ตม.รวบยกแก๊งขบวนการลอบขนแรงงานเถื่อน ซุกรถทัวร์จากอุบลฯมุ่งเข้ากรุง
7 ตุลาคม 2563 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.เอกกมนต์ พรชูเกียรติ , พ.ต.อ.ชัยยศ วรักษ์จุนเกียรติ รอง ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.พิษณุ สิทธิฑูรย์ ผกก.สส.บก.ตม.4 และ พ.ต.อ.ดุสิตานนทร์ ทำดี ผกก.ตม.จว.อุบลราชธานี ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนแรงงานเถื่อน
สืบเนื่องจากตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สกัดกั้นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และไม่ผ่านกระบวนการคัดกรองโรค เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ซึ่ง บก.ตม.4 ได้สนองนโยบายจับกุมคนไทยลักลอบขนแรงงานเถื่อนโดยผิดกฎหมายพร้อมแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนพยายามลักลอบขนแรงงานเข้ามาทำงานเมืองชั้นในอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาจากการสนธิกำลังและบูรณาการประสานความร่วมมือระหว่าง ตม.จว.อุบลราชธานี กับหน่วยงานในพื้นที่ ทำการจับกุมแรงงานชาวลาวที่หลบหนีเข้าเมืองขณะกำลังลักลอบเดินทางเข้าไปทำงานยังกรุงเทพมหานคร บริเวณจุดตรวจความมั่นคงบ้านโบกม่วง ต.นาแวง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ซึ่งสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวหลบหนีเข้าเมืองได้ทั้งหมด 26 คน พร้อมยึดของกลาง รถยนต์โดยสารประจำทาง 1 คัน ซึ่งในขณะนั้นผู้ขับขี่รถยนต์โดยสารประจำทางได้ทิ้งรถและวิ่งหลบหนีจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ลงพื้นที่สืบสวนขยายผลหาเบาะแสผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการดังกล่าว จนกระทั่งสืบทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุรวมทั้งผู้ขับขี่รถยนต์โดยสารประจำทางที่วิ่งหลบหนีการจับกุมในวันเกิดเหตุ ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่และทำเป็นขบวนการ โดยพฤติการณ์กล่าวคือ หลังจากที่แรงงานสัญชาติลาวนั่งเรือข้ามพรมแดนมายังฝั่งประเทศไทยบริเวณริมน้ำโขง บ้านนาทราย ต.พะลาน อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการจะเป็นผู้ติดต่อให้คนนำรถยนต์มารับแรงงานที่ฝั่งไทยพาไปยังบ้านหรือสถานที่ที่เตรียมไว้ เพื่อพักรอเตรียมความพร้อมในการพาเดินทางต่อ โดยมีการคิดค่าดำเนินการคนละ 2,500 บาท หลังจากนั้นจะพากลุ่มแรงงานเดินทางไปส่งที่ บริษัทรถโดยสารประจำทาง เพื่อขึ้นรถยนต์โดยสารประจำทางพาเดินทางต่อเข้าไปยังกรุงเทพมหานคร โดยจะใช้เส้นทางเดินของรถประจำทาง
เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การออกหมายจับและสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการซึ่งเป็นชาวไทยได้ ได้แก่ นายสำราญ อายุ 47 ปี, น.ส.เพชรมณี อายุ 44 ปี และ น.ส.รัตติกา อายุ 33 ปี รวมถึงสามารถจับกุม นายประสิทธิ์ อายุ 39 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์โดยสารประจำทางคันที่ซุกซ่อนแรงงานพาหลบหนีเข้ากรุงเทพมหานคร รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 4 คน ในข้อหา “ร่วมกันหรือนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรและรู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขมราฐ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาเพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ
# ข้อมูล-ภาพ : พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รองผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม.ปรท.โฆษก สตม.และ พ.ต.อ.หญิง ทิพวรรณ โยมา ผกก.ฝอ.5 (งานประชาสัมพันธ์) บก.อก.สตม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี