28 ตุลาคม 2563 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามและเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางพาราและรักษาเสถียรภาพราคายาง เปิดเผยว่า สถานการณ์ความต้องการยางธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ยางมีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้ราคาในประเทศและในต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เป็นปัจจัยกลไกตลาดและมาตรการต่างๆของรัฐบาล
โดยเฉพาะการขับเคลื่อนโมเดล”เกษตรพาณิชย์ทันสมัย” ซึ่งเป็นความร่วมมือการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่าง ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้ดำเนินงานร่วมกันตั้งแต่ปีที่แล้วทั้งเรื่องโครงการประกันรายได้ชาวสวนยางและล่าสุดคือ 6 มาตรการปฏิรูปยางพาราตอบโจทย์ยุคนิวนอร์มอลเพื่อเพิ่มราคาและสร้างเสถียรภาพราคา รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เน้นลงทุนแปรรูปส่งเสริมวิจัยสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ใช้กลยุทธ์ใหม่การขายการตลาดเชิงรุกเจาะจีนทุกมณฑลและเปิดตลาดใหม่ๆในประเทศต่างๆ ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
1.มาตรการตลาดและราคา(Market & Price) 2.มาตรการการบริหารด้านอุปทาน(Supply Side Management) 3.มาตรการการบริหารด้านอุปสงค์ ( Demand Side Management) 4.มาตรการส่งเสริมการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม 5.มาตรการลดสต็อกยางพารา 6.มาตรการเพิ่มรายได้
นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ขยายตลาดส่งออกโดยเจรจาธุรกิจทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์เพื่อซื้อขายยางพาราและผลิตภัณฑ์ ช่วงวันที่ 30 กันยายน 2563 และ 1 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมาและในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2563 กระทรวงพาณิชย์จะร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดงาน “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด Thailand Rubber Expo ” เพื่อกระตุ้นการซื้อขายยาง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ และสินค้านวัตกรรม ที่สามารถนำไปมอบเป็นของขวัญ เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2564
ขณะที่นายประพันธ์ บุณยเกียรติ ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้ (28 ตุลาคม 2563) ว่าราคายางยังขึ้นต่อเนื่อง หลังปิดตลาดวันนี้ราคายางแผ่นรมควันพุ่งแตะสูงสุด 77.85 บาท/กก. ที่ตลาดกลางยางพารา จ.นครศรีธรรมราช ส่วนตลาดกลางฯ จ.สงขลา และตลาดกลางฯ จ.สุราษฎร์ธานี ราคาอยู่ที่ 77.72 บาท/กก. โดยหลังจากเปิดตลาดสัปดาห์นี้เพียง 2 วัน ราคาเพิ่มเพิ่มขึ้นกว่า 11 บาท คาดการณ์ว่าราคาสามารถพุ่งสูงต่อเนื่องแตะ 80 บาท/กก. ได้ภายในสัปดาห์นี้ และเชื่อว่าราคายางจะยังคงอยู่ในแนวบวกอย่างต่อเนื่อง และทะลุแนวต้านสูงสุดในรอบ 3 ปี 5 เดือน
ด้านนายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจัยด้านอุปสงค์อุปทานและมาตรการส่งเสริมการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลทำให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้นอ้างอิงได้จากปริมาณผลผลิตยางธรรมชาติเดือนตุลาคม 2563 อยู่ที่ 4.4 แสนตัน น้อยกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ประมาณ ร้อยละ 10 ขณะเดียวกันความต้องการยางในตลาดเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ สินค้าประเภทยุทธภัณฑ์ ถุงมือยาง ยางยืด
ทั้งนี้จีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้ายางที่มากที่สุด มีการเติบโตของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.9 ดัชนี PMI ของจีนยังอยู่ที่ 51.50 ซึ่งอยู่เหนือระดับ 50 สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจยังคงมีการขยายตัว คำสั่งซื้อยางของจีนจากต่างประเทศกลับมาฟื้นตัว การจำหน่ายรถยนต์ของจีนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 63 กำลังการผลิตของโรงงานผลิตยางรถยนต์เพิ่มขึ้น จึงมีแนวโน้มใช้ยางมากขึ้นด้วย เชื่อว่าราคายางยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และเป็นที่น่าหวั่นใจว่า ต่อไปผลผลิตยางอาจจะไม่เพียงพอสำหรับความต้องการใช้ของตลาดต่างประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี