‘นร.-ชาวบ้านลิพัง’เฮ.! จว.-จิตอาสารวมใจสร้างสะพานไม้ไผ่ชั่วคราวข้ามคลองแล้ว
6 ตุลาคม 2563 ที่บริเวณสะพานข้ามคลองลิพัง (หน่วยพิทักษ์ป่าน้ำตกทานกระจาย) บ้านท่าเขา 5 บ้านเขาติง ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง รักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายไพโรจน์ ศรีลุมุล นายอำเภอปะเหลียน , นายสมเจตน์ หนูหมาด นายก อบต.ลิพัง , นายสมบัติ น้อยกูต กำนัน ต.ลิพัง , นายประจักษ์ ปิยะวงค์ ผญบ.หมู่5 บ้านท่าเขา ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง , นายปรีชา สำแดง หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าน้ำตกธารกระจาย พร้อมจิตอาสาในพื้นที่ชาวบ้านร่วมกันก่อสร้างสะพานไม้ไผ่ชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่ใช้สะพานเป็นเส้นทางสัญจร โดยเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ในช่วงพายุโนอึล มีฝนตกหนัก น้ำไหลหลากซัดจนสะพานขาด โดยสะพานชั่วคราวก่อสร้างเป็นสะพานไม้ไผ่ขนาดกว้าง 1.5 เมตร ยาว 16 เมตร
ก่อนหน้านี้ ครอบครัว 2 พ่อลูก คือ นายธวัชชัย อินทร์เครา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/4 ต.ลิพัง กับเด็กหญิงอัจฉราพร อินทร์เครา (น้องแพรวา) อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.ปะเหลียน ต้องใช้สะพานข้ามคลองเพื่อไปโรงเรียนและกลับบ้านทุกวันทั้งเช้า - เย็น ช่วงสะพานขาดนายธวัชชัยต้องแบกน้องแพรวาขึ้นขี่คอ เพื่อนำไปส่งอีกฟาก ก่อนที่จะกลับไปเอากระเป๋านักเรียนเดินข้ามผ่านมาสร้างความทุลักทุเลและได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ การก่อสร้างสะพานชั่วคราว มีการนำต้นไผ่ที่ปลูกในพื้นที่ตัดให้มีขนาดเพียงพอกับความกว้างของคลองมาวางพาดเรียงบนไม้บนหลักเสาไม้ที่ปักลงในคลอง จากนั้นใช้เชือกผูกอย่างแน่นหนาตามหลักวิชาการลูกเสือเพื่อนให้สะพานได้มาตรฐานมีความมั่นคงและปลอดภัยในการใช้เส้นทาง โดยนายขจรศักดิ์ นำคณะเดินสำรวจความมั่งคลปลอดภัยของสะพานโดยกำชับให้มีการก่อสร้างราวสะพานเสริมเพื่อให้ชาวบ้านที่ใช้สะพานจับเพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นายธวัชชัย กล่าวว่า รู้สึกพอใจมากที่มีการก่อสร้างสะพาน ทำให้ไม่ต้องเดินทางลำบาก พาลูกไปโรงเรียนก็ไม่ต้องลำบาก หากลูกสาวกลับมาเห็นสะพานตรงนี้ลูกคงดีใจและไม่รู้สึกกลัวแล้วเพราะเดินได้สบายกว่าแต่ก่อน แต่หลังจากนี้แล้วหากสามารถสร้างสะพานแบบระยะยาวได้จะรู้สึกดีมาก
นายประจวบ ด้วงดำ อายุ 65 ปี ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ด้านใน บอกว่า ตนเองรู้สึกดีใจเช่นกัน ที่มีสะพานแล้ว จะได้เข้าไปกรีดยางพาราได้
ขณะที่ นายประจักษ์ ปิยะวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่5 กล่าวว่า ตอนนี้ที่อาศัยอยู่ฝั่งโน้นก็มีจำนวน 2 ครัวเรือน และที่มากรีดยางประมาณ 30 กว่าราย ซึ่งสะพานก่อนหน้านี้เขาสร้างกันเอง ได้มาช่วยกันสร้างใหม่ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ชาวบ้านแถวนี้จะช่วยกันดูแลตลอด คลองแห่งนี้ชื่อคลองลิพัง ส่วนสะพานที่กำลังสร้างอยู่กว้าง 1.5 เมตร ยาว 16 เมตร
ด้านนายไพโรจน์ ศรีละมุน นายอำเภอปะเหลียน กล่าวว่า จากการที่น้ำพัดทำให้สะพานข้ามคลองตรงนี้ได้ชำรุดไป ในช่วงพายุโนอึลทำให้ชาวบ้านในบริเวณนี้ อาศัยอยู่ 2 ครัวเรือนและทำเกษตรจำนวน 30 กว่าราย ได้รับความเดือดร้อน ทางหมู่บ้านโดยการนำของผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลลิพัง ทางอบต.ลิพัง ทางผู้นำในพื้นที่ ส่วนราชการหัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าน้ำตกธารกระจาย ซึ่งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัดของอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีหน้าที่ในการดูแลบริเวณนี้อยู่ก็ได้ร่วมกันมาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน โดยการระดมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนทั้งในส่วนของผู้นำท้องที่ ก็ได้เชิญชวนจิตอาสาในหมู่บ้านมาร่วมกันจัดหาวัสดุอุปกรณ์ธรรมชาติ คือไม้ไผ่ และใช้เชือกมาทำเป็นสะพานชั่วคราวในวันนี้และได้กำหนดมา นอกจจากจะเป็นจิตอาสาในพื้นที่แล้วจะเป็นจิตอาสาของกองร้อยอส.อำเภอปะเหลียนด้วย วันนี้ก็มากันหลายฝ่าย มีชาวบ้านม.5 ต.ลิพัง ด้วย มาร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสะพานข้ามคลองนี้ไปได้ชั่วคราวก่อน
หลังจากเสร็จสิ้นสะพานนี้ สักภายใน1-2 สัปดาห์จะทำการสร้างสะพานครอบสะพานนี้ขึ้นมาอีกทีนึงโดยใช้เสาปูนขนาดกว้าง 6 นิ้วยาว 6 เมตร จำนวน 8 ต้น จะทำเป็นเสาเข็มและใช้เป็นคานไม้ด้วยไม้แผ่นอีกที นี่ก็จะเป็นกึ่งถาวร ไม่ใช่สะพานถาวรหากจะเป็นสะพานถาวรต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก และ ก็ต้องขออนุญาตทางกรมป่าไม้ทางกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชด้วย ซึ่งทางอำเภอ ท้องถิ่น และทางอบต.ลิพังก็จะดำเนินการขอสนับสนุนงบประมาณไปยังอบจ.จังหวัดหรือว่างบของพัฒนาจังหวัดต่อไป เพื่อนำมาดำเนินการสร้างให้เป็นสะพานถาวร แต่ต้องขออนุญาตไปยังทางกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชก่อน
สะพานดังกล่าวนี้คาดว่าน่าจะรองรับได้เป็นสะพานชั่วคราวแต่ก็ยังคาดไม่ได้ว่าถ้าน้ำมาไหลหลากมาก และก็มีท่อนซุงลงมาก็อาจจะทำให้ชำรุดได้อีก ก็ต้องมีการแก้ไขกันอีกถึงแม้จะเป็นเสาคอนกรีตก็อาจจะพังลงได้เช่นเดียวกัน แต่หากให้ในระยะยาวก็ต้องก่อสร้างและใช้งบประมาณมากในการทำสะพานปูนอย่างถาวรในอนาคต และในช่วงนี้ต้องเตือนให้ชาวบ้านระมัดระวังไม่ว่าจะเส้นไหนก็ตามที่เป็นสะพานข้ามห้วยหรือลำคลองที่เป็นสะพานชั่วคราวก็ต้องแจ้งเตือนชาวบ้านให้ระมัดระวังในการเดินทางเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายขึ้น
ด้านนายขจรศักดิ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายอำเภอปะเหลียนว่ามีชาวบ้านที่ประสบภัยเกี่ยวกับเรื่องของการสัญจรสะพาน ข้ามฝั่งที่บ้านอาศัยอยู่ด้านในและมีชาวบ้านที่ประกอบอาชีพกรีดยางพารา และมีลูกสาวที่จะต้องไปเรียนหนังสือแต่สะพานไม้เกิดหักขึ้นมา ซึ่งทางเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกส่วนได้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ก็ทราบว่าสะพานที่หักก็เป็นสะพานที่สร้างไว้นานแล้ว ประมาณ 20-30 ปีเนื่องจากว่ามีพายุและน้ำพัด ทำให้สะพานชำรุด แล้วตอนนี้เราก็ได้ระดมพลมาช่วยกันสร้างสะพานชั่วคราวขึ้นมาก่อน เพราะว่าเขตที่เราจะข้ามฝั่งไปของชาวบ้าน นั้นอยู่ในเขตของกรมอุทยานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด
นายขจรศักดิ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ที่ตนเองมาก็ได้มากำกับดูแลให้ช่วยเหลือชาวบ้านให้สามารถข้ามสะพานได้ชั่วคราวก่อน ในระยะต่อไปทางนายอำเภอและส่วนที่เกี่ยวข้องก็จะได้ประสานในเรื่องของการสร้างสะพานขึ้นมาจะเป็นกึ่งถาวรแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็จะต้องขออนุญาตจากกรมอุทยานอีกครั้งหนึ่งในการที่เราจะสร้างให้มันเป็นถาวรต่อไปในอนาคต ซึ่งคิดว่าคงไม่มีปัญหาในการก่อสร้างเพราะเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านเขาใช้ในเรื่องของการประกอบอาชีพ ทั้งนี้ในเรื่องปัญหาของความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนถ้ามีภัย หรือประสบเหตุที่ไหนที่เดือดร้อนเราก็จะมีศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ชาวบ้านสามารถที่จะไปร้องเรียนหรือไปแจ้งความเดือดร้อนได้ ซึ่งหน่วยงานในพื้นที่ก็จะเป็นภารกิจท้องถิ่นที่ช่วยดูแลพี่น้องประชาชนและจังหวัดตรังของเราก็ให้ความสำคัญในเรื่องของปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ถ้ามีปัญหาอะไรก็สามารถแจ้งนายอำเภอและไปตามลำดับชั้นได้เลย เราก็จะเร่งให้การช่วยเหลือซึ่งจังหวัดตรังโชคดีที่เรามีส.ส.ของจังหวัดตรังก็ลงมาช่วยดูแลและหลายๆหน่วยก็ลงมาช่วยดูแลพี่น้องประชาชนเช่นกัน
“ในส่วนของงบพัฒนาจังหวัดในเรื่องของการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนก็มีส่วนหนึ่งที่รัฐบาลให้มาแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเฉพาะเคสนี้เราต้องดูว่าสามารถสร้างสะพานโดยที่เป็นที่ของใครก่อน เราต้องขออนุญาตใครบ้างในเรื่องของการก่อสร้างแต่สิ่งที่เร่งช่วยเหลือคืออะไรที่ช่วยเหลือแบบเร่งด่วนได้เราจะทำและดำเนินการทันที ซึ่งในเบื้องต้นเราจะมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ที่เดือดร้อน และตนเองให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง” นายขจรศักดิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี