ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการนำเสนอประเด็นของการพัฒนาที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ โดยเฉพาะด้านความเป็นอยู่และเศรษฐกิจของชาติ เพื่อจะเปิดโอกาสให้ทุกคนในสังคมช่วยกันคิดและกลั่นกรองก่อนที่จะประกาศให้เป็นแผนการพัฒนาของคนทั้งชาติ โดยเฉพาะในภาวะที่ประเทศไทยและทุกประเทศทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นผลกระทบในวงกว้างและแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีมาตรการมาหยุดยั้งการระบาด โดยเฉพาะวัคซีนซึ่งแต่ละชาติเร่งดำเนินการอยู่
รัฐบาลโดยสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.) ได้นำเสนอร่างแผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อันเป็นผลมาจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นแผน 2 ปีระหว่างปี 2564-2565 เข้าใจว่าเป็นแผนเฉพาะกิจที่ต้องการปรับบางส่วนของการดำเนินการตามแนวทางของยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งเป็นแผนระดับ 1 ระยะเวลา 20 ปี โดยยุทธศาสตร์ชาติหวังผลและวางตำแหน่งความสำเร็จไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ระหว่างทางที่เดินไปตามแผน อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์แวดล้อมที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา เช่นเดียวกับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้
ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งด้านการส่งออกโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคบริการและการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง กระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ไปยังภาคอื่นๆ ไม่เว้นแม้แต่ภาคการเกษตร
ในร่างแผนเฉพาะกิจดังกล่าว ได้นำเสนอการใช้แนวคิด“ล้มแล้วลุกไว” (Resilience) ประกอบด้วยมิติแนวทางการพัฒนา3 ประการ คือ(1) การพร้อมรับ (Cope) เพื่อให้เกิดความสามารถในการบริหารในภาวะวิกฤติได้ดี (2) การปรับตัว (Adapt) เป็นการปรับรูปแบบและทิศทางการพัฒนารองรับการเปลี่ยนแปลงได้ และ (3) การเปลี่ยนแปลงเพื่อพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน (Transform) นับว่าเป็นมิติการพัฒนาที่ถูกต้อง เหมาะสม และครอบคลุมในภาวะวิกฤติเช่นนี้เป็นอย่างดี รวมถึงมีการนำเสนอแนวคิดประกอบเพื่อชี้นำไปสู่การกำหนดเป็นแนวทางการพัฒนา 4 แนวทาง และรองรับด้วย 250 โครงการ ซึ่งแนวทางที่ 1เป็นการสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากในประเทศ(local economy) จำนวน 22 โครงการ แนวทางที่ 2 คือการยกระดับขีดความสามารถของประเทศเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว (future growth) จำนวน 98 โครงการ ใน 5 วิธีการพัฒนา เช่น การเกษตรมูลค่าสูง อุตสาหกรรมอาหารเป็นต้น แนวทางที่ 3 เป็นการพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตของคนให้เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนประเทศ (humancapital) จำนวน 52 โครงการ ใน 3 วิธีการพัฒนา และแนวทางที่ 4 คือการปรับปรุงและพัฒนาปัจจัยพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ (enabling factors) กำหนดไว้5 วิธีการ จำนวน 78 โครงการ
เมื่อพิจารณารายละเอียดของโครงการจะเห็นว่า แนวคิด วิธีการนำเสนอ ตลอดจนการกำหนดมิติการพัฒนาต่างๆ มีความเหมาะสมและดูดี แต่ยังมีหลายจุดที่ไม่สามารถรองรับได้อย่างแท้จริง เพราะยังคงใช้หลักคิดในการรวมโครงการจากหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนในปี 2564 มาเป็นโครงการภายใต้แผนดังกล่าว โดยขาดการบูรณาการสรรพกำลังให้มุ่งไปในทิศทางเดียวกัน จึงเป็นการยากที่จะประสบความสำเร็จได้ เหตุเกิดจากการเริ่มต้นของโครงการที่ขาดความใส่ใจในประเด็นฐานราก เป็นเพียงการนำกิจกรรมต่างๆ รวมกัน ขาดการบูรณาการ จึงขาดพลังในการสร้างให้บรรลุเป้าหมาย ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจึงไม่มากเพียงพอที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ โดยเฉพาะโครงการที่ดำเนินการโดยหน่วยงาน ที่เรียกกันว่างบ Function หรือเป็นงานประจำที่ต้องทำตามหน้าที่ จึงยากที่จะมุ่งผลสัมฤทธิ์ตามที่คาดหวัง เห็นได้จากที่ผ่านมาการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ ก็ออกมาในลักษณะเดียวกันส่งผลให้ขาดพลังในการขับเคลื่อน การนำงานประจำเข้าไปอยู่ในแผนปฏิรูปประเทศเพื่อให้ครบองค์ประกอบในการพิจารณาสนับสนุนงบประมาณเท่านั้น จึงตอบโจทย์เป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศได้น้อยมาก
ร่างแผนแม่บทเฉพาะกิจฯ ฉบับนี้ คนไทยทุกคนต้องช่วยกันให้ความเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาของชาติได้ สำหรับภาคการเกษตรซึ่งเป็นฐานการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่สำคัญ จำเป็นต้องได้รับการดูแลและดำเนินการอย่างมีเป้าหมายและจริงจัง มิเช่นนั้นจะเหมือนกันที่ผ่านๆ มา ที่อุดมไปด้วยโครงการที่พัฒนาขึ้นมาเป็นการเฉพาะกิจ ไม่มีเป้าหมายในการพัฒนาในระยะยาวสุดท้ายความสำเร็จจะหาไม่เจอ จะเจอแต่โครงการที่เสร็จแล้วเท่านั้น ดังนั้นอย่าได้นิ่งดูดายขอให้มาร่วมกันช่วยคิดและเสนอแนะเพื่อให้การลงทุนของประเทศในครั้งนี้ประสบความสำเร็จตามที่หวัง
สมชาย ชาญณรงค์กุล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี