\' สกัดซ้ำรอยตึก สตง. ออกประกาศเข้มหลักสูตรสถานศึกษา 'อว.-สตม.'คลอด 5 มาตรการเข้มสวม'วีซ่านักเรียน' สกัดซ้ำรอยตึก สตง. ออกประกาศเข้มหลักสูตรสถานศึกษา
  • เปิดไทม์ไลน์‘หนุ่มจีน’บังคับ‘เด็กเอน’อัพยาดับ นครบาลเร่งล่าตัว ประสาน ตม.สกัด เปิดไทม์ไลน์‘หนุ่มจีน’บังคับ‘เด็กเอน’อัพยาดับ นครบาลเร่งล่าตัว ประสาน ตม.สกัด
  • \'รรท.ผบช.สตม.\'ตรวจสนามบินสุวรรณภูมิ เตรียมรับ นทท.ปีใหม่ คาดอาจสูงถึง 120,000 คน/วัน 'รรท.ผบช.สตม.'ตรวจสนามบินสุวรรณภูมิ เตรียมรับ นทท.ปีใหม่ คาดอาจสูงถึง 120,000 คน/วัน
  • ท้าทายระบบ!สั่งล่า‘แก๊งต่างด้าว’ตั้งกลุ่มเย้ยกฎหมาย คาดโทษ‘ตม.’เกียร์ว่างโดนแน่ ท้าทายระบบ!สั่งล่า‘แก๊งต่างด้าว’ตั้งกลุ่มเย้ยกฎหมาย คาดโทษ‘ตม.’เกียร์ว่างโดนแน่
  • ‘ตม.อุบลราชธานี’ร่วมจับชายวัย47ปี ตามหมายจับขับรถขณะเมาสุรา ‘ตม.อุบลราชธานี’ร่วมจับชายวัย47ปี ตามหมายจับขับรถขณะเมาสุรา
  • ‘สืบตม.1’ทลายโรงงานย่านฝั่งธนฯ รวบ 2 เมียนมาเถื่อนผลิต‘ไอศกรีม’คลิปว่อนโซเชียล ‘สืบตม.1’ทลายโรงงานย่านฝั่งธนฯ รวบ 2 เมียนมาเถื่อนผลิต‘ไอศกรีม’คลิปว่อนโซเชียล
  •  

Breaking News

รวบเขมรลอบเข้าเมือง! ซิมเถื่อน200เบอร์-เงินแสนในมือ คาดโยงแก๊งอาชญากรข้ามชาติ!

เปิดละเอียดยิบ 12 ข้อกังขาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ‘กมธ.กาสิโนสว.’ส่งหนังสือถาม‘นายกฯ’

จยย.เฉี่ยวรถยนต์ ร่างลอยกระแทกขอบปูนหมดสติ ยื้อไม่ไหวเสียชีวิต

โค้งสุดท้ายหนุ่มอุ้มไหแห่นาค ไหว้ท้าวเวสสุวรรณขอเลขก่อนเข้าโบสถ์บวชพระ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved