10 พฤศจิกายน 2563 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานคณะอนุกรรมการการจัดทำกรอบการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา เนื่องจากขณะนี้กฏหมายกำหนดให้ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (สนักงาน ก.ค.ศ.) ต้องออกหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาครูภายใต้มาตรา 57 มาตรา 79 และมาตรา 80 และสอดรับกับนโยบายที่ นายณัฏฐพล ทีปสัวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ต้องการให้มีระบบการพัฒนาคนก่อน แล้วค่อยแต่งตั้ง ไม่ใช่แต่งตั้งก่อนแล้วค่อยพัฒนาซึ่งไม่ตอบโจทย์ เพราะคนที่จะมาทำงานต้องมีคุณภาพก่อน ต้องผ่านการประเมินก่อนค่อยแต่งตั้ง ซึ่งแต่ก่อนนี้เราแต่งตั้งก่อนจึงค่อยพัฒนา
ดังนั้น จึงต้องมากำหนดกรอบการพัฒนาต่อไปนี้ ข้าราชการครูทุกคนไม่ว่าตำแหน่งใดก็ต้องพัฒนาสมรรถนะพื้นฐานโดยส่วนราชการเอง 3 เรื่อง คือด้านภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารและเพื่อการทำงาน รวมถึงด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี นอกจากนี้จะต้องพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรมควบคู่ไปด้วยถึงแม้ไม่ได้เน้นแต่ทุกคนจะต้องมีทักษะนี้
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า ตำแหน่ง ผอ. สถานศึกษา และ รอง ผอ.สถานศึกษา, ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา และ รอง ผอ.เขตพื้นที่ฯ, ศึกษาธิการจังหวัด และรองศึกษาธิการจังหวัด รวมถึง ผอ.กศน.ก็ต้องผ่านการพัฒนาให้มีทักษะก่อนเข้าสู่ตำแหน่งด้วยเช่นเดียวกัน และเมื่อได้รับการแต่งตั้งแล้วก็จะมีข้อตกลงด้วยว่า หลังได้รับการแต่งตั้งแล้วจะสามารถพัฒนางานอะไรในหน้าที่ของตนเองได้บ้าง
“ซึ่งถ้าเราทำ 3 ส่วนนี้ได้ก็เชื่อว่าคนที่อยู่ในระบบนี้แล้วเท่ากับว่า ได้มีการรีสกิล อัพสกิลในการทำงานอยู่ตลอดเพื่อให้คนมีสมรรถนะ ซึ่งทางคณะอนุกรรมการศก็ได้เห็นชอบแนวทางนี้นี้แล้ว ถ้า ก.ค.ศ.อนุมัติและบอร์ดใหญ่ให้ความเห็นชอบก็จะเดินหน้ากรอบสมรรถนะนี้ได้เร็วขึ้น เพราะถ้าบอร์ดอนุมัติกรอบนี้แล้วก็จะออกเป็นหลักเกณฑ์และวิธีการและเนื้อหาสาระที่จะพัฒนาในแต่ละเรื่อง และตัวชี้วัดว่าอย่างไรผ่าน และอย่างไรไม่ผ่าน ส่วนเนื้อหาราระก็อยู่ในขบวนการที่ รมว.ศึกษาธิการ ได้ออกแบบไว้ว่าต้องมีศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (HCEC) เพื่อเป็นหน่วยพัฒนาการสอบและการอบรม และยังมีเนื้องหาเข้าไปใส่ไว้ในแพลตฟอร์มด้านการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ หรือระบบ DEEP เพื่อนำไปสู้เป้าหมายในการพัฒนาแต่ละจุดที่ต้องการ” นายอำพร กล่าว
นายอัมพร กล่าวด้วยว่า สพฐ. เตรียมการจัดสอบแข่งขันครูผู้ช่วย จะยังคงใช้หลักเกณฑ์เดิมเพื่อให้ครูทันเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ซึ่งขณะนี้กำลังให้ทาง สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติกร(สพร.) กำหนดกรอบระยะเวลา และคำนวนค่าใช้จ่ายก่อนจึงจะออกปฏิทินการสอบได้ แต่สพฐ.มีเป้าหมายให้มีคุณครูทันเปิดภาคเรียนหน้า ดังนั้น ภายในเดือน เม.ย.2564 ก็ต้องเสร็จไม่เช่นนั้นครูจะขาดแคลน ซึ่งคาดว่าจะรับได้หมื่นอัตรา
“ที่ผ่านมาที่ได้ครูไม่ครบ สาเหตุมาจากคะแนนสอบภาค ก ในวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เนื่องจากคนเรียนเอกภาษาอังกฤษก็สอบไม่ผ่านวิชาคณิตศาสตร์ และคนที่เรียนเอกคณิตศาสตร์คะแนนก็ไม่ผ่านวิชาภาษาอังกฤษ และคนที่เรียนสายอื่นยิ่งไม่ผ่านทั้งสองวิชานี้จึงทำให้ไม่มีใครสอบผ่าน ซึ่งเกณฑ์เดิมเราได้จ้างมหาวิทยาลัยออกข้อสอบภาค ก แต่การสอบครั้งต่อไปนี้เรายังไม่ได้กำหนดว่าจะให้ใครดำเนินการออกข้อสอบภาค ก แต่ถ้า กพ.ออกข้อสอบภาค ก ให้ และคุรุสภา สอบภาค ข และ สพฐ.สอบภาค ค เพียงอย่างเดียวก็จบ และเราก็ไม่ต้องใช้งบฯมาก” เลขาธิกาณ กพฐ. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี