วันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานโครงการสานพลังประชารัฐ ด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ (E5) และโครงการสานอนาคตการศึกษา (CONNEXT ED) ครั้งที่ 2 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ ว่า ที่ประชุมได้เสนอแนวทางการพัฒนาตามยุทธศาสตร์และมาตรการสำคัญ ของโครงการ ซึ่งก็จะผูกกับการทำงานของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเชื่อมโยงการทำงานของทั้ง 2 ส่วนให้ตรงกันว่าจะต้องพัฒนาไปในทิศทางใดบ้าง และการต่อยอดจะมีความเข้มข้นตามบริบทของประเทศที่เปลี่ยนไป
รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางพัฒนาตามยุทธศาสตร์มี 5 หัวข้อ 9 แนวทางการพัฒนา ได้แก่ 1.Transparency การเปิดเผยข้อมูลสถานศึกษาสู่สาธารณะ ในแนวทางการพัฒนาที่ 1. สนับสนุนการพัฒนาระบบ School Managemet System ให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยว เพื่อวัดผลอย่างโปร่งใส โดยจัดตั้งคณะทำงานพัฒนาระบบ พร้อมกับสนับสนุนให้เกิดดารใช้งานอย่างจริงจังทั่วประเทศ ขยายผลให้เกิดการบริหารจัดการสถานศึกษาผ่านระบบเพื่อการพัฒนาที่ตรงจุด 2.Market Mechanisms กลไกตลาดและวัฒนธรรมการมีส่วนร่วม แนวทางที่ 2.สร้างเครือข่ายผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ส่งเสริมองค์ความรู้ดิจิทัลสู่โรงเรียนและชุมชน โดยจะขยายผลโครงการ ICT Talent พัฒนาทักษะดิจิทัลแก่โรงเรียนและชุมชน แนวทางที่ 3.สร้างแรงกระตุ้นในการดึงความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยนำเสนอ School Partner Model ในการสร้างความร่วมมือกับเอกชน และออกนโยบายให้ผู้นำแต่ละจังหวัดและเขตพื้นที่ร่วมผลักดัน แนวทางที่ 4.นำเสนอมุมมองเชิงบวกของการศึกษาแก่สังคม เพื่อสร้างการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการศึกษา 3.High Quality Principals and Teacher การพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน แนวทางที่ 5 ถอดองค์ความรู้โมเดลการสนับสนุนต่างๆ จากภาคเอกชน โดยจัดตั้งคณะทำงานร่วมถอดองค์ความรู้ต้นแบบกับภาคเอกชน เพื่อใช้ให้เหมาะสมกับบริบทโรงเรียนทั่วประเทศ 6.ผู้อำนวยการโรงเรียนต้องเปลี่ยน ครูต้องปรับ หลักสูตรต้องแก้ไข ให้ก้าวทันศตวรรษที่ 21 โดยจัดตั้งศูนย์พัฒนาสมรรถนะครู ร่วมกับสถาบันการศึกษาและภาคเอกชน
4.Child Centric & Curriculum เด็กเป็นศูนย์กลาง เสริมสร้างคุณธรรมและความมั่นใจ แนวทางที่ 7.จัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีเด็กเป็นศูนย์กลาง ปลูกฝังคุณธรรมและค่านิยมการเรียนรู้ทุกห้องเรียน แนวทางที่ 8.สนับสนุนให้นักเรียนทุกคนเข้าถึง Online Learning Platform ให้เรียนรู้ด้วยตนเองได้ทุกที่ ทุกเวลา และ 5.DIGITAL INFRASTRUCTURES การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของสถานศึกษา แนวทางที่ 9.สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและอุปกรณ์ดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ที่ได้มาตรฐานให้ทุกโรงเรียน โดยจัดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุมทุกโรงเรียน สนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ให้เข้าถึงแหล่งความรู้ทั่วโลก และส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และบูรณาการเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
นายณัฏฐพล กล่าวว่า เชื่อว่าวันนี้ภาคเอกชนมีความเข้าใจในแนวทางที่จะทำในแต่ละจังหวัดและเห็นความจำเป็นที่จะต้องมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษามากขึ้น เพียงแต่ต้องการเห็นภาพที่ชัดเจนก่อน ซึ่งภายใน 1-2 เดือนนี้ก็จะเห็นภาพชัดเจนขึ้น เช่น เมื่อรวมโรงเรียนแล้วก็จะเกิดอะไรขึ้น เพื่อจะได้ปรับแผนการสนับสนุนหรือแผนการลงทุนได้ ลซึ่งในการดำเนินการแต่ละจังหวัดก็มีบริบทของตัวเองในการขับเคลื่อน แต่ต้องหาจุดเด่นของตัวเองให้เจอเพื่อสร้างฐานทรัพยากร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี