เงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาเอกชน สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) มีพันธกิจหลักในการส่งเสริมสนับสนุนสถาบันอุดมศึกษาเอกชนในการพัฒนาสถาบันและผลิตบัณฑิตที่มีประสิทธิภาพต่อสังคม ชุมชน และท้องถิ่น โดยคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ในการประชุมครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของรัฐมนตรีว่าการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงได้ออกประกาศคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาเอกชน เรื่อง การพักชำระหนี้แก่สถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สถาบันอุดมศึกษาเอกชนได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีหลักเกณฑ์และวิธีการพักชำระหนี้ ดังนี้
1.สถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และมีความประสงค์ขอพักชำระหนี้เงินกู้ยืมเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ให้อธิการบดีโดยความเห็นชอบของสภาสถาบันยื่นคำขอพักชำระหนี้ต่อสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
และ 2.เมื่อได้รับอนุมัติให้พักชำระหนี้แล้ว สถาบันอุดมศึกษาเอกชนจะได้รับการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยตามสัญญากู้ยืม จำนวน 2 งวด (1 ปี) ซึ่งระหว่างการพักชำระหนี้จะไม่มีการคิดดอกเบี้ย
ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดระยะเวลาการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยดังกล่าวแล้ว ให้สถาบันอุดมศึกษาเอกชนผู้กู้ยืม ผ่อนชำระหนี้รายงวดตามปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี