ภายในหมู่บ้านบัว หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านตุ่น อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา มีหลายสิ่งที่น่าค้นหาและน่าไปสัมผัส เพราะมีความหลากหลายของชาวบ้านที่ใช้ชีวิตแบบพอเพียง และมีปราชญ์ชาวบ้านอยู่จำนวนไม่น้อย แต่ครั้งนี้เราขอแนะนำ“นายเสาร์แก้ว ใจบาล”
พ่อเสาร์แก้ว ใจบาล ปัจจุบันอายุ 75 ปี ซึ่งถือว่าเป็นปราชญ์ชาวบ้านที่ริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานการทดแทนพลังงาน โดยริเริ่มทำเตาแก๊สชีวภาพจากมูลโค ต่อมาได้พัฒนาเตาแกลบชีวมวล ซึ่งมีประสิทธิภาพดี เป็นที่สนใจแก่ผู้สนใจทั่วไป และยังมีตำแหน่งเป็นอาสาสมัครพลังงานชุมชนของสำนักงานพลังงานจังหวัดพะเยา
“พ่อเสาร์แก้ว” ซึ่งเป็นอาสาสมัครพลังงานของสำนักงานพลังงานจังหวัดพะเยา เล่าให้ฟังว่าตนเองได้คิดค้นเตาดังกล่าวขึ้นมาหลังจากเกษียณ เพราะไม่รู้จะทำอะไร จากที่มองเห็นว่าแกลบนั้นติดไฟได้ แต่หากเผาธรรมดาก็จะเกิดควันและกลิ่นเหม็น จึงได้ศึกษาและขอคำแนะนำจากสำนักงานพลังงานพะเยา จนเกิดเป็นเตาแกลบดังกล่าว ซึ่งใช้หลักการพลังงานลมในการทำให้การเผาไหม้ของแกลบนั้นเร็วมากขึ้น จนเกิดเป็นแก๊สในที่สุด สามารถนำมาใช้ครัวเรือนได้อย่างดี ที่สำคัญพบว่าลดค่าใช้จ่ายจากแก๊สลงได้เกือบ 100%
“หลังจากที่คิดค้นและสร้างเตาแกลบขึ้นมาจนสำเร็จ ก็ได้ขออาสาเป็น “อาสาสมัครพลังงานชุมชน” กับทางสำนักงานพลังงานจังหวัดพะเยา เพื่ออยากที่จะถ่ายทอดแนวคิดนี้ให้ไปกับทุกๆ คน เพราะไม่อยากให้แนวคิดตนเองสูญเปล่า หากวันหนึ่งไม่ได้อยู่ในโลกใบนี้แล้ว ซึ่งรางวัลที่ได้รับมากมาย โดยเฉพาะ “รางวัลอาสาสมัครพลังงานชุมชนดีเด่นระดับภาคเหนือ ประจำปี 2560” จึงมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในคนไทยที่สามารถช่วยคนไทยด้วยกัน ทำให้การประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงลงได้” พ่อเสาร์แก้ว กล่าว
และแนวคิดนี้ก็ถูกส่งได้ถูกต่อให้ “นายปรีชา ใจบาล” ลูกชาย ที่เข้ามาสานต่อแนวคิด และพัฒนารูปแบบเตาแกลบให้ดีขึ้นมา มีน้ำหนักเบากว่าคนรุ่นพ่อ
และมีการพัฒนาไม่หยุด โดยเตาแก๊สชีวมวลจากแกลบจะมีลักษณะเป็นทรงกระบอกเพื่อเป็นที่บรรจุแกลบ ใน 1 กระบอก จะใช้แกลบประมาณ 1.5 กิโลกรัม จุดได้นาน30-45 นาที ซึ่งเมื่อต้มน้ำ 1.5 ลิตร จะเดือดภายในเวลา 3 นาที โดยในของวัสดุที่ใช้ทำเตาแก๊สชีวมวล ช่วงแรกทำเป็นแบบคอนกรีต ซึ่งน้ำหนักจะมากและแตกง่าย ทำแบบคอนกรีตนี้มานานถึง 10 ปี ก่อนจะมาเปลี่ยนรูปแบบเป็นโลหะน้ำหนักแบากว่าและไม่แตกง่าย ได้ประมาณกว่า 1 ปี
ทั้งนี้ หากมีผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานพลังงานจังหวัดพะเยา ปัจจุบันตั้งอยู่เลขที่ 53 หมู่ 3 ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยาการเดินทางไปสำนักงาน หากมาจากจังหวัดเชียงราย ใช้เส้นทางถนนพหลโยธินขาล่องเมื่อมาถึงแยกป่าแดง เลี้ยวซ้ายตรงแยกไฟแดง เข้าไปอีก 200 เมตร ก็จะพบกับสำนักงาน และหากมาจากทางจังหวัดลำปาง ใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน ขาขึ้น เมื่อถึงแยกป่าแดง ก็เลี้ยวขวา เข้าไปอีก 200 เมตร
ในปัจจุบัน นายธกฤต อัมพุธ วิศวกรชำนาญการ รักษาราชการแทนพลังงานจังหวัดพะเยา และเจ้าหน้าที่สำนักงานพลังงานจังหวัดพะเยา พร้อมให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากการทำงานของสำนักงานพลังงานจังหวัดพะเยา จะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย
กลุ่มแผนและยุทธศาสตร์พลังงาน มีภารกิจหน้าที่ตามนโยบายและแผนพัฒนาของกระทรวงพลังงาน บูรณาการหน่วยงานราชการและหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อการอนุรักษ์พลังงานและการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในระดับจังหวัดให้เกิดเป็นรูปธรรม เช่น การให้ความรู้ความเข้าใจด้านการอนุรักษ์พลังงาน แก่หน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา โรงเรียน และหน่วยงานเอกชนอื่นๆ การส่งเสริมและสนับสนุนด้านพลังงานทดแทน แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ ลดรายจ่ายในมิติด้านพลังงาน
และอีกกลุ่ม คือ กลุ่มส่งเสริมและกำกับกิจการพลังงาน มีภารกิจหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง ควบคุม ดูแล ตรวจสอบ ตรวจตราด้านเทคนิคและความปลอดภัยของสถานประกอบการด้านการค้าน้ำมันและก๊าซปิโตรเลียมเหลว และกฎหมายว่าด้วยการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง เช่น การจดทะเบียนผู้ค้าน้ำมันและก๊าซปิโตรเลียมเหลว การออกใบรับแจ้งผู้ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ตลอดจนการเก็บตัวอย่างน้ำมันเพื่อตรวจสอบคุณภาพประจำปี
อังคณา จิระดา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี