เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พร้อม พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.กก.1 บก.ปทส.ร่วมกับ ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. , กก.2 บก.ปทส.นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 468/2563 ลงวันที่ 5 พ.ย.63 เข้าตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมตรวจยึดเลื่อยยนต์ไฟฟ้ากว่า 192 เครื่อง

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตำรวจ กก.1 บก.ปทส.ได้ติดต่อล่อซื่อเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ผิดกฎหมายจากพ่อค้าชาวจีนผ่านแอพพลิเคชั่นหนึ่ง จนนำไปสู่การตรวจค้นโกดังย่านมีนบุรี กรุงเทพฯ พร้อมยึดเลื่อยยนต์ได้ 74 เครื่อง กระทั่งทราบว่ายังมีโกดังอีกแห่งย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นสถานที่จัดเก็บสินค้า จึงรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายค้น เมื่อไปถึงพบ น.ส.ชนิลรัตน์ อายุ 34 ปี เป็นเจ้าของโกดังแห่งนี้ ก่อนนำตรวจค้นภายใน พบเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ผิดกฎหมาย 96 เครื่อง แผ่นบังคับโซ่ 96 แผ่น รวมของกลาง 192 รายการ

สอบถาม น.ส.ชนิลรัตน์ ระบุว่า เลื่อยและโซ่ดังกล่าวเป็นของที่ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์ ตำรวจจึงแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 มาตรา 4 ฐานมีเลื่อยโซ่ยนต์ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์ และความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ฐานช่วยซ่อนเร้น จำหน่าย พาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร ก่อนนำตัวพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.พิทักษ์ กล่าวว่า การซื้อขายเลื่อยยนต์ที่ไม่ได้รับการจดทะเบียนถือว่าผิดกฎหมาย และเป็นต้นตอของการตัดไม้ทำลายป่า เพื่อเป็นการตัดวงจรจึงต้องจับกุมดำเนินคดี เบื้องต้นตอนนี้ตำรวจ บก.ปทส.รวบรวมรายชื่อผู้สั่งซื้อเลื่อยยนต์จากนายทุนรายนี้ได้แล้ว 152 รายชื่อ ซึ่งจะต้องขยายผลติดตามตัวมาสอบปากคำ ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย