กรณีที่คนร้ายบุกงัดประตูหลังหน้าผาเขาพระทอง ภายในวัดเขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ขโมยพระพุทธรูปเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี รวม 8 องค์ที่ประดิษฐานบนโต๊ะหมู่บูชาหน้าหลวงพ่อองค์ใหญ่ เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา คนร้ายมีรูปพรรณแต่งกายมิดชิด สวมหมวกปิดบังใบหน้า และสะพายกระเป้าคาดหน้าอกสีดำ หยิบเอาพระพุทธรูปที่วางอยู่บนโต๊ะหมู่ใส่กระเป้าสะพาย แล้วหลบหนีไปทางเดิน เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นขี้ยาในพื้นที่
ล่าสุดวันที่ 24 พ.ย.63 พ.ต.อ.เธียร บาลทิพย์ ผกก.สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เผยว่า หลังเกิดเหตุ ร.ต.ต.คะนอง เรียนสุทธิ์ รอง สวป.หัวหน้าสายตรวจป้อมเขาพระทอง พร้อมชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนสืบสวนหาข่าวและติดตามจับกุมคนร้าย จนสามารถจับกุมนายมารุสรณ์ เครื่องหลัง หรือ กุ้ง อายุประมาณ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 5 ต.ท่าประจะ อ.ชะอวด ผู้ต้องหาขโมยพระพุทธรูป พร้อมยึดของกลางพระพุทธรูป 4 องค์ รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 1 คัน ส่วนพระพุทธรูปอีก 4 องค์ ถูกนำไปขายให้แผงพระแห่งหนึ่ง ใน จ.ภูเก็ตแล้ว
สอบสวนผู้ต้องหา เบื้องต้นรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุจริงวันเกิดเหตุมีฝนตกเล็กน้อย ตนบุกงัดกุญแจประตูเหล็กดัดด้านหลังหน้าผาเขาพระทองเข้าขโมยพระพุทธรูปบนโต๊ะหมู่บูชาจำนวน 8 องค์ ใส่กระเป้าผ้าที่เตรียมมา ซึ่งเป็นกระเป้าผ้าสีเขียว ระบุพระราชทาน อย่างไรก็ตามขณะงัดตัดกุญแจประตูเหล็กดัด มีแสงคล้ายแสงฟ้าผ่าลงมาที่ตน ยอมรับว่าตอนนั้นกลัว แต่ด้วยความเมายาเสพติดที่เพิ่งเสพมา จึงยังลงมือก่อเหตุ ยอมรับว่าหลังขโมยนพระพุทธรูปไปกลางคืนนอนไม่หลับแม้แต่คืนเดียว มีเสียงแว่วในหูตลอดเวลา ก่อนจะนำพระพุทธรูปที่ขโมยจำนวน 4 องค์ไปขายให้แผงพระแห่งหนึ่งใน อ.ชะอวด ราคา 4,000 บาท เพื่อนำเงินไปซื้อยาเสพติด
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจจะสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามพระพุทธรูปอีก 4 องค์และจะติดตามคนที่รับซื้อพระพุทธรูปมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการขโมยพระพุทธรูปหรือไม่
พระมหาอารยนันต์ อนันโท เจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง เผยว่า ทราบข่าวจากตำรวจ ว่าจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุลักพระพุทธรูปบริเวณหน้าเผาเขาพระทองแล้ว รู้สึกดีใจ เพราะพระพุทธรูปที่ถูกขโมยไปเป็นสมบัติของชาติ เป็นสมบัติของศาสนา เป็นพระพุทธรูปโบราณที่เก่าแก่อายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี ซึ่งขุดพบในถ้ำโหม่งด้านหลังเขาพระทองนำมาประดิษฐานไว้บนโต๊ะหมู่บูชาหน้าหลวงพ่อองค์ใหญ่ อายุกว่า 800 ปีที่ชาวบ้าน ชาวพุทธให้ความเคารพนับถือกราบไหว้เพื่อคามสิริมงคล
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความหดหู่ให้กับชาวพุทธเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามขอขอบคุณทางตำรวจที่ทำงานอย่างหนัก เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายและนำพระพุทธรูปมาคืนให้กับวัด แม้ว่าตอนนี้ได้พระพุทธรูปคืนมา 4 องค์ แต่ทราบว่าอีก 4 องค์ เจ้าหน้าที่กำลังเดินทางไปที่แผงพระใน จ.ภูเก็ต หลังจากนี้ขอให้ตำรวจดำเนินคดีผู้ต้องหาตามกฎหมาย ส่วนพระพุทธรูปที่ถูกขโมยไปนั้น หลังจากนี้ทางวัดจะเก็บรักษาไว้ในศาลาของวัดต่อไป
นางสุดารัตน์ ชุมแก้ว อายุ 45 ปี ชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนทราบถึงชื่อเสียงและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อองค์ใหญ่อายุกว่า 800 ปี ที่ประดิษฐานหน้าผาภายในวัดเขาพระทอง จึงเดินทางมากราบไหว้บูชา และบนบานขอโชคลาภ และค้าขาย ประสบความสำเร็จแล้วหลายครั้ง หลังทราบข่าวพระพุทธรูปโบราณถูกคนร้ายขโมยไป รู้สึกหดหู่ใจ เสียใจ สาปแช่งคนร้ายให้ได้รับความเดือดร้อน อยู่ไม่เป็นสุข จะต้องนำพระพุทธรูปมาคืน หรือไม่ขอให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายและนำพระพุทธรูปกลับมาเป็นสมบัติของศาสนา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี