ยามนี้ ลมหนาวพัดกระทบกายเป็นระลอก จึงเป็นที่ชื่นชอบ สำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งนิยมท้าลมหนาว สัมผัส ธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพร อันสวยงาม อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นรางวัลชีวิต และประทับใจไปอีกนาน
วันนี้ จะขอแนะนำไปท่องเที่ยวทางศาสนา ท่องธรรมชาติที่แสนจะโรแมนติก สัมผัส อากาศหนาวเย็นสบายบนยอดเขาที่ไม่สูงมากนัก หลายคนหลงใหลความสวยงาม น่าทึ่ง ต้องหวนกลับมาเที่ยวชมอีกครั้ง
นั่นคือ ภูพนมดี หรือภูแม่หม้าย หากจะเดินทางโดยรถยนต์ ตามถนนอรุณประเสริฐ (ถนนสายหลัก) เมื่อถึงบ้านดอนหวายให้เลี้ยวซ้าย เข้าถนนสองรองดอนหวาย-ชานุมาน เลยบ้านนาอุดมราวๆ3 กิโลเมตร ก็จะเห็นเจดีย์หินพันล้านก้อนตั้งสูงตระหง่านอยู่บนภูเขาพนมดี เป็นจุดเด่นเป็นที่สะดุดตานักท่องเที่ยวยิ่งนัก
จากป้ายบอกทางเข้าภูพนมดีสู่ถนนลูกรังคับแคบรถยนต์สวนกันไม่ได้ขับลัดเลาะตามไร่ยางพารา ไร่อ้อยไร่มันสำปะหลัง ที่ปลูกอยู่ 2 ข้างทางไปเรื่อยๆ ระยะทาง 3 กิโลเมตร ไต่เขาขึ้นไปอย่างช้าๆ ระหว่างขับรถขึ้นเขา ก็จะมองเห็นกุฏิสงฆ์ตั้งอยู่ในซอกหินเป็นระยะๆ จนถึงยอดเขาพนมดี แม้ทางขึ้นจะเป็นลูกรัง มีทางน้ำเซาะผ่านเป็นช่วงๆก็ตาม ถือว่าทางขึ้นสะดวกสบาย ไม่ถึงกับทุลักทุเลมากนัก
เมื่อยืนอยู่บนยอดภูเขาพนมดี สายลมพัดเย็นสบาย แสงแดดอ่อนๆเพราะปกคลุมด้วยใบไม้ เหมาะในการเดินเขาท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ที่ร่มรื่น ยิ่งนัก พร้อมสัมผัสแมกไม้นานาพันธุ์ ก็จะทำให้จิตใจสดชื่น ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ภูพนมดี บ้านนาอุดม ต.หนองไฮอ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ สังกัดธรรมยุติ มีกุฏิหลายหลัง ตั้งอยู่ตามถ้ำหรือซอกหิน ศาลาการเปรียญแบบเพิงสังกะสี 1 เพิง ตั้งอยู่บนลานหิน ท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์ผลิดอกออกใบอย่างสวยงามขึ้นเขียวขจีสงบร่มรื่นมาก
สำหรับภูพนมดีอยู่ในแนวเทือกเขาภูพาน เดิมมีชื่อเรียกว่า ภูแม่หม้าย เนื่องจากบริเวณภูเขาแห่งนี้ มีความอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่จำนวนมาก จึงเป็นแหล่งอาหารชาวบ้าน มักจะเข้ามาล่าสัตว์ไปทำอาหารและตัดต้นไม้ ทำบ้านเรือนเป็นประจำ โดยเฉพาะหัวหน้าครอบครัวที่เข้ามาล่าสัตว์และตัดต้นไม้ จะเกิดอาถรรพ์ ทำให้ล้มป่วยเสียชีวิต ภรรยาขาดสามี ทำให้เป็นหม้าย ทั้งหมู่บ้าน จึงถูกเรียกว่า ภูแม่หม้าย เชื่อว่า เจ้าป่า เจ้าเขา ที่ปกป้องผืนป่าแห่งนี้แสดงอิทธิฤทธิ์ ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าเข้าไปตัดไม้ทำลายป่า กระทั่งปัจจุบัน ส่วนจะหาของป่าหรือสัตว์ป่าไปทำอาหารต้องขอท่านเจ้าป่าเจ้าเขาเสียก่อน ก็จะไม่เกิดภัยอันตราย
ต่อมา มีพระกรรมฐานผ่านมาและได้ปักกลดปฏิบัติธรรม เมื่อทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ได้เปลี่ยนชื่อจากภูแม่หม้าย เป็น ภูพนมดี เพื่อเป็นสิริมงคล แต่ทางราชการ เรียกว่า ภูผาดี ซึ่งพื้นที่โดยรอบของภูพนมดี ประกอบด้วย 1.ผาดี หน้าผาชมธรรมชาติ 2.หนองหมาจอก 3.ผากล้วยไม้ 4.ป้อมฝรั่งเศส 5.ถ้ำเกีย (ค้างคาว) 6.ถ้ำปู่
อังคฮาด 7.ถ้ำแสงแก้ว 8.เจดีย์หินพันล้านก้อน 9.เรือสำเภาราชสีห์ 10.พระศรีรัตนตรัยรัตน์
ส่วนประวัติการก่อสร้างเจดีย์หินพันล้านก้อน เล่ากันว่า ในวันเพ็ญ 15 ค่ำ ชาว ต.หนองไฮ ห่างจากภูพนมดีประมาณ 5 กิโลเมตร มักจะเห็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ แปลกประหลาดเกิดขึ้นเสมอ ซึ่งชาวบ้านจะพบเห็นลำแสงสีเขียวพาดผ่านถ้ำปู่อัคฮาดไปยังถ้ำแสงแก้ว และเชื่อว่า ปู่อัคฮาดแสดงปาฏิหาริย์ ซึ่งเป็นผู้ปกป้องรักษาบริเวณพื้นป่าและเทือกเขาแห่งนี้ให้อุดมสมบูรณ์ ไม่ให้ตัดไม้ทำลายป่า ต่อมา พ.ศ.2530 พระอาจารย์ปัญญา จากวัดสุปัฏวนารามวรวิหาร จ.อุบลราชธานี ได้มาปฏิบัติธรรมร่วมกับพระอาจารย์เพียว พระอาจารย์โจ ระหว่างวิปัสสนากรรมฐานพระอาจารย์ปัญญา นิมิตอัศจรรย์ขึ้น ซึ่งเหล่าเทวดา ต้องการให้สร้างสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ จึงนำเรื่องไปปรึกษาญาติโยม จึงให้สร้างสิ่งมงคลสำหรับกราบไหว้บูชา และควรสร้างเจดีย์ เพื่อความเป็นสิริมงคล สำหรับพุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชา เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจด้วย
กระทั่งปี พ.ศ.2529 คณะสงฆ์และชาวบ้าน ต.หนองไฮ ร่วมกันดำเนินการก่อสร้าง พระพุทธรูปปางมารวิชัย สีขาวทั้งองค์ บนหน้าผา ชื่อว่า พระศรีรัตนตรัยรัตน์ และสร้างบันได 245 ขั้น เพื่อเป็นทางขึ้นลงของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชน
ต่อมา ปี พ.ศ.2542 พระอาจารย์ปัญญา เจ้าอาวาสองค์แรกร่วมกับชาวบ้าน ก่อสร้างเจดีย์ ทำจากหินภูเขาสีขาว ที่ชาวบ้าน คัดแยก ขนาด ตามต้องการ ติดกับโครงสร้างรูปร่างเจดีย์ นับพันนับล้านก้อน กลายเป็นรูปร่างเจดีย์หินพันล้านก้อน มีความสูง 30 เมตร ฐานกว้าง 20 เมตร ซึ่งภายในเจดีย์ เป็นที่สำหรับปฏิบัติธรรม ประกอบพิธีทางศาสนา และยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและรูปหล่อพระเกจิอาจารย์ชั้นนำ ที่มรณภาพไปแล้ว เช่น หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่ชา สุภัทโท เป็นต้น และภาพเขียนประวัติพระพุทธเจ้าอย่างสวยงาม อย่างที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน
สำหรับเรือสำเภาราชสีห์ อยู่ห่างจากเจดีย์หินพันล้านก้อนประมาณ 20 เมตร เดิมสร้างเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ มีลักษณะเป็นรูปเรือสำเภา หัวเป็นราชสีห์ กลางเรือภาพแกะสลักรูปพระนอนทอดยาวไปตามเรือสำเภาอย่างสวยงาม ซึ่งเรือสำเภาราชสีห์สร้างเสร็จ เมื่อปี 2547 ใช้เวลาก่อสร้าง 6 ปี
จากประติมากรรมงานทำมือชาวนาอำนาจเจริญแสนจะน่าทึ่ง ก่อสร้าง “เจดีย์หินพันล้านก้อน” บ่งบอกถึง ความอดทน ความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ของคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี .....
ที่สำคัญในช่วงส่งท้ายปีเก่ารับปีใหม่ของทุกปี ชาวบ้านนาอุดม ต.หนองไฮ อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ จะจัดงานบุญข้าวจี่ขึ้น ซึ่งสืบทอดจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น มาเป็นเวลากว่า 100 ปี ด้วยการปิ้งข้าวจี่ถวายพระสงฆ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลและได้กุศลแรง
สนธยา ทิพย์อุตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี