เลขาธิการ ก.ค.ศ.เผยเกณฑ์ประเมินวิทยฐานะใหม่ ประเมินผ่านระบบออนไลน์ เพื่อลดความซ้ำซ้อน คาดเปิดใช้งานปี 64
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563 นายประวิต เอราวรรณ์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (เลขาธิการ ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ตามที่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มอบมหายให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ปรับปรุงระบบวิทยฐานะใหม่ทั้งระบบ โดย ก.ค.ศ.จะปรับปรุงระบบเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา เกณฑ์การประเมินวิทยฐานะศึกษานิเทศก์ เกณฑ์การประเมินวิทยฐานะผู้บริหารสถานศึกษา และเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะผู้บริหารการศึกษา ซึ่งการปรับปรุงครั้งนี้ ต้องสอดคล้องกับมาตรฐานวิชาชีพ มาตรฐานตำแหน่ง และมาตรฐานวิทยฐานะด้วย
นายประวิต กล่าวต่อว่า ก.ค.ศ.มีหลักการ 4 ข้อ ในการออกแบบระบบวิทยฐานะใหม่ คือ 1.ต้องลดความซ้ำซ้อนของการประเมิน เช่น ระบบการประเมินวิทยฐานะครู ต่อไปจะรวมการประเมินเงินเดือนและประเมินวิทยฐานะเข้าด้วยกัน ซึ่งจะเรียกเกณฑ์การประเมินนี้ว่า เกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance Appraisal) 2.ระบบการประเมินต่อไปจะเป็นออนไลน์ทั้งหมด เพื่อให้ทันสมัยและไม่ยุ่งยาก โดยครูไม่ต้องยื่นเป็นรายบุคคล แต่โรงเรียนหรือสถานศึกษาจะมีหน้าที่รับผิดชอบส่งข่อมูลเข้ามา โดยผู้อำนวยการโรงเรียนจะเป็นผู้ถือรหัสผ่านในการกรอกข้อมูลทั้งหมด และวงรอบการประเมินจะประเมินตามวงรอบการเลื่อนเงินเดือน คือเดือนเมษายน และเดือนตุลาคม 3.การประเมินต้องลงไปที่ผลการปฏิบัติงานของครู โดยต้องเห็นภาพการทำงานหน้างานจริงของครู และ 4.ประเมินผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน ไม่ใช่แค่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเท่านั้น แต่รวมถึงทักษะในศตวรรษที่ 21 และทักษะการทำงานในอนาคตของเด็กด้วย
"ส่วนระบบการประเมิน จะประเมินความก้าวหน้า ซึ่งต่างจากเดิมที่ครูนำสิ่งที่ตนเคยทำมาสร้างเป็นผลงานของตน แต่การประเมินแบบใหม่ ครูต้องบอกว่าในอนาคตข้างหน้าครูวางแผนจะพัฒนาอะไรบ้าง แล้ว ก.ค.ศ.จะตามประเมินเป็นระยะๆ นอกจากนี้ ครูต้องทำงานตามมาตรฐานของวิทยฐานะ เพื่อคงวิทยฐานะของตนไว้ และเมื่อครบ 5 ปีของการดำรงตำแหน่งแล้ว ครูต้องการเลื่อนวิทยาฐานะให้สูงขึ้น ครูก็จะต้องเสนอคลิปการสอนที่ดีที่สุดของตนเอง และแผนการจัดการเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ของเด็ก เข้ามาในระบบออนไลน์ ซึ่งผู้ประเมินสามารถประเมินผ่านออนไลน์ได้ทันที คาดว่าจะใช้เวลา 2 - 3 เดือน ในการประเมิน หากไม่ผ่านการประเมิน ครูก็สามารถส่งใหม่ได้ ทั้งนี้ ก็มีข้อเสนอเช่นกันว่า หากมีครูเก่งจะสามารถประเมินข้ามขั้นได้หรือไม่ ซึ่ง ก.ค.ศ.จะนำไปพิจารณาต่อไป เชื่อว่าการประเมินระบบใหม่นี้จะเป็นมิตรกับครู เพราะครูไม่ยุ่งยาก จะลดภาระของครู ลดความซ้ำซ้อนของงาน เพื่อให้ครูพัฒนาตนเองได้มากขึ้น และการประเมินต่อไปจะเป็นระบบเปิด ให้ครู ผู้บริหาร เข้ามาดูว่าการประเมินและตัวบ่งชี้มีอะไรบ้าง เพื่อให้ครูวางแผนพัฒนาตนเองให้เร็วขึ้น" นายประวิต กล่าว
นายประวิต กล่าวต่อว่า ก.ค.ศ.จะนำกรอบแนวคิดการประเมินวิทยาฐานะรูปแบบใหม่รับฟังความคิดเห็นจากผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ศึกษานิเทศก์ ผู้อำนวยโรงเรียน และครู จะนำกรอบแนวคิดนี้มาทำหลักเกณฑ์การประเมินวิทยทฐานะรูปแบบใหม่ ทั้งนี้ ต้องพัฒนาระบบไอทีรองรับเพื่อเชื่อมต่อกับศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (HCEC) ของ ศธ.ด้วย คาดว่าปีการศึกษา 2564 จะสามารถประกาศใช้เกณฑ์วิทยาฐานะใหม่นี้ได้
นายประวิต กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้ากรณีที่ผู้อำนวยการโรงเรียน กว่า 1,900 คน ร้องเรียนให้ ก.ค.ศ.ทบทวนมติ กรณีถูกพิจารณาให้เป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมินวิทยฐานะเกณฑ์ ว13 เรื่องการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยาฐานะเชี่ยวชาญ ซึ่งเปิดให้ยื่นตั้งแต่ปี 2559 และในปี 2561 ได้รับแจ้งผลการพิจารณาว่าเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติ ทำให้ครูและผู้บริหารสถานศึกษาเสียสิทธิ ให้มีสิทธิยื่นทบทวนได้เร็วขึ้นนั้น ดังนั้น ตนจะนำเข้าที่ประชุมบอร์ด ก.ค.ศ.ที่มี นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประทานในบ่ายวันที่ 28 ต.ค.นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี