วันที่ 12 ตุลาคม 2563 ผู้กครองนักเรียนนักเรียนที่ถูกครูและพี่เลี้ยงเด็กของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ทำร้าย ประมาณ 9 คน ได้เข้าพบนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เพื่อมาติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดให้โรงเรียนสารสาสน์ฯ ดำเนินการตามบันทึกข้อตกลง ระหว่างโรงเรียนสารสาสน์ฯ กับ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งทางผู้ปกครองแจ้งว่าขณะนี้ทางโรงเรียนยังไม่ให้ความจัดเจนกับผู้ปกครองในหลาย ๆเรื่องตามที่ได้ตกลงไว้ นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังมายื่นข้อร้องเรียนเพิ่มเติม ตนจึงได้มอบให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาอำนวยความสะดวกกับผู้ปกครอง เพื่อดำเนินการตามขึ้นตอนในการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรับเรื่องร้องเรียน นางกนกวรรณ ได้ไปประชุมกับนายวีระ แข็งกศิการ รองปลัด ศธ. ซึ่งที่ได้รับมอบหมายจากนายสุภัทร จำปาทอง ปลัดศธ.ให้เป็นประธานคณะกรรมการดูแลเรื่องนี้ และมีตัวแทนจากสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนแห่งประเทศไทย รวมทั้งผู้ปกครองได้ร่วมประชุมกันอีกครั้งเพื่อให้เป็นไปตามบันทึกข้อตกลงนะหว่าง ร.ร.สารสาสน์ฯกับกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา
นางกนกวรรณ เปิดเผยภายหลังประชุม ว่า ศธ.ให้ความสำคัญกับนักเรียน ผู้ปกครองเป็นอันดับแรก ซึ่งที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะทำงานกำกับติดตามการแก้ไขปัญหา กรณีโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ โดยในคณะทำงานจะมีผู้ปกครองร่วมอยู่ด้วย เพื่อติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดให้โรงเรียนเยียวยา ตามที่โรงเรียนได้ทำบันทึกข้อตกลงไว้กับ ศธ. ในการดูแลเยียวยาผู้ปกครองนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ
นางกนกวรรณ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตัวแทนผู้ปกครองได้ยื่นเอกสารเพิ่มเติมในประเด็นที่เป็นข้อสงสัย เช่น จำนวนนักเรียนต่อห้องที่โรงเรียนอาจจะเปิดรับเกินกว่าที่ ศธ.กำหนด เป็นต้น ส่วนข้อเรียกร้องที่อยากให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งโรงเรียนนั้น ในประเด็นนี้เราต้องคำนึงรอบด้าน เพราะอาจจะละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้อื่นได้ ซึ่งเรื่องนี้ควรจะเป็นข้อตกลงระหว่างผู้ปกครองกับโรงเรียนถึงความเหมาะสมในการดำเนินการ
"ขณะนี้พบว่าโรงเรียนได้ดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงที่ให้ไว้ ค่อนข้างล่าช้าในบางเรื่อง ศธ.จึงต้องเร่งรัดโรงเรียนต่อไป ซึ่งขณะนี้ ศธ. ยังไม่ทราบข้อมูลว่าโรงเรียนได้ชดเชยค่าเสียหายให้กับนักเรียนและผู้ปกครองไปกี่คนแล้ว จึงขอให้โรงเรียนรายงานข้อเท็จจริงมาที่ ศธ.ด้วย เนื่องจากการทำบันทึกข้อตกลงครั้งนั้น ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาในการดำเนินการที่ชัดเจนว่าจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน ดังนั้น ศธ.จึงต้องติดตามเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะจากบันทึกข้อตกลงที่โรงเรียนทำไว้กับศธ. มีข้อที่ระบุว่าทางโรงเรียนพร้อมคืนคำธรรมเนียมการศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่นๆ ปีการศึกษา 2563 ให้กับนักเรียนทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น รวมถึงค่าอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และที่คุรุสภาเข้าไปตรวจสอบโรงเรียนว่าครูมีใบประกอบวิชาชีพครบถ้วนหรือไม่ ก็ให้รายงานมาให้ตน รวมถึงข้อมูลที่สช.ไปตรวจสอบว่าเปิดหลักสูตรถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ รายงานเป็นรายลักอักษรเข้ามา ซึ่งจากการหารือร่วมกันวันนี้ ทางตัวแทนผู้ปกครองก็รู้สึกพอใจในการทำงานของศธ.ที่ติดตามเรื่องนี้อย่างชัดเจนและจริงใจ" นางกนกวรรณ กล่าว
ขณะที่ผู้ปกครองนักเรียน ที่เดินทางมาติดตามความคืบหน้า กล่าวว่า วันนี้ค่อนข้างพอใจที่ทางราชการทุกหน่วยงานช่วยติดตามดำเนินการทุกอย่าง ทั้งเร่งรีบเอาค่าเทอมคืนให้ผู้ปกครอง และเข้าไปตรวจสอบโรงเรียนว่าครูมีใบประกอบวิชาชีพครบถ้วนหรือไม่ และเปิดหลักสูตรถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ แต่ในส่วนของทางโรงเรียนนั้น ทางผู้ปกครองอยากให้จ่ายเงินค่าเทอมคืนผู้ปกครอง แต่ทางโรงเรียนก็ยังไม่ได้คืนให้ ซึ่งผู้ปกครองบางคนไม่ให้ลูกมาเรียนแล้ว แต่ทางโรงเรียนก็ยังไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบสิ่งใดเลย ขณะนี้ทางโรงเรียนค่อนข้างนิ่งเฉย จึงอยากให้ทางผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์ฯเห็นใจผู้ปกครองบ้าง จะช่วยเยียวยาสภาพจิตใจเด็กๆได้อย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการชดใช้ใดๆเลย และถ้าเป็นไปได้อยากให้จบเรื่องนี้โดยเร็ว อยากให้ทางโรงเรียนสารสาสน์ฯ แสดงความจริงใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี