วันอาทิตย์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ปฏิรูปบัตรทอง‘กทม.’ ผอ.รพ.ภูมิพลฯแนะนำ ดึงโรงพยาบาลเอกชน

ปฏิรูปบัตรทอง‘กทม.’ ผอ.รพ.ภูมิพลฯแนะนำ ดึงโรงพยาบาลเอกชน

วันอาทิตย์ ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag : บัตรทอง สปสช.
  •  

ปฏิรูปบัตรทอง‘กทม.’

ผอ.รพ.ภูมิพลฯแนะนำ

ดึงโรงพยาบาลเอกชน

เข้ามาในระบบมากขึ้น

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูมิพลฯ หวังการปฏิรูประบบหลักประกันสุขภาพในพื้นที่ กทม. จะช่วยดึงดูดโรงพยาบาลเอกชนเข้าร่วมเพื่อลดภาระโรงพยาบาลรัฐในการดูแลผู้ป่วยมากขึ้น พร้อมทั้งยังหวังจะเห็นการใช้ระบบสารสนเทศเชื่อมโยงข้อมูลการรักษาและการยืนยันสิทธิระหว่างหน่วยบริการทั่วทั้งพื้นที่ กทม.

พล.อ.ต.ทวีพงษ์ ปาจรีย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ ให้ความเห็นกรณีที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เตรียมปรับระบบบริการปฐมภูมิใหม่ในพื้นที่ กทม. โดยการเพิ่มจำนวนสถานพยาบาลมาเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในระบบบัตรทองอีก 500 แห่งทำงานเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายบริการปฐมภูมิในพื้นที่ ตลอดจนมีกลุ่มโรงพยาบาลรับส่งต่อ 2-3 แห่งในโซนนั้นๆ โดยกล่าวว่าโรงพยาบาลภูมิพลฯแม้เป็นโรงพยาบาลทหาร แต่เข้าร่วมให้บริการกับ สปสช.ตั้งแต่ยุคแรก ถือเป็นโรงพยาบาลใหญ่ในโซนเหนือของ กทม. ดูแลเขตหลักสี่ บางเขน สายไหม ดอนเมือง รองรับประชากรกว่า 3 แสนคน


ทั้งนี้ ในช่วงแรกที่ให้บริการมีคนไข้มารับบริการจำนวนมากวันละนับพันราย โรงพยาบาลจึงได้รับคลินิกเอกชนเข้ามาเป็นเครือข่าย 25 แห่งเพื่อกระจายคนไข้ไปรักษาในหน่วยปฐมภูมิใกล้บ้าน ปรากฎว่าสามารถลดจำนวนผู้ที่มาโรงพยาบาลได้ 80% อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะกระจายคนไข้ไปแล้ว แต่หลักการคือโรงพยาบาลยังให้คำมั่นสัญญาว่าผู้ป่วยยังคนไข้ของโรงพยาบาลอยู่ โรงพยาบาลจะรับผิดชอบในเรื่องการดูแลคุณภาพของหน่วยบริการเครือข่าย การวางระบบส่งต่อเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อให้มั่นใจว่าถ้าต้องส่งต่อคนไข้ก็จะมีโรงพยาบาลรองรับ อีกทั้งยังมีการรักษาโรคร่วมกับคลินิกเครือข่านในหลายๆโรค เช่น โรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง เป็นต้น ดังนั้นหัวใจสำคัญของการปฏิรูประบบปฐมภูมิของ สปสช.ครั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้คนไข้ได้รับบริการที่ดีขึ้น ถ้า สปสช.สามารถกระจายคลินิกให้มากขึ้น มีคุณภาพดีขึ้น การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคดีขึ้นจริงๆ จำนวนผู้ที่ต้องมานอนที่โรงพยาบาลก็จะลดลง

“ตอนนี้เป็นปัญหาว่าโรงพยาบาลแต่ละแห่งมีความหนาแน่นมาก หวังว่าโมเดลนี้จะช่วยดึงดูดโรงพยาบาลเอกชนเข้าร่วมมากขึ้น อย่างโรงพยาบาลภูมิพลฯตั้งอยู่โซนตอนเหนือของ กทม. ซึ่งไม่ค่อยมีโรงพยาบาลรัฐแล้ว หากระบบใหม่ของ สปสช. สามารถเพิ่ม Capacity โรงพยาบาลอื่น เช่น โรงพยาบาลเอกชน ให้เข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น ก็จะแบ่งเบาภาระในการดูแลผู้ป่วยในได้มากขึ้น” พล.อ.ต.ทวีพงษ์ กล่าว

พล.อ.ต.ทวีพงษ์ กล่าวว่า อีกประเด็นที่อยากเห็นคือการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยบริการ เช่น เรื่องใบส่งตัวจากคลินิกปฐมภูมิไปโรงพยาบาลรับส่งต่อ ซึ่งข้อมูลในใบส่งตัวจะมี 2 ส่วน คือข้อมูลการรักษากับข้อมูลสิทธิ แต่ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะใช้ยืนยันเรื่องสิทธิการรักษาเสียมากกว่า ดังนั้นถ้าสามารถเชื่อมโยงระบบสารสนเทศ ส่งข้อมูลสุขภาพจากคลินิกเข้าโรงพยาบาลและทำเรื่องการยืนยันสิทธิด้วย ก็น่าจะลดการใช้ใบส่งตัวลง 90% แต่ตกลงกันในเครือข่ายให้เรียบร้อยว่า Flow จะเป็นอย่างไร หวังว่าถ้าปฏิรูประบบใหม่แล้วทำแบบนี้ได้ทั้ง กทม.ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก

ด้าน นางสุจิน รุ่งสว่าง อนุกรรรมการหลักประกันสุขภาพเขตพื้นที่ (อปสข.) เขต 13 กทม. กล่าวว่า การยกเลิกสัญญากับหน่วยบริการเอกชนหลายแห่งในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ในช่วงนี้ประชาชนได้รับผลกระทบ ซึ่งทาง อปสข. หน่วย 50(5) และเครือข่ายภาคประชาชนได้ลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจกับพี่น้องเพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกและกังวลเกินไป และหากมองไปในอนาคตก็หวังว่าการปฏิรูประบบปฐมภูมิในครั้งนี้จะทำให้ประชาชนได้รับการดูแลที่ดีขึ้น เพราะที่ผ่านมาแม้จะพูดเรื่องคลินิกชุมชนใกล้บ้านใกล้ใจ แต่ก็ไม่เกิดจริง ประชาชนหลายคนอยู่ในพื้นที่หนึ่งแต่ไปได้สิทธิการรักษานอกพื้นที่ ดังนั้นหวังว่าเมื่อมีการปรับระบบบริการแล้วประชาชนจะได้สิทธิในการใช้บริการในพื้นที่ที่อาศัยจริงๆ เพื่อให้การเข้าถึงบริการสะดวกขึ้น ไม่ต้องเสียค่าเดินทางข้ามพื้นที่อีกต่อไป

นางสุจิน ยังย้ำความสำคัญของการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนว่าจะทำให้สามารถแก้ปัญหาวิกฤตครั้งนี้ได้ และตามแผนปฏิรูประบบบริการครั้งนี้จะมีศูนย์บริการสาธารณสุขจะเป็นแม่ข่าย ซึ่งทางหน่วย 50 (5) ภาคประชาชนก็จะเข้าไปร่วมมือช่วยทำงานเพื่อไม่ให้เป็นภาระหนักแก่หน่วยบริการ และทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการอย่างมีคุณภาพต่อไป

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'สมศักดิ์\'เผย\'ประกันสังคม-ข้าราชการ\' ตอบมาแล้วไม่พร้อมร่วม\'บัตรทอง 30 บาท 'สมศักดิ์'เผย'ประกันสังคม-ข้าราชการ' ตอบมาแล้วไม่พร้อมร่วม'บัตรทอง 30 บาท
  • ชงแยก‘ประกันสังคม’พ้นระบบราชการ หนุน‘สปสช.’ดูแลรักษาพยาบาลผู้ประกันตน ชงแยก‘ประกันสังคม’พ้นระบบราชการ หนุน‘สปสช.’ดูแลรักษาพยาบาลผู้ประกันตน
  • ‘ประกันสังคม’แจงยิบสิทธิไม่ด้อยกว่า‘บัตรทอง’ มั่นใจเสถียรภาพมั่นคง ‘ประกันสังคม’แจงยิบสิทธิไม่ด้อยกว่า‘บัตรทอง’ มั่นใจเสถียรภาพมั่นคง
  • สปสช.เปิดบริการจองคิวผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคทำกายภาพบำบัด 30 บาทรักษาทุกที่ ผ่านสายด่วน 1330 สปสช.เปิดบริการจองคิวผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคทำกายภาพบำบัด 30 บาทรักษาทุกที่ ผ่านสายด่วน 1330
  • \'สปสช.\'ยันไม่ได้ติดหนี้ รพ.มงกุฎวัฒนะ มีงบพร้อมจ่าย แต่ติดเงื่อนไขทางคดี 'สปสช.'ยันไม่ได้ติดหนี้ รพ.มงกุฎวัฒนะ มีงบพร้อมจ่าย แต่ติดเงื่อนไขทางคดี
  • ‘รพ.มงกุฎวัฒนะ’หยุดให้บริการ‘ผู้ป่วยบัตรทอง’ เหตุ สปสช.ค้างจ่ายคลินิกคู่สัญญา ‘รพ.มงกุฎวัฒนะ’หยุดให้บริการ‘ผู้ป่วยบัตรทอง’ เหตุ สปสช.ค้างจ่ายคลินิกคู่สัญญา
  •  

Breaking News

รัฐบาล‘จุดพลุ 12 แคมเปญ’ท่องเที่ยวฤดูฝน ตั้งเป้าปีนี้รายได้ 1.17 ล้านล้านบาท

สะกดทุกสายตา!'ข้าวโอ๊ต ณดาพัน'นางสาวไทยชัยภูมิ 2568 ขึ้นแท่นเต็งมงใน Preliminary Competition

ทีมวิจัยไทยค้นพบ‘เซรั่มน้ำยางพารา’ต้านมะเร็ง ลดอักเสบ

ยอมรับภาษี-อย่าผลักภาระให้ผู้บริโภค! ‘ทรัมป์’โต้ยักษ์ค้าปลีก‘วอลมาร์ท’ปมโอดขอปรับราคาสินค้า

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved