อว.ผลักดัน “TASSHA” เป็นวิทยสถานด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย หวังพัฒนางานวิจัยแบบองค์รวม สู่การเป็นแหล่งเรียนรู้ของโลก คาดดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี
6 พฤศจิกายน 2563 ในการประชุมสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 3 / 2563 จัดโดยสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ทำหน้าที่ฝ่ายวิชาการและเลขานุการ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยมี นายดอน ปรมัตวินัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมด้วย ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นการจัดให้มีวิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย หรือ ทัชช่า -TASSHA (Thailand Academy of Social Sciences, Humanities and Arts) ตามที่ อว. เสนอ โดยได้มีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว. กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในหลักการ ในการให้มี TASSHA โดยมองว่า ระบบและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการวิจัยสาขาสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และการบูรณาการองค์ความรู้แบบสหวิทยาการ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ซึ่งจะนำมาสู่การแก้ปัญหาแบบองค์รวม การสร้างเทคนิค องค์ความรู้ การพัฒนางานวิจัยใหม่ๆ ที่เชื่อมโยงสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบันและอนาคต โดย ทัชช่า จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาบุคลากรด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ของประเทศ ไปสู่การสร้างคุณค่าและผลประโยชน์ของชาติ เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านการเชื่อมโยงประเทศไทยเข้ากับภูมิภาคและโลกต่อไป
ดร.เอนก กล่าวว่า ประเทศไทยยังต้องการบุคลากรการวิจัยที่เข้าใจบริบททางสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ อันเกี่ยวเนื่องกับมิติทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และวัฒนธรรม บริบทโลก การเปลี่ยนแปลงของเมือง ปัญหาความเลื่อมล้ำ ความยากจน สังคมสูงวัย หนี้สิน ธรรมาภิบาลองค์กร กระบวนการยุติธรรม การตระหนักรู้เกี่ยวกับภูมิภาคและโลก และการ พัฒนาอย่างยั่งยืน ประเทศไทยต้องการหน่วยงานวิจัยหลักที่มีบทบาทในการพัฒนาความรู้และขับเคลื่อนงานวิจัย ทางด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์ เพื่อให้มีผลกระทบที่สําคัญแก่ประเทศ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยยังขาดแคลนบุคลากรทางด้านนี้
“ถือเป็นการริเริ่มครั้งสำคัญที่นำเอาศาสตร์และมิติด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ มาต่อยอด ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงการให้ความรู้ แต่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาติ ไม่แค่การเข้าใจประวัติศาสตร์แต่คือการเชื่อมโยงกับปัจจุบันและพัฒนาสู่อนาคตด้วย โดย TASSHA จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาบุคลากร ตลอดจนเพิ่มศักยภาพของประเทศด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ นําไปสู่การพัฒนาองค์ความรู้ จากการวิจัย เพื่อสร้างคุณค่าและผลประโยชน์ เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านการเชื่อมโยงประเทศไทยเข้ากับภูมิภาคและโลก เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ของโลกต่อไป” รมว.อว.กล่าว
สำหรับ ภารกิจและบทบาทหลักของ TASSHA นั้น ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก กล่าวว่า มีภารกิจในการขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาบุคลากรด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ของไทย, พัฒนาองค์ความรู้สําคัญที่เกี่ยวข้องใน 5 ประเด็น ดังนี้ 1. สุวรรณภูมิศึกษา 2. เศรษฐกิจพอเพียง 3. วิเทศศาสตร์ 4. พิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ และ 5. ช่างศิลป์ท้องถิ่น , ส่งเสริมสนับสนุนการนําผลการศึกษาวิจัยและพัฒนาไปใช้ในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนผ่านการเชื่อมโยงประเทศไทยเข้ากับภูมิภาคและโลก , สร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายภายในประเทศ และนานาชาติ ในกรอบการดําเนินงานของ TASSHA และศูนย์ศึกษาภายใต้ TASSHA ขณะนี้อยู่ระหว่างหาสถานที่สำหรับดำเนินงานศูนย์ต่าง ๆ โดยคาดว่าจะพอเห็นภาพการดำเนินงานของ TASSHA ภายใน 1 ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี