สนามการเมืองท้องถิ่นของ จ.บุรีรัมย์ โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บุรีรัมย์ หลังจากทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เปิดรับสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 2-6 พ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้อุณหภูมิการเมืองท้องถิ่นที่ดูคงที่ กลับสูงขึ้นมาอีกครั้ง
สำหรับเก้าอี้นายก อบจ.บุรีรัมย์ มีผู้สมัครกันทั้งหมด 8 คน คือ หมายเลข 1 นายประเสริฐ เลิศยะโส อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ หมายเลข 2 นายณัฐกิตต์ ล้อประสิทธิ์ หมายเลข 3 นายเพชร กีรติมาศ หมายเลข 4 นายภัทรพงศ์ ศุภักษร อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคอนาคตใหม่ หมายเลข 5 นายสาคร ปลื้มรัมย์ ทนายความ หมายเลข 6 นายชาติวุฒิ เสวยสุขกุล หมายเลข 7 นายสมเบียร แก้วศรีใส และหมายเลข 8 นายภูษิต เล็กอุดากร อดีต ส.อบจ.บุรีรัมย์ หลานชายของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ส่วนผู้สมัคร ส.อบจ.บุรีรัมย์ จำนวน 344 คน ถูกตัดสิทธิรับสมัคร 1 คน เหลือ 343 คน ส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง อดีตสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ เกือบทั้งหมด ข้าราชการบำนาญ ผู้ท้องถิ่น เกษตรกร และผู้นำชุมชน
ส่วนสมาชิกสภา อบจ.ทั้ง 42 เขต จำนวน 343 คน แยกเป็น “กลุ่มเพื่อนเนวิน” ของนายภูษิต เล็กอุดากร ส่งลงสมัครครบ ทั้ง 42 เขต ใน 23 อำเภอ และมีกลุ่มอิสระ
โดยกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 20 ธ.ค.2563 แบ่งการเลือกตั้งออกเป็น 42 เขตเลือกตั้ง 2,880 หน่วยเลือกตั้ง ใน 23 อำเภอ 2,546 หมู่บ้าน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 1,244,619 คน ซึ่ง กกต.ท้องถิ่นตั้งเป้ามาใช้สิทธิ์ ร้อยละ 80 ส่วนจะมีผู้มาใช้สิทธิ์มากน้อยเพียงใด เราไปดูภูมิหลังของผู้สมัครนายก อบจ.ทั้ง 8 คน ว่า มีดีเด่นดังอะไรบ้าง และกระแสคนบุรีรัมย์ จะเลือกใครเข้ามาเป็นนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ครั้งนี้
เริ่มที่ นายประเสริฐ เลิศยะโส อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ ซึ่งคร่ำหวอดในแวดวงการเมืองมาตลอดด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น อยากจะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ก็ศักดิ์ศรีชาวบุรีรัมย์ นำการพัฒนาทุกด้าน และต้องการเปลี่ยนแปลงจังหวัดบุรีรัมย์ให้ดีขึ้น ทั้งคุณภาพชีวิตและสาธารรูปโภค ส่วนตัวการเลือกตั้งครั้งนี้ก็มั่นใจ แต่ผลจะเป็นยังไงก็ต้องขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน จึงทำให้การเลือกตั้งดูเข้มข้นขึ้นมาทันที
ด้านคู่แข่งที่คาดว่าสู้กันเข้มข้นอย่าง นายภูษิต เล็กอุดากร อดีต ส.อบจ.บุรีรัมย์ เขต อ.พลับพลาชัย หลานชายของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด กลุ่ม “เพื่อนเนวิน” ที่ขันอาสามารับใช้พี่น้องประชาชน หลังนางกรุณา ชิดชอบ อดีตนายก อบจ.บุรีรัมย์ ไม่ลงสมัคร อยากจะขอดูแลครอบครัว เนื่องจากลูกๆโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้ว อีกทั้งอยากจะลงมาทำธุรกิจและกิจการที่ทางครอบครัวดำเนินการอยู่ทั้งในเรื่องสโมสรฟุตบอล รวมถึงสนามแข่งรถช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตให้เต็มที่กว่าที่เป็นอยู่ จึงอยากจะส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาบริหารดูแลพัฒนา จ.บุรีรัมย์ จึงตัดสินใจส่งนายภูษิต ลงสมัครครั้งนี้ ที่มีฐานคะแนนแน่นปึ๊กในแทบทุกพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์
การลงสนามการเมืองท้องถิ่นของ นายภูษิต คราวนี้ คาดหวังมานั่งเก้าอี้นายก อบจ.บุรีรัมย์ ที่มีฐานคะแนนหลักเป็นอดีตสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ นายกเทศมนตรี อบต. แต่การเลือกตั้งยังไม่จบสิ้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
นายภูษิต กล่าวเพียงสั้นๆว่า ก็แล้วแต่พี่น้องประชาชนจะเป็นคนตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งตนเองก็ค่อนข้างที่จะมั่นใจว่าจะได้รับเลือกตั้ง ส่วนนโยบายหลักๆ จะดำเนินการสานต่อ ที่ นางกรุณา ชิดชอบ ได้ดำเนินการไว้
โดย “กลุ่มเพื่อนเนวิน” พร้อมสานงานต่อ ก่องานใหม่ เพื่อให้จังหวัดบุรีรัมย์เดินหน้าพัฒนา ในด้านเศรษฐกิจ ปากท้อง สร้างรายได้ให้พี่น้องชาวบุรีรัมย์ ต่อยอดเมืองกีฬาระดับโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยว พัฒนาถนน และแหล่งน้ำให้พี่น้องชาวบุรีรัมย์ มีรายได้ กินดีอยู่ดี
แต่ก็ยังมีอีกคนคือ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 3 พรรคอนาคตใหม่ เป็นคนรุ่นใหม่ หวังเชิญคนรุ่นใหม่ ร่วมสร้างประชาธิปไตยบริสุทธิ์ “กล้าคิด กล้าทำ กล้านำ กล้าเปลี่ยนแปลง” ขอบอกเลยว่าประมาทเขาคนนี้ไม่ได้ หากทั้งนายภูษิต และนายประเสริฐ ฟัดกันนัวเนีย และซวนเซกันไปทั้งคู่ อาจจะเสร็จ นายภัทรพงศ์
ขณะที่ผู้สมัครอีก 5 คน แม้ชื่อเสียงจะไม่โด่งดัง และไม่เคยผ่านสนามการเมืองท้องถิ่นมาเลยอย่าง คือ นายณัฐกิตต์ ล้อประสิทธิ์ , นายเพชร กีรติมาศ , นายสาคร ปลื้มรัมย์ ทนายความ, นายชาติวุฒิ เสวยสุขกุล , นายสมเบียร แก้วศรีใส ที่ไม่ค่อยคาดหวังอะไรมากกับการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ขออาสารับใช้พี่น้องชาวบุรีรัมย์ เป็นตัวเลือกใหม่ในการตัดสินใจ ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นไม้ประดับทางการเมือง โดยผู้สมัครกลุ่มอิสระ แต่ละคน ก็หวังคะแนนสงสารจากพี่น้องประชาชนทั้ง 23 อำเภอ เลือกเข้าไปทำหน้าที่บริหาร อบจ.บุรีรัมย์
ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการแข่งขันกันระหว่าง นายภูษิต , นายภัทรพงศ์ และนายประเสริฐ ทั้ง 3 ล้วนเป็นนักการเมืองท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ความได้เปรียบนั้น ฟันธงไว้เลยว่า นายภูษิต จะมีภาษีดีกว่าผู้สมัครคนอื่น แต่ก็ยังมีตัวสอดแทรกจากผู้สมัครอิสระ ที่ประมาทไม่ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นตาอยู่ คว้าเก้าอี้นายก อบจ.บุรีรัมย์ ไปครองชนิดไม่ต้องออกแรงก็เป็นได้
หลายคนมีคำถามว่า “ใครจะคว้าเก้าอี้นายก อบจ.บุรีรัมย์ เพราะผู้สมัครแต่ละคนนั้น ล้วนมีดีกรี และประสบการณ์ในการทำงานสนามท้องถิ่นมามากมาย ทำให้สนามนี้ดูเข้มข้นขึ้นมาก ส่วนการวิเคราะห์ดูความเข้ม และความเด่นชัด คงต้องให้ชาวบ้านพิจารณากันเองในดีกรีของแต่ละคน นี่คือข้อมูลในการที่จะให้ประชาชนทั้ง 23 อำเภอ ของ จ.บุรีรัมย์ ได้พิจารณาเพื่อไปใช้สิทธิในวันที่ 20 ธันวาคม นี้ ว่าใครจะได้เข้ามารับใช้ชาว อบจ.บุรีรัมย์ มากที่สุด
สำหรับการหาเสียงของผู้สมัครแต่ละคน เริ่มคึกคัก พบว่าส่วนมากจะใช้วิธีการแนะนำตัวผ่านโซเชียล และจัดทีมงานออกไปติดโปสเตอร์หาเสียงตามที่ต่างๆ และมีรถโฆษณาหาเสียงตระเวนไปทั่วในเขตเลือกตั้งตลอดทั้งวัน ซึ่งยอมรับว่ามีการจัดตั้งทีมงานที่ไว้ใจได้ นอกจากนี้ ยังมีการออกพบปะจัดปราศรัยย่อยตามหมู่บ้าน ชุมชนเพื่อขอคะแนนเสียงอีกด้วย
สนามเลือกตั้งนายก อบจ.บุรีรัมย์ และสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ครั้งนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษว่า จะมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง คาดว่าในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งจะมีการเกณฑ์หัวคะแนนของแต่ละฝ่ายเพื่อคุมฐานคะแนนเสียงกันแบบถึงลูกถึงคนอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ยังมีการส่งทีมงานเข้าไปเจาะหาผู้นำในท้องถิ่นให้ช่วยเป็นหัวคะแนน เพื่อพยายามเจาะฐานเสียงคู่แข่งโดยอาศัยญาติพี่น้อง และผู้ใกล้ชิด แบบน้ำซึมบ่อทราย ซึ่งจะเป็นคะแนนจัดตั้งมากกว่า ท้ายที่สุดแล้วผลการเลือกตั้งจะออกมาในรูปใดคงต้องรอในวันที่ 20 ธันวาคม นี้ จะเป็นเครื่องชี้วัดได้ว่า ชาวบุรีรัมย์ จะเลือกใครเป็นนายก อบจ.บุรีรัมย์ เข้ามาทำงาน.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี