บอร์ดก.ค.ศ.ไฟเขียว กศจ.ย้ายผอ.โรงเรียนข้ามขนาดได้
29 ตุลาคม 2563 นายประวิต เอราวรรณ์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 7/2563 ที่มีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธาน เมื่อเร็วๆนี้ ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางการย้ายผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด ศธ. ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ.0206.4/ว6 ลงวันที่ 22 เมษายน 2563 ตามที่ สพฐ.ขอให้ ก.ค.ศ. กำหนดแนวทางแก้ปัญหาการพิจารณาการย้ายผู้อำนวยการสถานศึกษา กรณีที่มีตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาในสถานศึกษาขนาดใหญ่ หรือขนาดใหญ่พิเศษว่างหลังจากย้ายครั้งแรก และไม่มีผู้อำนวยการสถานศึกษาในสถานศึกษาขนาดใกล้เคียง ยื่นคำร้องขอย้ายเข้ามา
ทั้งนี้ ก.ค.ศ.เห็นว่ากรณีดังกล่าวหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายกรณีปกติไม่ได้กำหนดให้มีการย้ายข้ามขนาดสถานศึกษาเกินกว่า 1 ขนาดที่ตนเองดำรงตำแหน่งอยู่ได้ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของราชการ ที่ประชุม ก.ค.ศ.จึงมีมติให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) พิจารณากำหนดสัดส่วนของตำแหน่งว่างที่เกิดขึ้นภายหลังการย้ายครั้งแรก การดำเนินการนั้นจะต้องดำเนินการเป็นรายกรณีหรือเป็นรายจังหวัดไป และให้ประกาศตำแหน่งว่างให้ทราบโดยทั่วกันได้เลย
นายประวิต กล่าวต่อว่า ที่ประชุมเห็นชอบเกณฑ์ในการดำเนินการขอทบทวน มติ ก.ค.ศ. กรณีไม่มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ว13/2556 ประจำปี 2559 เนื่องจาก ก.ค.ศ. ได้เปิดให้ผู้ไม่มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมิน ให้สามารถขอทบทวนในกรณีที่เห็นว่าการพิจารณาของ ก.ค.ศ. คลาดเคลื่อนจากเอกสารหลักฐานที่เสนอไว้เดิม ภายในระยะเวลา 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ ก.ค.ศ.แจ้งให้ส่วนราชการทราบ ซึ่งมีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้ายื่นคำขอทบทวนมติดังกล่าวจำนวน 1,933 คน รวมถึงมีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอีกจำนวนหนึ่งยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองด้วย เห็นว่าแม้ว่าคำพิพากษาของศาลปกครองจะมีผลเฉพาะกับผู้ฟ้องคดี แต่ก็ควรนำคำพิพากษาของศาลปกครองมาเป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับทั้งผู้ที่ยื่นคำขอทบทวน แต่ไม่ได้ฟ้องคดีปกครอง และผู้ที่ไม่ได้ยื่นคำขอทบทวน ซึ่งถือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วย
“ดังนั้น ที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการพิจารณาคำขอทบทวน เฉพาะบางกรณีที่ไม่มีประเด็นฟ้องคดีปกครอง ส่วนกรณีที่มีการฟ้องคดีปกครองก็ให้ชะลอการดำเนินการไว้ก่อน จนกว่าจะมีคำพิพากษาศาลปกครอง” นายประวิต กล่าว
นายประวิต กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ที่ประชุม อนุมัติการย้ายและแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ให้ดำรงตำแหน่งและวิทยฐานะเดิม ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งใหม่ จำนวน 52 ราย พร้อมกับมีมติ อนุมัติการย้ายและแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในสังกัด สพป.และสพม.ให้ดำรงตำแหน่งและวิทยฐานะเดิม ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งเดิม และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งใหม่ จำนวน 102 ราย
“ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้บรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ได้รับการคัดเลือกและผ่านการพัฒนาก่อนแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สพท. จำนวน 76 ราย แยกเป็น สพป.จำนวน 63 ราย สพม. จำนวน 13 ราย และมีมติอนุมัติให้บรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ได้รับการคัดเลือกและผ่านการพัฒนาก่อนแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 209 ราย แยกเป็น สพป. จำนวน 163 ราย สพม. จำนวน 46 ราย” นายประวิต กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี