ศาลหลักเมืองชัยนาท เป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่าศูนย์รวมใจชาวชัยนาท แต่ที่นี่นอกจากความเป็นศาลหลักเมือง สถานที่แห่งความศักดิ์สิทธิ์แล้ว สถานที่แห่งนี้ชาวชัยนาทยังมีความรู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นศาลหลักเมืองที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งยังดำรงพระยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ มาทรงเปิดเมื่อ 33 ปีก่อน

ศาลหลักเมืองชัยนาทตั้งอยู่ริมถนนชัยณรงค์ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท เป็นศาลหลักเมืองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน เมื่อครั้งยังดำรงพระยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช
เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ มาทรงเปิดเมื่อวันที่20 ตุลาคม 2530 หรือเมื่อ 33 ปี ก่อน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่นำความปลาบปลื้มใจมาสู่ชาว จ.ชัยนาท มาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับการสร้างศาลหลักเมืองชัยนาทเริ่มการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2519 สมัยของนายประกิจ อุตโมต ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท โดยใช้วลาในการก่อสร้าง 11 ปี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดท่านอื่นอีก 5 ท่าน
มาแล้วเสร็จลงในปี พ.ศ.2530 สมัยของ นายไพรัตน์เตชะรินทร์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ที่มีการจัดสร้างพระเครื่องหลวงปู่ศุข เพื่อระดมทุนดำเนินการก่อสร้างที่ค้างคาอยู่ ซึ่งพระเครื่องรุ่นนี้ถูกขนานนามว่า “หลวงปู่ศุข รุ่นหลักเมือง” ออกให้ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนได้เช่าบูชา ซึ่งสามารถรวบรวมทุนได้ทั้งสิ้น 2,259,685 บาท 55 สตางค์

โดยการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 19กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 โดยทางจังหวัดได้อัญเชิญเสาหลักเมืองไปน้อมเกล้าถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสุหร่ายทรงเจิม เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ.2530 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลปัจจุบัน เสด็จแทนพระองค์ ทรงประกอบพิธีเปิดศาลหลักเมืองเมื่อวันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2530 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ต่อประชาชนชาวจังหวัดชัยนาทจวบจนปัจจุบันด้านความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง ชาวชัยนาทและประชาชนทั่วไปที่มากราบไหว้สักการะเสาหลักเมือง จะมีทั้งมาขอพร บนบานขอโชคลาภ และเรื่องการงาน หรือแม้แต่การต่อสู้ฟ้องร้องคดีความ ที่หลายคนบอกว่าหากมาด้วยจิตศรัทธาบริสุทธิ์ก็จะสมหวังทุกรายไป

ชูเดช สีหะวงษ์