ป่วยใหม่10ราย
ติดโควิดจากต่างประเทศ
ศบค.ย้ำอีกห้ามการ์ดตก
ลูกชาย‘ทรัมป์’พบมีเชื้อ
ยอดทั่วโลกแตะ58ล้าน
ศบค. เผย พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 10 รายเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ตรวจพบในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ ย้ำอีกหนห้ามการ์ดตกส่วนสถานการณ์ในต่างประเทศ ลูกชายคนโต“โดนัลด์ ทรัมป์” ติดเชื้อไวรัสร้าย ขณะที่สมาคมโรคติดเชื้อเกาหลีและสมาคมทางการแพทย์ของเกาหลีใต้ เรียกร้องให้ใช้มาตรการที่เข้มข้นเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด ส่วนฮ่องกง-สิงคโปร์ ยกเลิกแผนทราเวล บับเบิล หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงมากขึ้น
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 10 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และพบในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ ทุกรายเข้าสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ประกอบด้วย เยอรมนี 1 ราย สวีเดน 1 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย สาธารณรัฐเช็ก 1 ราย เบลเยียม 1 ราย อินเดีย 1 ราย เนเธอร์แลนด์ 2 ราย และ สหรัฐอเมริกา 2 ราย มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 11 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,902 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,453 ราย ผู้เดินทางจากต่างประเทศ 1,449 ราย และผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 943 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 11 ราย รวมเป็น 3,756 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 86 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 60 ราย
โดย ศบค.ได้ย้ำเตือนทุกคนห้ามการ์ดตก และยังต้องเฝ้าระวังป้องกันโรคดังกล่าวต่อไป
ลูกชายคนโต“ทรัมป์”ติดโควิด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ วัย 24 ปี บุตรชายคนโตของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ของสหรัฐ ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และแยกกักตัวจากผู้อื่นอยู่ในขณะนี้โดยที่เขาไม่ได้แสดงอาการแต่อย่างใด ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้ออีก 1 ราย ที่เกี่ยวข้องกับทำเนียบขาว โดยโฆษกของนายทรัมป์ จูเนียร์ เปิดเผยว่า การตรวจหาเชื้อไวรัสฃองนายทรัมป์ จูเนียร์ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลออกมาเป็นบวก และเขาก็กักตัวแยกจากบุคคลอื่นทันทีที่ได้ทราบผลการตรวจ จนถึงขณะนี้ นายทรัมป์ จูเนียร์ ไม่ได้แสดงอาการใด ๆ เลยและได้ปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์เกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกประการ นายทรัมป์ จูเนียร์ ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 หลังจากที่มีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับทำเนียบขาวหลายคนที่ติดเชื้อไวรัส รวมทั้งนายทรัมป์ ผู้เป็นบิดา ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล นางเมลาเนีย ภริยาของเขาและบาร์รอน บุตรชายคนเล็ก
นอกจากนี้ คิมเบอร์ลี กิลฟอยล์ อดีตผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ฟอกซ์ นิวส์ แฟนสาวของนายทรัมป์ จูเนียร์ ก็พบว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อเดือนกรกฎาคม ก่อนหน้านี้ นายแอนดริว จูลิอานี เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและเป็นบุตรชายของนายรูดี้ จูลิอานี ทนายความส่วนตัวของนายทรัมป์ ก็ประกาศว่า เขาติดเชื้อไวรัสโควิด-19
รัฐเซาท์ออสเตรเลียจ่อเลิกล็อกดาวน์
ขณะที่รัฐเซาท์ออสเตรเลียกำลังเดินหน้ายกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อสกัดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เร็วกว่ากำหนด 3 วัน โดยในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียงรายเดียว ในขณะที่รัฐอื่น ๆ ในออสเตรเลียไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่หรือผู้เสียชีวิตมาหลายสัปดาห์แล้ว
รัฐเซาท์ออสเตรเลียประกาศล็อกดาวน์เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากชายคนหนึ่งให้ข้อมูลเท็จกับเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่าจะทำให้คนติดเชื้อไวรัสเป็นจำนวนมาก การล็อกดาวน์ ซึ่งกำหนดว่าจะใช้เวลา 6 วัน จะยกเลิกในวันอาทิตย์ แม้ว่ามาตรการอื่น ๆ ยังคงบังคับใช้ เพื่อจำกัดมิให้ประชาชนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้เป็นผู้ที่สัมผัสกับกลุ่มนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักร ซึ่งพบผู้ติดเชื้อในกลุ่มนี้ 26 คน เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีแนวโน้มว่าจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีกในช่วงไม่กี่วันข้างหน้านี้
ฟิลิปปินส์เลิกห้ามแพทย์ไปตปท.
นายซิลเวสเตรเบลโล รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ประธานาธิบดีดูเตอร์เต ได้อนุมัติให้ยกเลิกคำสั่งชั่วคราวที่ให้ระงับการเคลื่อนย้ายพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์อื่น ๆ แล้ว นายเบลโล ยังกล่าวด้วยว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มจะชะลอตัวลงแล้วในฟิลิปปินส์และสถานการณ์ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น รัฐบาลจึงสามารถอนุญาตให้บุคลากรทางการแพทย์เดินทางไปทำงานในต่างประเทศได้ ฟิลิปปินส์มียอดผู้ป่วยโควิด-19 และผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันและอัตราผู้เสียขีวิตลดลงมาก
นายเบลโล กล่าวว่า เพื่อให้แน่ใจว่า ฟิลิปปินส์มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทางการแพทย์มากเพียงพอในการรับมือกับโควิด-19 ภายในประเทศ ทางการจะอนุญาตให้พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์เดินทางไปทำงานในต่างประเทศได้เพียงปีละ 5,000 คนเท่านั้น เขากล่าวว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์กำหนดเพดานขั้นแรกที่ 5,000 คน เพื่อที่ว่าจะได้ไม่เจอปัญหาขาดแคลนพยาบาลแต่ตัวเลขอาจจะเพิ่มขึ้นในภายหลังได้
แพทย์เกาหลีใต้เรียกร้องใช้มาตรการเข้ม
สมาคมโรคติดเชื้อเกาหลีและสมาคมทางการแพทย์ของเกาหลีใต้อีก 8 แห่ง กล่าววันนี้เตือนว่า หากไม่มีมาตรการที่มีประสิทธิภาพ เช่น การเว้นระยะห่างระหว่างกันที่เข้มงวด ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันอาจจะพุ่งไปถึง 1,000 คน ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ทางกลุ่มกล่าวในแถลงการณ์ด้วยว่า ฤดูหนาวที่จะมาถึงจะเป็นความท้าทายสำคัญที่สุดในการรับมือกับโควิด-19 พร้อมกันนั้นยังเรียกร้องให้ประชาชนร่วมสมัครใจที่จะใช้มาตรการเว้นระยะห่างเพื่อช่วยควบคุมการระบาด ในขณะเดียวกัน แม้ว่าจะมีข่าวดีเกี่ยวกับความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ในฤดูหนาวปีนี้ เกาหลีใต้จะต้องหยุดยั้งเชื้อไวรัสโดยที่ยังใม่มีวัคซีน โดยในรอบ 24 ชั่วโมงจนถึงเที่ยงคืนวันศุกร์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 386 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 30,403 ราย และเสียชีวิต 503 ราย ยอดผู้ติดเชื้อทะลุเกิน 300 รายเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน
ฮ่องกง-สิงคโปร์เลื่อน“ทราเวล บับเบิล”
นายเอ็ดเวิร์ด เยา รัฐมนตรีพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจของฮ่องกง กล่าวว่า แผนระเบียงท่องเที่ยว ซึ่งจะอนุญาตให้ประชาชนของสองประเทศที่มีความมั่นใจในความปลอดภัยของโรคโควิด-19 เดินทางไปมาได้โดยไม่ต้องเข้ารับการกักตัวเพื่อดูอาการ จะเริ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนธันวาคม เขากล่าวว่า การเลื่อนโครงการนี้ออกไป ถือเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมและมีเหตุผล การเลื่อนโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่อ่องกงพบผู้ติดเชื้อไวรัสรายวันในวันนี้ 43 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดในรอบเกือบ 3 เดือน ในจำนวนนี้ มี 13 รายที่ยังไม่ทราบแหล่งที่มาที่ทำให้ติดเชื้อ ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดการระบาดระลอกใหม่ที่ไม่สามารถควบคุมได้ และเป็นเหตุผลที่หนักแน่นพอที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ของสองฝ่ายเลื่อนแผนระเบียงท่องเที่ยวออกไป
นายออง ยี คุง รัฐมนตรีคมนาคมสิงคโปร์ แสดงความคิดเห็นผ่านเพจเฟซบุ๊คของเขาว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการย้ำเตือนว่าไวรัสโควิด-19 ยังไม่ไปไหน แม้ว่าจะพยายามต่อสู้เพื่อให้ได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ราบรื่น
ป่วยทั่วโลกเฉียด58ล้านราย
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นับจนถึงช่วงเย็นวันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 พบว่า ทั่วโลกมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 57,970,452 ราย เสียชีวิต 1,378,839 ราย รักษาหาย 40,184,355 ราย สหรัฐ ติดเชื้อ 12,277,024 ราย เสียชีวิต 260,312 ราย อินเดีย ติดเชื้อ 9,050,613 ราย เสียชีวิต 132,764 ราย บราซิล ติดเชื้อ 6,020,164 ราย เสียชีวิต 168,662 ราย ฝรั่งเศส ติดเชื้อ 2,109,170 เสียชีวิต 48,265 ราย รัสเซีย ติดเชื้อ 2,064,748 ราย เสียชีวิต 35,778 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี