9 กรกฎาคม 2568 พล.ต.ท. สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 ได้รับการประสานจาก ตำรวจ AFP ประเทศออสเตรเลีย ว่ามีชาวออสเตรเลียถูกหลอกให้มีการลงทุนออนไลน์ โดยเชื่อว่าผู้ก่อเหตุจะอาศัยอยู่ในประเทศไทย จึงได้มอบหมายให้ศูนย์ป้องกันปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ภาค 8 ร่วมกับพ.ต.อ.ปริญญา ตัณธสุวรรณ ผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี , พ.ต.อ.อภิชาต จันทร์สำเร็จ ผกก.สภ.เกาะพะงัน , พ.ต.อ.นฤวัต พุทธวิโร ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ลงพื้นที่อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมนำหมายค้นศาลจังหวัดเกาะสมุย เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด
เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนายเดวิด กาย แฮมเบอร์เกอร์( Mr.David Guy Hamburger ) อายุ 54 ปี ชาวเยอรมัน ตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 207/2568 ลงวันที่ 19 มิ.ย. 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เข้าควบคุมตัวนายเดวิดได้ ขณะกำลังขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักเลขที่ 64/3 ม.6 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จว.สุราษฎร์ธานี จากนั้นได้ควบคุมตัวนายเดวิดไปตรวจค้นที่บ้านพัก และตรวจยึดพร้อมอายัดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 19,135,993 บาท ที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำผิดตามความผิดมูลฐานฟอกเงิน ได้แก่ ทรัพย์สินดิจิตัล(คริปโตเรนซี่) จำนวน 1 บัญชี มูลค่า 8,040,083 บาท,เงินในบัญชีธนาคาร ต่างๆ จำนวน 4 บัญชี จำนวน 6,230,910 บาท ,เงินสด จำนวน 495,000 บาท,โฉนดที่ดิน จำนวน 1 ฉบับ มูลค่า 1,500,000 บาท ,รถยนต์และรถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน มูลค่า 2,265,000 บาท,นาฬิกาหรู จำนวน 13 เรือน มูลค่า 605,000 บาท และ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบพบสคริปบทพูดในการหลอกลวงชักชวนลงทุนในหุ้นวิเวียนตามที่ผู้เสียหายถูกหลอกจากประเทศออสเตรเลีย รวมทั้งพบข้อมูลผู้เสียหายแต่ละรายที่ถูกหลอกลวงอยู่ในคอมพิวเตอร์
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดได้เข้าตรวจสอบการจัดตั้งบริษัทนอมินีของนายเดวิด อีก 3 จุด พร้อมเก็บหลักฐาน ประกอบด้วยสำนักงานกฎหมายเลขที่ 204/16 ม.1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จว.สุราษฎร์ธานี ,บริษัท มอนทาน่า เรียลลิตี้ จำกัด เลขที่ 26/9-10 ม.4 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จว.สุราษฎร์ธานี และที่บ้านเลขที่ 23/12 ม.6 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านพักอาศัยของภรรยานายเดวิด เจ้าหน้าที่ได้นำตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนายเดวิดซึ่งเชื่อว่าเป็นเครือข่ายของผู้ต้องหา สนับสนุนและช่วยเหลือในการจัดตั้งบริษัท จำนวน 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท เชสะพีค รอส จำกัด , บริษัท มอนทาน่า เรียลลิตี้ จำกัด , บริษัท ลากูน่า คลิฟ จำกัด และ บริษัท กอลลัมล์ จำกัด มาทำการสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายในการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเป็นนอมินีหรือการใช้นอมินีในการทำธุรกิจ
สำหรับนายเดวิดผู้ต้องหาได้เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี มานานกว่า 5 ปี โดยใช้วีซ่าใช้ชีวิตบั้นปลาย และมีภรรยาเป็นชาวไทยอยู่ที่ อ.เกาะสมุย ได้เข้ามาจัดตั้งบริษัทนิติบุคคล ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ วิลล่าให้เช่า รวมถึงบริษัทรับเหมาก่อสร้างและร้านอาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะส่งตัวนายเดวิดไปดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชนที่ สภ. เมืองปทุมธานีก่อนจากนั้นตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะได้ทำการอายัดตัวเพื่อดำเนินคดีในความผิดตาม พรบ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งในการรวบรวมพยานหลักฐาน พบมีกลุ่มคนไทย และสำนักงานกฎหมาย ให้การสนับสนุนช่วยเหลือในการจัดตั้งบริษัทในลักษณะนอมินี
โดยเชื่อว่าเงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินที่ได้จากการฉ้อโกง ด้วยการหลอกให้ลงทุนจากระบบออนไลน์ เชื่อว่านอกเหนือจากกรณีของนายเดวิดแล้ว จะมีชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในลักษณะของการจัดตั้งบริษัทนิติบุคคล โดยการใช้ตัวแทนอำพราง หรือ นอมีนี อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ถือเป็นนโยบายสำคัญในการกวดขัน กวาดล้างจับกุม เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ พล.ต.ท. สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 กล่าว
.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี