ตุ๋นทั่ว‘พังงา-เลย’! กลุ่มคนขับรถแห่แจ้งความ โดน‘บริษัทขนพัสดุ’เชิดเงิน ปิดหนี
8 พฤศจิกายน 2563 นายปิยะพงศ์ ณ สมบัติ อายุ 35 ปี อยู่หมู่ 5 ต.มะรุ่ย อ.ทับปุด จ.พังงา ผู้เสียหายจากการสมัครขับรถรับจ้างขนส่งสินค้า พร้อมผู้เสียหายอีก 13 ราย เข้าปรึกษา นายสุทธิญาณ บุญทัน และ นายอุเทน ศรีตองอ่อน สองทนายอาสาประจำ สภ.เมืองพังงา กรณีสมัครงาน โดยผ่านประกาศชักชวนสมัครขับรถรับส่งพัสดุสินค้าของบริษัทรับขนส่งสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาเมืองพังงา ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน 2563
ทั้งนี้ ผู้สมัครต้องจ่ายเงินค่าสมัครเข้าทำงานรายละ 15,500 บาท โดยทางบริษัทอ้างว่าเป็นค่า สติ๊กเกอร์ของบริษัท 9,500 บาท ได้คืนถ้าวิ่งครบสัญญา 5 ปี และ ค่าประกันจีพีเอส (GPS) จำนวน 6,000 บาท มีการเรียกให้เริ่มทำงานตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2563 โดยตกลงค่าจ้างเดือนละ 23,000 บาท ค่าน้ำมันในการรับส่งสามารถเบิกจ่ายได้ ค่าโทรศัพท์เดือนละ 300 บาท ค่ากล่องรับส่ง 1-3 บาท เก็บกล่องได้ 5,000 กล่อง รับ 3,000 บาท และมีรางวัลจูงใจในการทำงานอื่นๆอีกส่วนหนึ่ง ทำให้ผู้เสียหายทั้ง 14 ราย หลงเชื่อพร้อมสมัครโดยมีผู้จัดการสาขา เซลล์สาขา กำหนดเปิดตัวทั่วประเทศในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม กระทั่งผ่านการทำงานกว่า 1 เดือน มีพัสดุรับส่งสินค้าเพียงไม่กี่ชิ้น และเมื่อครบกำหนดการจ่ายค่าตอบแทน ปรากฏว่าไม่มีการจ่ายค่าตอบแทน ซึ่งตกลงในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ทางผู้เสียหายซักถามผู้จัดการสาขา และผู้จัดการภาคใต้ตอนบน แต่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน และอ้างต่างๆนานา
กระทั่งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 ผู้เสียหายมั่นใจว่าไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนตามที่ตกลงไว้ก่อนหน้านี้ จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพังงา และล่าสุดได้เข้าปรึกษาทนายความอาสาดังกล่าว ซึ่งทางทนายความอาสาประจำ สภ.เมืองพังงา ได้ช่วยเหลือในการทำหนังสือเอกสารยื่นส่งความเสียหายเพื่อไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี พร้อมแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนทั่วไปที่สนใจรายได้ในการสมัครงานให้สืบทราบความชัดเจนของการรับสมัครงาน ความน่าเชื่อถือ การทำสัญญาว่าจ้าง และเงินค่าใช้จ่ายในการรับสมัคร โดยทางทนายความอาสามองลักษณะดังกล่าวอาจมีมิจฉาชีพอาศัยโอกาสฉกฉวยผลประโยชน์ได้
นายปิยะพงศ์ กล่าวว่า ได้ถูกชักชวนเข้าสมัครงานดังกล่าวทางเพจเฟซบุ๊กจากบุคคลรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.พังงา ทำให้ตนเองสนใจเงื่อนไข จึงได้ออกรถยนต์กระบะ พร้อมตกแต่งตามที่ระบุไว้ในการรับส่งสินค้า แต่ผลปรากฏต้องเสียเงินค่าสมัคร เสียเงินลงทุน เสียเวลา และเสียใจกับความหวังที่ต้องการรายได้เลี้ยงชีวิตและครอบครัว ผู้เสียหายบางรายนำเงินเตรียมคลอดลูกมาลงทุน ยังไม่รู้อนาคตว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
ขณะที่ นายสุทธิญาณ บุญทัน และ นายอุเทน ศรีตองอ่อน สองทนายอาสาประจำ สภ.เมืองพังงา กล่าวว่า การสมัครงานในปัจจุบันต้องคิดให้รอบคอบ ดูความน่าเชื่อถือ ความคุ้มในการลงทุนลงแรง กรณีนี้เป็นตัวอย่างให้ทราบว่ามิจฉาชีพสามารถแอบแฝงในหลากหลายพฤติกรรม คนตกงานในปัจจุบันมีมาก เป็นช่องทางในการแสวงหาผลประโยชน์เข้าตัว เบื้องต้นทาง ทีมทนายอาสาฯ พร้อมร่างเอกสารส่งยื่นไกล่เกลี่ยระหว่างผู้เสียหายและคู่กรณี ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมายนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และอาจนำไปสู่การกระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนอีกด้วย
วันเดียวกัน ที่ จ.เลย พ.ต.ท.วานิช ภูดวงดาษ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเลย ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายชาว จ.เลย จำนวน 6 ราย ที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีบริษัทรับขนส่งสินค้าแห่งเดียวกับที่ จ.พังงา ที่ตั้งสาขาอยู่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎเลย ว่าถูกหลอกลวงให้สมัครเป็นตัวแทนรถขนส่งสินค้า และเรียกเก็บเงินในลักษณะเดียวกับที่ จ.พังงา แต่หลังสมัครงานไปแล้วร่วม 3 เดือน บริษัทได้ปิดหนีหายไป
นายทำนอง ขุ่ยจิ้ม หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนพร้อมกับเพื่อนๆอีก 5 คน ที่ได้รับความเดือดร้อน ได้ไปสมัครงานกับบริษัทดังกล่าว ตนเริ่มสมัครวันที่ 28 กันยายน 2563 และให้เริ่มทำงานวันที่ 1 ตุลาคม 2563 จนมาถึงวันนี้บริษัทยังไม่เคยเรียกตัวไปทำงานแต่อย่างใด และไม่มีวี่แววจะได้ส่งของ แต่ก่อนที่สมัครเข้าทำงานบริษัทได้ให้โอนเงิน 15,500 บาทก่อน โดยอ้างเป็นค่าประกันจีพีเอส ค่าสติกเกอร์ติดรถ และค่าเสื้อ และสัญญาว่าจะมีเงินเดือนละ 23,000 บาท รวมทั้งมีค่ากล่อง ค่าน้ำมัน โดยเฉพาะค่าโอนเงิน เบื้องต้นพวกตนได้โอนเงินให้บริษัทไปหมดแล้ว จากนั้นทางบริษัทยังให้พวกตนเป็นตัวแทนออกหาคนอีก แต่พวกตนไม่ทำ
“พวกผมเดือนร้อนมาก บางคนออกรถป้ายแดงหวังวิ่งงาน และทุกคนที่มีรถแล้วยังต้องออกทุนซื้อตู้ทึบติดกระบะบรรทุกของ ตู้ทึบใบละ 10,000 กว่าบาท วันนี้พวกผมอย่างน้อยที่เสียเงินไปกับค่าสมัคร ค่าเตรียมพร้อมรถวิ่ง รวมๆคนละกว่า 30,000 บาท รองานมากว่า 3 เดือนแล้ว ยังไม่มีงานให้เลย ผมเคยทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็ลาออกจากงานหวังมาวิ่งรถในบ้านตนเอง กลับถูกหลอกเสียทั้งเงินเสียทั้งงาน วันนี้บริษัทที่เปิด 2 สาขาใน จ.เลย ที่หน้าราชภัฎเลย และ อ.วังสะพุง ต่างปิดบริษัทหนีหายไปแล้ว ไม่สามารถติดต่อบริษัทได้อีกเลย จึงได้เข้ามาแจ้งความในวันนี้” นายทำนอง กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี