ศธ.เร่งปรับหลักสูตรใหม่อิงสมรรถนะ และผลิตครูตรงหลักสูตรใหม่ เพื่อผลิตคนให้ตรงความต้องการตลาดและการเปลี่ยนแปลงของโลก
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงการปรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่า ขณะนี้การปรับหลักสูตรดังกล่าวยังไม่เสร็จสมบูรณ์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพิ่งรับฟังความเห็นจากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคณบดีคณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อให้การปรับหลักสูตรตรงกับความต้องการของตลาด และการเปลี่ยนแปลงของโลก และให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย รวมถึงความพร้อมในการผลิตครูให้มีทักษะการสอนหลักสูตรใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้าน นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า การปรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ใช้อยู่ปัจจุบันเป็นหลักสูตรอิงมาตรฐาน ซึ่งฐานความคิดมาจากอดีตที่เป็นหลักสูตรที่อิงเนื้อหา แต่เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิรูปการศึกษา และจากการประเมินการใช้หลักสูตรอิงมาตรฐาน พบว่าเด็กที่ผ่านการเรียนการสอนด้วยหลักสูตรฯอิงมาตรฐาน มีคุณลักษณะที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน สพฐ.จึงมองว่า หากเราต้องการคนที่มีคุณลักษณะหรือทักษะในการปฏิบัติตน ปฏิบัติงาน ในศตวรรษที่ 21 ทั้งเรื่องภาษา การสื่อสาร และเทคโนโลยี ฯลฯ เราจำเป็นต้องมีการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานให้สอดคล้องกับความต้องการของเทรนด์โลกปัจจุบัน จากแนวคิดนี้ สพฐ.ซึ่งมีบทบาทหน้าที่โดยตรงในการจัดทำหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงมีแนวคิดในการปรับปรุงหลักสูตรขั้นพื้นฐานจากอิงมาตรฐานมาเป็นอิงสมรรถนะ แต่อย่างไรก็ตามกระบวนการทำหลักสูตรใหม่ต้องมีหลายขั้นตอน ตั้งแต่กำหนดกรอบความคิด การจัดทำหลักสูตร การนำหลักสูตรไปทดลองใช้ การประเมินหลักสูตรจนตกผลึกมีความสมบูรณ์พร้อมจึงจะประกาศใช้หลักสูตรใหม่นี้ได้
"เนื่องจาก รมว.ศึกษาธิการ ต้องการให้การปรับหลักสูตรเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพื่อให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก เมื่อเร็วๆ นี้ สพฐ.จึงเชิญผู้เกี่ยวข้องจากคณะครุศาสตร์ / ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่างๆ และโรงเรียนสาธิตฯ มาหารือกัน เพื่อรับฟังความเห็น และรับทราบว่า สพฐ.ได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง ซึ่ง สพฐ.ได้ชี้แจงให้ที่ประชุมทราบว่า กรอบแนวคิดเป็นอย่างไร สมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับเด็กมีอะไรบ้าง แล้วจะทำให้เกิดได้อย่างไร ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นว่า ควรมีการรับฟังความเห็นจากหลายฝ่ายอีกครั้ง รมว.ศึกษาธิการ จึงมอบให้ สพฐ.เป็นหน่วยงานกลางในการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อนำมากำหนดเป็นแนวทางร่วมกันอีกครั้ง"
เลขาธิการ กพฐ.กล่าว และว่า ทั้งนี้ นายณัฏฐพล ได้แสดงความห่วงใยว่า หากจะทำหลักสูตรใหม่ ต้องทำควบคู่ไปกับการผลิตครูใหม่ เพื่อให้มีทักษะในการสอนอิงฐานสมรรถนะ จึงต้องให้อาจารย์จากคณะครุศาสตร์/ ศึกษาศาสตร์ มารับทราบหลักการและแนวทางร่วมกัน หรือมาร่วมกันสร้างหลักสูตรเพื่อให้ได้หลักสูตรที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องมองถึงแนวทางการพัฒนาครูประจำการ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนหลักสูตรที่ปรับปรุงใหม่ให้เดินไปสู่เป้าหมายที่คาดหวังได้ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี