จากกรณีเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เริ่มระบาดในประเทศจีนตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค. 2563 ที่ต่อมาได้ถูกตั้งชื่อว่าโควิด-19 และลุกลามไปทั่วโลก ซึ่งในเวลานั้นมีรายงานว่า เครือทีพีไอ (TPI) ได้นำผลิตภัณฑ์ “ทีพีไอ ซูเปอร์แคลเซียม พีเอช12 (TPI Super Calcium PH12)” สำหรับใช้ปรับปรุงดินเพาะปลูกพืช ไปทดสอบกำจัดเชื้อตระกูล “อาร์เอ็นเอไวรัส (RNA Virus)” ที่ก่อให้เกิดโรคปากและเท้าเปื่อยในปศุสัตว์ เช่น สุกร โคกระบือ แล้วได้ผลดีและไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์แต่อย่างใด โดยเป็นการใช้แบบผงโรยตามคอกสัตว์หรือที่บาดแผลของสัตว์
ทำให้มีแนวคิดขยายผลว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะสามารถใช้กำจัดเชื้อ “SARS-CoV-2” ซึ่งเป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ของ “ไวรัสโควิด-19” ซึ่งอยู่ในตระกูลอาร์เอ็นเอไวรัสเช่นกันได้หรือไม่ จึงได้ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่ต่อยอดมาจากทีพีไอ ซูเปอร์แคลเซียม พีเอช12 ไปให้ห้องปฏิบัติการชั้นนำของประเทศไทยเพื่อให้ทดสอบสมมติฐาน กระทั่งล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้จริง
นายกล้าพันธุ์ เหงากุล ที่ปรึกษาด้านเกษตรอินทรีย์ บริษัท ทีพีไอชีวะอินทรีย์ จำกัดเปิดเผยว่า ทางทีพีไอได้ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์หลายชนิดไปให้ห้องปฏิบัติการในมหาวิทยาลัยต่างๆ ทดสอบ โดยหน่วยงานที่รับทดสอบผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับสัตว์จะเป็นคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกอบด้วย 1.ผงโรยคอกสัตว์เท้ากีบ “ไมโครมน็อค (Microme Knox)”ซึ่งต่อยอดมาจากผลิตภัณฑ์ทีพีไอ ซูเปอร์แคลเซียมพีเอช12 สำหรับใช้ปรับปรุงดินเพาะปลูกพืช
2.น้ำยาเช็ดพื้นผิว “ไมโครมน็อค โซลูชั่น(Microme Knox Solution)” 3.น้ำยาบ้วนปาก “แปรงตัง มารี โรส เมาธ์วอช ไลท์ (Printemp Marie Rose Mouthwash Light)” ซึ่งมี 2 กลิ่น คือกลิ่นมิ้นท์กับกลิ่นขิง และ 4.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมและวิตามินซีจากธรรมชาติ “ไบโอ น็อค (Bio Knox)” เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้มีผลกำจัดเชื้อโควิด-19 ได้จริง
เนื่องจากว่าบริษัทได้รับผลยืนยันประสิทธิภาพของการกำจัด RNA Virus และ DNAVirus โดยได้รับการยืนยันจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจากผลการทดลองกับสัตว์เลี้ยงต่างๆ ตั้งแต่ ไก่ สุกร โค แพะ แกะ สุนัข และแมวทางห้องปฏิบัติการ R&D ของบริษัทจึงได้ปรับปรุงสาร TPI Super Calcium PH12 ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นเหมาะสมกับการใช้บริโภคกับมนุษย์ และส่งให้คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล วิเคราะห์
อันมี น้ำยาบ้วนปากแปรงตัง มารีโรส (Printemp Marie Rose Mouth Wash) ซึ่งมี 2 กลิ่น คือ กลิ่นมิ้นท์ และกลิ่นขิง และผลิตภัณฑ์ไบโอน็อค (BioKnox) ชนิดผงสำหรับละลายน้ำดื่มฆ่าเชื้อโรค และน้ำยาเช็ดพื้นผิวไมโครโซลูชั่น (Microme Knox Solution) ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้มีผลกำจัดเชื้อโรค Covid-19ได้จริงและไม่เป็นอันตราย ขณะนี้พนักงานทีพีไอรวมทั้งสมาชิกในครอบครัวร่วมแสนคนก็ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปแล้ว และได้รับผลดีโดยไม่ปรากฏว่ามีผู้ติดโรค Covid-19 เลย
ขณะที่ ศ.(กิตติคุณ) ดร.โสภณ เริงสำราญอาจารย์ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งว่าด้วย “เชื้อตระกูลอาร์เอ็นเอไวรัส ไม่สามารถอยู่ในสภาวะที่เป็นด่างจัดได้” ซึ่งไวรัสตระกูลอาร์เอ็นเอนี้มักเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคทั้งในมนุษย์และสัตว์ ทำให้ทางทีพีไอนำงานวิจัยนี้ไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด
ศ.(กิตติคุณ)ดร.ประกิตติ์สิน สีหนนทน์ อาจารย์ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าถึงการต่อยอดงานวิจัยดังกล่าว ว่า จากกรณีที่ปศุสัตว์หลายชนิดเช่น สุกร โค กระบือ มักพบปัญหาโรคปากและเท้าเปื่อย ซึ่งเป็นเชื้ออาร์เอ็นเอไวรัสเช่นกัน ทำให้ทางทีพีไอพัฒนาผลิตภัณฑ์ไมโครมน็อค เป็นผงโรยตามคอกสัตว์หรือโรยที่แผลของสัตว์ โดยผ่านการทดสอบสรรพคุณจากห้องปฏิบัติการของคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก่อนนำไปให้เกษตรกรทดลองใช้แล้วพบว่าได้ผลดี
“ลักษณะโครงสร้างของอาร์เอ็นเอไวรัสมันจะประกอบด้วยเบส (Base) แล้วก็จะมีน้ำตาลไรโบส (Ribose) แล้วก็ประกอบไปด้วยฟอสเฟต (Phosphate) โครงสร้างยูนิตเล็กๆ ซึ่งแต่ละยูนิตเราเรียกว่านิวคลีโอไทด์(Nucleotide) ฉะนั้นสายของอาร์เอ็นเอก็จะประกอบไปด้วยนิวคลีโอไทด์หลายยูนิตด้วยกัน แล้วปรากฏว่างานวิจัยมันพิสูจน์พบว่าความเป็นด่างมันทำลายตัวฟอสเฟต ซึ่งเป็นตัวที่เชื่อมนิวคลีโอไทด์ของแต่ละตัวออกได้ เพราะฉะนั้นไวรัสก็โดนทำลาย” ศ.(กิตติคุณ) ดร.ประกิตติ์สิน อธิบาย
ศ.(กิตติคุณ) ดร.ประกิตติ์สิน กล่าวต่อไปว่าต่อมาเมื่อเริ่มมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ SARS-CoV-2 ซึ่งเป็นเชื้อตระกูลโคโรนาไวรัส (Coronavirus) ทำให้ทางทีพีไอสนใจว่าผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่จะใช้ทำอะไรกับสถานการณ์นี้ได้บ้าง และได้นำผลิตภัณฑ์หลายชนิดไปทดสอบที่ห้องปฏิบัติการของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
อาทิ ผลิตภัณฑ์ไมโครมน็อค โซลูชั่น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกับไมโครมน็อค แต่เป็นรูปแบบน้ำ พบว่าสามารถฆ่าเชื้อกลุ่มโคโรนาไวรัส รวมถึงโควิด-19 ได้เกือบ 100% เหมาะสำหรับใช้เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับเช็ดหรือฉีดพ่นสิ่งของต่างๆ ซึ่งในช่วงที่เริ่มมีสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ใหม่ๆ เจ้าของหรือผู้รับผิดชอบอาคารสถานที่ต่างๆ มักนิยมซื้อน้ำยาจากต่างประเทศที่มีราคาสูง ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ไมโครมน็อค โซลูชั่นนั้นราคาถูกกว่า
เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปาก แปรงตัง มารี โรสในการทดลองในห้องปฏิบัติการก็พบว่าสามารถ ฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัส รวมถึงโควิด-19 ได้เช่นกันซึ่งคล้ายกับที่ประเทศเยอรมนี ที่มีการนำน้ำยาบ้วนปากหลายยี่ห้อมาทดลองในห้องปฏิบัติการ แล้วพบสามารถลดจำนวนเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พบมากในน้ำลายได้ จึงเหมาะสำหรับ ทันตแพทย์ที่ต้องทำงานกับช่องปากของผู้ป่วย
และผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่ต่อยอดมาจากไมโครมน็อค คือผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มไบโอน็อค มีลักษณะเป็นผงชงดื่มกับน้ำ ซึ่งในตอนแรกตนก็ไม่กล้าดื่ม กระทั่งทราบว่า ประธานทีพีไอ คือ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ก็ดื่มเครื่องดื่มนี้เช่นกัน ทำให้ตัดสินใจลองดื่มบ้างเพราะเห็นว่าปลอดภัย ไบโอ น็อค ยังมีส่วนผสมของขิงซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แม้ยังไม่มีผลพิสูจน์ว่าสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ด้วยวิธีการดื่ม แต่การดื่มไบโอ น็อคเป็นประจำจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้สุขภาพแข็งแรง อันเป็นหนทางลดความเสี่ยงจากการป่วยจากโรคติดต่อได้
ด้าน ศ.ดร.นพ.ประเสริฐ เอื้อวรากุล รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวเสริมว่า ทางทีพีไอได้ส่งตัวอย่าผลิตภัณฑ์มาให้ทดสอบ ซึ่งรวมถึงไบโอ น็อคด้วย โดยในห้องปฏิบัติการเวลานั้นมีตัวอย่างเชื้อ SARS-CoV-2 หรือไวรัสโควิด-19อยู่พอดี จึงได้นำผลิตภัณฑ์มาใส่รวมกับเชื้อแล้วทิ้งไว้ พบว่าเพียงไม่กี่นาทีเชื้อไวรัสดังกล่าวก็ตายแล้ว เท่ากับว่าไบโอน็อคมีส่วนผสมบางอย่างที่สามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าเป็นเพียงการทดสอบในหลอดทดลองเท่านั้น
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายเดือน ม.ค. 2563 นายสันธาน ชัยพันธ์วิริยาพร รองผู้จัดการใหญ่ (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) บริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ปรับปรุงคุณภาพดิน ทีพีไอ ซูเปอร์แคลเซียม พีเอช12ได้นำไปทดลองใช้แก้ไขปัญหาการระบาดของโรคปากเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากีบ อาทิ ในพื้นที่อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เลี้ยงโคที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย แต่ต้องเผชิญกับโรคดังกล่าวบ่อยครั้ง
โดยโรคปากเท้าเปื่อยเกิดจากอาร์เอ็นเอไวรัสชนิดหนึ่งในกลุ่มที่ 4 ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับเชื้อโคโรนาไวรัสที่กำลังระบาดอยู่ในจีนและอีกหลายประเทศขณะนี้ หลังทดลองใช้งานจริงเกษตรกรเป็นเวลา 2 ปี พบว่าสามารถยับยั้งการระบาดของโรคปากเท้าเปื่อยจากเชื้อดังกล่าวได้ สำหรับวิธีการใช้คือแบบผงฉีดพ่นไปตามพื้นคอก บาดแผลของสัตว์ที่ติดเชื้อ รวมถึงซากสัตว์ที่ติดเชื้อแล้วล้มตาย อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะใช้กับโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ได้หรือไม่ เพราะเป็นเชื้อชนิดใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน
ต่อมาช่วงต้นเดือน ก.พ.2563 มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอ “Corona Virus Research by TPIPL”ทางเว็บไซต์ยูทูบ (Youtube) ซึ่งเป็นคลิปวีดีโอที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีพีไอ โพลิน จำกัด (มหาชน)เล่าว่า ทางพีทีไอได้นำผลิตภัณฑ์ ทีพีไอ ซูเปอร์แคลเซียมพีเอช12 ไปทดลองผสมน้ำดื่มก็ไม่มีปัญหากับการติดโรค CORONA VIRUS แต่อย่างใด
และเมื่อมีการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน (ขณะนั้นยังไม่ถูกเรียกว่าโควิด-19) ซึ่งเป็นเชื้อตระกูลอาร์เอ็นเอไวรัส จึงคิดว่าในเมื่อทีพีไอ ซูเปอร์แคลเซียม พีเอช12 มีฤทธิ์กำจัดเชื้อตระกูลอาร์เอ็นเอไวรัสก็น่าจะนำไปทดลองขยายผลว่าจะสามารถใช้จัดการกับเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้หรือไม่ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่เป็นอันตราย ทั้งคนและสัตว์สามารถบริโภคได้
“อย่างฟาร์มไก่เราเอาไปโปรยให้ไก่กินก็ไม่เป็นไร และไม่ระคายเคืองต่อผิวของสัตว์ หมูก็เช่นกันเราก็เอาไปให้มันกินก็กินได้ อีกทั้งยังป้องกันโรคต่างๆ ในหมูด้วย ซึ่งเราเข้าใจว่าใช้กับคนได้ อย่างเช่นผมตอนนี้ก็ทดลองกินเอง ก็ไม่มีปัญหา ละลายน้ำสัก 2 ช้อนชาก็กินได้ เป็นหวัดก็กินได้ สำหรับโคโรนาไวรัส เรากำลังอยู่ในขั้นทดลองกำลังส่งไปให้อาจารย์ทดลองดูว่าฆ่าได้จริงหรือป่าว” นายประชัย กล่าวในเวลานั้นก่อนที่จะมีการนำไปทดลองในห้องปฏิบัติการและปรากฏว่าได้ผลในเวลาต่อมาว่าสามารถฆ่าไวรัสโควิด-19 ได้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี